ไม้อัดยาง

1. ไม้อัดยาง คืออะไร?

ไม้อัดยาง (Rubberwood Plywood) คือวัสดุไม้แปรรูปที่ผลิตจาก ไม้ยางพาราธรรมชาติ ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ผ่านกระบวนการ อบแห้ง (Kiln Dry) เพื่อลดความชื้นในเนื้อไม้ให้เหมาะสม ก่อนนำมาปะกบกันหลายชั้นด้วย กาวคุณภาพสูงชนิด Urea หรือ Phenol Formaldehyde แล้วอัดแน่นด้วยแรงดันและอุณหภูมิสูงจนเป็นแผ่นเดียวกัน

กระบวนการนี้ทำให้ไม้อัดยางมี ความแน่น แข็งแรง และคงรูปดีเยี่ยม แม้ในสภาพอากาศชื้นหรือร้อนชื้นแบบประเทศไทย อีกทั้งยัง น้ำหนักไม่มากเกินไป จึงเคลื่อนย้ายหรือติดตั้งได้ง่ายกว่าไม้จริงทั้งแผ่น

จุดเด่นสำคัญคือ พื้นผิวเรียบ ลายไม้สวยธรรมชาติ และสามารถนำไปตกแต่งหรือปิดผิวเพิ่มเติมได้หลายรูปแบบ เช่น การปิดเมลามีน ลามิเนต หรือทาสี จึงเป็นวัสดุที่ช่างเฟอร์นิเจอร์และสถาปนิกนิยมใช้กันแพร่หลาย ตั้งแต่งานเฟอร์นิเจอร์ บิวต์อิน งานตกแต่งภายใน ไปจนถึงงานก่อสร้างทั่วไป

นอกจากนี้ ไม้อัดยางยังถือเป็นไม้อัดที่ ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เพราะใช้วัตถุดิบจากภายในประเทศ ทำให้ ราคาย่อมเยาแต่ได้คุณภาพสูง เป็นตัวเลือกที่ผสมผสานทั้ง “ความสวยงาม + ความแข็งแรง + ความคุ้มค่า” ได้อย่างลงตัว

2.ไม้อัดยางมีกี่เกรด และคุณสมบัติของแต่ละเกรด

ไม้อัดยางที่จำหน่ายในท้องตลาดแบ่งออกเป็นหลายเกรด โดยทั่วไปนิยมใช้กันคือ เกรด A และเกรด B ซึ่งแต่ละเกรดมีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันออกไป

• ไม้อัดยางเกรด A ถือเป็นเกรดคุณภาพสูง ผิวหน้าของแผ่นไม้อัดเรียบเนียน สม่ำเสมอ ไม่มีร่องรอยตำหนิหรือรอยต่อที่เห็นได้ชัดเจน จึงเหมาะกับงานที่ต้องโชว์ผิวไม้โดยตรง เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ งานบิวต์อิน และงานตกแต่งภายในที่ต้องการความสวยงามเป็นพิเศษ จุดเด่นคือสามารถทาน้ำยา เคลือบผิว หรือทำสีเพิ่มเติมได้ง่าย ทำให้งานออกมาดูพรีเมียมและมีอายุการใช้งานยาวนาน

• ไม้อัดยางเกรด B เป็นเกรดมาตรฐานที่มีให้เลือกใช้ทั่วไป โดยผิวหน้าอาจมีรอยต่อหรือตำหนิเล็กน้อยบ้าง แต่ยังคงมีความแข็งแรงและคุณสมบัติที่ดี เหมาะสำหรับงานที่มีการปิดผิวทับ เช่น การปิดวีเนียร์ ลามิเนต เมลามีน หรือการทาสี เพราะตำหนิเล็กน้อยจะถูกซ่อนอยู่ใต้ผิวที่ปิดทับ จุดเด่นของไม้อัดเกรด B คือมีราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความแข็งแรง จึงเป็นที่นิยมในงานตกแต่งทั่วไปและงานก่อสร้าง

ดังนั้น การเลือกใช้ไม้อัดยางแต่ละเกรดขึ้นอยู่กับลักษณะงาน หากต้องการความสวยงามและผิวเรียบเนียนควรเลือกเกรด A แต่ถ้างานเน้นความคุ้มค่าและจะมีการปิดผิวเพิ่มเติม เกรด B ก็ถือว่าเหมาะสมและช่วยประหยัดต้นทุนได้ดี

