เปรียบเทียบลาย Herringbone vs  Chevron  ต่างกันอย่างไร?

          เคยสงสัยไหมว่าทำไมลาย พื้นไม้ บางแบบถึงให้ความรู้สึกอบอุ่น คลาสสิก ขณะที่บางลายกลับดู หรูหรา และทันสมัย? Herringbone และ Chevron เป็นสองลวดลายยอดนิยม ที่หลายคนมักสับสน ทั้งที่จริงแล้วมีความแตกต่างในรายละเอียด ที่ส่งผลต่อบรรยากาศของ พื้น ที่อย่างมาก

           บทความนี้ จะพาคุณมาทำความรู้จักกับทั้งสองลายให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา โครงสร้างของลวดลาย ความแตกต่างที่ส่งผลต่อบรรยากาศของห้อง เพื่อช่วยให้คุณเลือก พื้นไวนิล ที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของสไตล์ และฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างมั่นใจ!

ประวัติความเป็นมาของลายก้างปลา

         ลายก้างปลา (Herringbone Pattern) มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก โครงกระดูกของปลาฮีริง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ลวดลายนี้ มีการใช้งานในหลากหลายอารยธรรม ตั้งแต่ยุคโรมันที่ใช้ในการก่อสร้างถนน โดยเรียกว่า “Opus Spicatum” ซึ่งเป็นเทคนิคการวางอิฐแบบตัว V เพื่อลดแรงกด และเพิ่มความแข็งแรงของถนนโรมัน ทำให้ทนทานต่อแรงกด จากการเดินทาง นอกจากนี้ยังพบลวดลายนี้ ในงานเครื่องประดับของอียิปต์โบราณ และในสิ่งทอของชาวไอริช ในช่วง 750-600 ปีก่อนคริสตกาล

        การใช้ ลายก้างปลา ในงานสถาปัตยกรรมปรากฏให้เห็นในยุโรป เช่น มหาวิหารฟลอเรนซ์ที่ใช้เทคนิคนี้ในการวางอิฐเสริมโครงสร้างโดม ต่อมาในศตวรรษที่ 16 ลายก้างปลาถูกนำมาใช้เป็น ลายพื้นไม้ปาร์เก้ ครั้งแรกในพระราชวัง Chateau de Fontainebleau ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราในหมู่ชนชั้นสูง ลายก้างปลา ยังคงได้รับความนิยมในยุโรปในศตวรรษที่ 17-18 ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อลายพรมสังเคราะห์เริ่มแพร่หลาย

        อย่างไรก็ตาม ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ลายก้างปลา กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ด้วยกระแสการฟื้นฟู พื้นไม้ ปาร์เก้ และความนิยมในการตกแต่งภายในสไตล์คลาสสิกและโมเดิร์น-นีโอคลาสสิก ปัจจุบัน ลายก้างปลา ยังคงเป็นลวดลายยอดนิยมทั้งในงาน พื้นไม้จริง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และ พื้นไวนิล โดยให้ความรู้สึกหรูหรา อบอุ่น และเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ ทำให้เหมาะกับการตกแต่งบ้าน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารระดับพรีเมียม

ประวัติความเป็นมาของรูปแบบเชฟรอน

       ลายเชฟรอน มีต้นกำเนิดจาก ตราสัญลักษณ์ในยุคกลาง (Medieval Heraldry) และยังพบในงานออกแบบเครื่องปั้นดินเผาของกรีกโบราณ รวมถึงสิ่งทอ

       คำว่า “Chevron” ปรากฏในภาษาอังกฤษครั้งแรกในศตวรรษที่ 14 โดยมาจากภาษาละตินยุคกลาง “Caprio” ที่แปลว่า “คานหลังคา” ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะของลวดลายที่คล้ายกับคานสองอันที่เรียงต่อกันเป็นรูปตัว V

       ลายเชฟรอน ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานออกแบบเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์บ่งบอกตำแหน่งในกองทัพ และตำรวจ ของกลุ่มประเทศในเครือจักรภพ และสหรัฐอเมริกา โดยจำนวนและการจัดเรียงของ ลวดลายเชฟรอน บนเครื่องแบบจะบ่งบอกถึงยศของเจ้าหน้าที่

ความแตกต่างระหว่างรูปแบบ Chevron และ Herringbone

• Herringbone ใช้ไม้แผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าความยาวเท่ากัน โดยปลายไม้จะวางประกบกันที่มุม 90 องศา ทำให้เกิดลวดลายซิกแซกที่ดูซับซ้อนและมีมิติ
• Chevron มีการตัดปลายแผ่นไม้เป็นมุมเฉียง (45 องศา) และจัดเรียงให้ขอบของ ไม้ สองแผ่นชนกันเป็นรูปตัว V ทำให้ได้ลวดลายที่ต่อเนื่อง ดูสะอาดตาและทันสมัยมากกว่าลาย Herringbone

Herringbone vs Chevron – เลือกลายไหนให้เหมาะกับคุณ?