3.ไม้อัดยางมีกี่ประเภท

3.1 ไม้อัดยางเกรด A / B

เป็นไม้อัดยางพื้นฐานที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ผลิตจากไม้ยางพาราผ่านกระบวนการอบแห้งและอัดกาวคุณภาพสูง โดยเกรด A จะมีผิวหน้าเรียบเนียน สวยงาม เหมาะกับงานที่ต้องโชว์ผิวไม้ เช่น เฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งภายใน ส่วนเกรด B อาจมีรอยต่อหรือตำหนิเล็กน้อย แต่ยังคงแข็งแรง เหมาะกับงานที่มีการปิดผิวทับ เช่น วีเนียร์ ลามิเนต หรือทาสี ทำให้ใช้งานได้ทั้งงานบิวต์อินและงานทั่วไปที่ต้องการความคุ้มค่า

3.2 ไม้อัดยางเคลือบขาว (Melamine Plywood)

ไม้อัดชนิดนี้เคลือบผิวด้วยแผ่น เมลามีน (Melamine Impregnated Paper) ที่ผ่านกระบวนการกดร้อนให้ติดแน่นกับผิวไม้ ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน เงางาม และทนต่อรอยขีดข่วน

จุดเด่น:

• ผิวหน้า กันรอย กันชื้น และทำความสะอาดง่าย

• มีทั้งผิวด้านและผิวเงา เลือกได้ตามดีไซน์

• ไม่ต้องปิดผิวเพิ่ม พร้อมใช้งานได้ทันที

• เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ เช่น ตู้เสื้อผ้า ชุดครัว โต๊ะทำงาน หรือผนังตกแต่งในคาเฟ่และออฟฟิศ

ข้อดีเพิ่มเติม:

• ทนต่อสารเคมีและคราบอาหาร

• สีไม่ซีดง่ายแม้ใช้ระยะยาว

• ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เพราะใช้กาวที่ผ่านมาตรฐาน E1 ค่าการปล่อย Formaldehyde ต่ำ

3.3 ไม้อัดยางฟิล์มดำ (Film Faced Plywood)

เป็นไม้อัดยางที่เคลือบผิวด้วย ฟิล์ม Phenolic Film สีดำ ทั้งสองด้าน เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานหนักและการสัมผัสกับน้ำ

คุณสมบัติเด่น:

• กันน้ำ กันชื้น และทนแรงกดสูง เหมาะสำหรับใช้ในงานก่อสร้าง

• ผิวเรียบ ไม่ดูดน้ำ ถอดแบบคอนกรีตได้ง่าย

• ใช้งานซ้ำได้หลายรอบ คุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว

• สามารถรับแรงดึงและแรงกดได้ดี ไม่โก่งหรือบิดงอ

การใช้งานยอดนิยม:

• แบบหล่อคอนกรีต (Concrete Formwork)

• งานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและความชื้นต่ำ

• งานเฟอร์นิเจอร์แนวลอฟต์หรืออุตสาหกรรมที่ต้องการผิวเข้มและดิบเท่

4.ลักษณะการใช้งาน ไม้อัดยาง

ไม้อัดยางสามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในงานช่างไม้ งานตกแต่ง และงานก่อสร้าง ดังนี้

• งานเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดยาง: โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ หรือชั้นวางของ เพราะเนื้อไม้แข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา ขัดเรียบง่าย
• งานตกแต่งภายในไม้อัดยาง: ผนังตกแต่ง บิวต์อิน ฝ้าเพดาน หรือชุดครัว ที่ต้องการผิวไม้ธรรมชาติ
• งานก่อสร้างไม้อัดยาง: แบบหล่อคอนกรีต โครงสร้างเบา หรือพื้นชั่วคราว ที่ต้องการความแข็งแรงและกันชื้น
• งานช่างไม้ทั่วไป: เหมาะกับงาน DIY งานออกแบบตกแต่งบ้าน ร้านค้า หรือคาเฟ่ ที่ต้องการความคุ้มค่าและลวดลายไม้ที่ดูอบอุ่น