1.Herringbone – คลาสสิก หรูหรา อบอุ่น

• พื้นไวนิล ลาย Herringbone มีความโดดเด่นด้วยลวดลายที่คล้าย โครงกระดูกปลา ให้ความรู้สึก คลาสสิก หรูหรา และมีมิติ มักใช้ในพระราชวังและอาคารยุโรปเก่าแก่ เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความมีเอกลักษณ์และอบอุ่น
• เหมาะกับสไตล์: คลาสสิก & วินเทจ, นีโอคลาสสิก, สไตล์ยุโรป
• เหมาะกับพื้นที่: ห้องรับแขก, ห้องทำงาน, คาเฟ่, โรงแรม
• จุดเด่น: เพิ่มมิติให้พื้นที่ ดูหรูหรา มีเสน่ห์
• ข้อควรพิจารณา: ติดตั้งยากกว่า ใช้วัสดุเยอะ ราคาสูงกว่าลายตรง

2.Chevron – หรูหรา ทันสมัย ต่อเนื่อง

• เหมาะกับสไตล์: โมเดิร์น, ลักซ์ชัวรี, อินดัสเทรียล
• เหมาะกับพื้นที่: คอนโด, ร้านค้าแบรนด์เนม, โรงแรม, ร้านอาหารพรีเมียม
• จุดเด่น: ทำให้พื้นที่ดูกว้าง ดูเป็นระเบียบ เพิ่มความทันสมัย
• ข้อควรพิจารณา: ติดตั้งต้องใช้ความแม่นยำสูง ราคาสูงกว่าลาย Herringbone ในบางกรณี

สรุป ความแตกต่างระหว่าง Chevron และ Herringbone

คุณสมบัติ	ลายก้างปลา (Herringbone)	ลายเชฟรอน (Chevron)
รูปแบบลวดลาย	ใช้ไม้แผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางทำมุม 90 องศา สลับกัน	ปลายไม้ถูก ตัดมุม 45 องศา และเรียงกันเป็นตัว V
ความสมมาตร	ดูมีความซับซ้อน และไม่สมมาตร	ดูเป็นระเบียบและมีความสมมาตรมากกว่า
ลักษณะของลาย	ดูเป็นธรรมชาติและคลาสสิก	ให้ความรู้สึกทันสมัยและหรูหรา
เอฟเฟกต์ทางสายตา	ทำให้พื้นที่ดูอบอุ่น และช่วยเพิ่มความลึกให้ห้อง	ทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น และดูหรูหรากว่า
ความนิยม	ใช้ในงานตกแต่งสไตล์ยุโรปคลาสสิก หรูหรา และนีโอคลาสสิก	นิยมใช้ในงานตกแต่งสไตล์โมเดิร์น และลักซ์ชัวรี

   

           ลายพื้นไม้ Herringbone และ Chevron เป็นตัวเลือกยอดนิยม ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์คลาสสิกที่อบอุ่น หรือสไตล์โมเดิร์นที่เรียบหรู แต่ละลายมีเอกลักษณ์ และเหมาะกับการตกแต่งที่แตกต่างกัน

          หากคุณกำลังมองหา พื้นไวนิล คุณภาพสูงที่มีลวดลายหรูหรา VK FLOOR จำหน่าย พื้นไวนิล แบรนด์ Allure ที่มาพร้อม ลาย Herringbone และ Chevron ทนทาน กันน้ำ ติดตั้งง่าย และช่วยยกระดับบรรยากาศในทุกพื้นที่ สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้เลย!

Contact :
Social Media Link : https://linktr.ee/VkFloor
Google Map : https://maps.app.goo.gl/9SUJ3URFxuuzTVc19
Call  : 081-808-8283, 081-831-9291