5.ทำไมต้องเลือก ไม้อัดยาง วิวัฒน์ชัยค้าไม้

เพราะไม้อัดยางของ วิวัฒน์ชัยค้าไม้ แตกต่างตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบจนถึงการบริการหลังการขาย เราเลือกใช้เฉพาะ ไม้ยางพาราคุณภาพจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน ผ่านกระบวนการอบแห้งที่ควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ไม้อัดที่มีความชื้นเหมาะสม ไม่บิดงอหรือแตกร้าวง่าย ผิวหน้าของไม้อัดถูกคัดเกรดด้วยสายตาช่างไม้มืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าแต่ละแผ่นมีความเรียบ สวยงาม และพร้อมใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ ไม้อัดยางของเรายังใช้ กาวคุณภาพสูงระดับอุตสาหกรรม ผ่านมาตรฐาน E1 (European Standard) ซึ่งมีการปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ในระดับต่ำ จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับงานภายในบ้าน อาคาร หรือโครงการที่ใส่ใจสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปีในวงการไม้และวัสดุก่อสร้าง วิวัฒน์ชัยค้าไม้จึงไม่เพียงจำหน่ายสินค้า แต่ยังให้บริการแบบ “ที่ปรึกษาด้านวัสดุไม้” สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก ช่างเฟอร์นิเจอร์ ผู้รับเหมา หรือเจ้าของบ้าน เราพร้อมแนะนำเกรดและประเภทของไม้อัดที่เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทั้งด้านความแข็งแรง ความสวยงาม และความคุ้มค่าในระยะยาว

6. เปรียบเทียบ “ไม้อัดยาง” กับ “ไม้ HMR”

แม้ทั้ง ไม้อัดยาง และ ไม้ HMR (High Moisture Resistance MDF) จะเป็นวัสดุแผ่นที่นิยมใช้ในงานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน แต่ลักษณะทางโครงสร้างและคุณสมบัติของทั้งสองวัสดุแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ การเข้าใจความต่างเหล่านี้จะช่วยให้เลือกวัสดุได้ตรงกับงานมากขึ้น

สรุปคือ หากต้องการวัสดุที่ แข็งแรง รองรับแรงกดได้ดี และราคาคุ้มค่า — ไม้อัดยาง คือคำตอบที่เหมาะกับงานทั่วไปและงานโครงสร้างเบา แต่ถ้าเน้น กันชื้นสูง ใช้งานในพื้นที่เสี่ยงน้ำ เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ (ส่วนแห้ง) — HMR จะตอบโจทย์มากกว่า ทั้งนี้ในหลายโครงการมักใช้ไม้อัดยางเป็นโครงหลัก และปิดผิวด้วย HMR หรือเมลามีน เพื่อผสมข้อดีของทั้งสองวัสดุเข้าด้วยกัน

7. ข้อเสียของไม้อัดยาง

แม้ไม้อัดยางจะเป็นวัสดุยอดนิยมเพราะคุ้มค่าและใช้งานได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบก่อนเลือกใช้งาน เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์และมีอายุการใช้งานยาวนาน

1. ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกโดยตรง
   ไม้อัดยางทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง แต่หากสัมผัสน้ำหรือแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน อาจเกิดการบวม หรือแผ่นโก่งตัวได้ โดยเฉพาะหากไม่ผ่านการเคลือบป้องกัน

2. ผิวหน้าไม่เรียบสมบูรณ์เท่าบอร์ดสังเคราะห์
   แม้ไม้อัดเกรด A จะสวยและเรียบ แต่เมื่อเทียบกับ HMR หรือ MDF ผิวไม้อัดยังคงมีลายไม้และรอยต่อเล็กน้อย ซึ่งอาจต้องขัดและทาสีเพิ่มเติม

3. มีความแตกต่างของสีและลายไม้ตามธรรมชาติ
   เพราะผลิตจากไม้จริง ลายและสีของแต่ละแผ่นอาจไม่เหมือนกัน หากต้องการความสม่ำเสมอสูง เช่น หน้าบานตู้ขนาดใหญ่ ควรเลือกแผ่นจากล็อตเดียวกัน

4. ไวต่อสภาพอากาศถ้าไม่ได้อบแห้งดีพอ
   ไม้อัดราคาถูกบางแหล่งอาจมีความชื้นตกค้างในไม้ ทำให้เกิดการโก่งหรือบิดตัวได้เมื่อใช้งานในสภาพอากาศร้อนชื้น ดังนั้นจึงควรเลือกไม้อัดจากร้านที่เชื่อถือได้ เช่น วิวัฒน์ชัยค้าไม้ ที่ผ่านกระบวนการอบแห้งและคัดเกรดทุกแผ่น

5. ต้องดูแลรักษาด้วยการเคลือบผิวหรือทาสีป้องกัน
   เพื่อยืดอายุการใช้งาน ควรเคลือบผิวไม้อัดด้วยแลคเกอร์หรือสีย้อมไม้ก่อนใช้งานจริง โดยเฉพาะงานที่อาจสัมผัสความชื้น เช่น ห้องครัว หรือพื้นที่ใกล้หน้าต่าง

โดยสรุปแล้ว ไม้อัดยางถือเป็นวัสดุที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อใช้งานอย่างถูกวิธี แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องความชื้นและผิวไม้ แต่หากเลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่มีคุณภาพ และมีการเคลือบป้องกันอย่างเหมาะสม ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานไม่แพ้วัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