กองไม้แปรรูป ไม้เนื้อแข็ง ไม้เนื้ออ่อน

ไม้แปรรูป
ไม้เนื้อแข็ง ไม้เนื้ออ่อน

คัดสรรไม้แท้ทั้งไม้แปรรูป ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้โอ๊ค ไม้สักพม่า ไม้แอช ไม้บีช และไม้สนยุโรป เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่ง และโครงการคุณภาพ พร้อมส่งตรงจากโกดัง บางโพ

รวมสินค้า ไม้แปรรูป ไม้เนื้อแข็ง ไม้เนื้ออ่อน | ไม้ไทย ไม้ต่างประเทศ

ทำไมต้อง ไม้แปรรูป(ท่อน) วิวัฒน์ชัย ค้าไม้
ไม้แปรรูปของเรามีทั้ง ไม้เนื้อแข็ง และ ไม้เนื้ออ่อนให้เลือกตามการใช้งาน
  • ไม้สักพม่า (Teak)
  • ไม้วอลนัท (Walnut)
  • ไม้บีช (Beech)
  • ไม้โอ๊ค (Oak)
  • ไม้แอช (Ash)
  • ไม้เชอร์รี่ (Cherry)
  • ไม้ป็อปล่า (Poplar)

  • ไม้สนยุโรป (Pine)

  • ไม้เมเปิ้ล (Maple)

  • ไม้เบญจพรรณ (Tropical Mixed Wood)

  • ไม้ยางพารา (Rubber Wood)

Virgin Vinyl Structure

ไม้ตรง ลายสวย

ไม้เนื้อแข็ง และ เนื้ออ่อนของเราตรงลายสวยกระพี้ และ ตาน้อย

ไม้แข็งแรง

เรามีไม้แปรรูปให้เลือกหลายชนิดทั้ง ไม้เนื้อแข็ง และ ไม้เนื้ออ่อน

พื้นไวนิลติดตั้งด้วยระบบ คลิกล็อค

วิวัฒน์ชัย เรานำเข้าไม้แปรรูปเข้ามาเอง ทำให้ราคา ถูก ช่างถูกใจ

1. ไม้แปรรูป (ท่อน) คืออะไร?

ไม้แปรรูป คือไม้ที่ผ่านกระบวนการเลื่อย อบแห้ง และไสเรียบจากไม้ซุงดิบ เพื่อให้ได้ขนาดตามต้องการ โดยทั่วไปจะมาในรูปแบบ “ท่อน” หรือ “แผ่น” พร้อมนำไปใช้งานต่อ เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน ไปจนถึงงานโครงสร้างเบาในบางประเภท ขนาดที่นิยมมักอยู่ที่ความหนา 1-2 นิ้ว กว้าง 4-12 นิ้ว และยาว 2-4 เมตร แล้วแต่ชนิดไม้และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน

ไม้แปรรูปสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวเรื่องความแข็ง ความทนทาน สีสัน และลวดลายที่หลากหลาย จึงตอบโจทย์ทั้งงานหรูหรา งานช่างทั่วไป และงานสถาปัตยกรรม

 

2. ไม้เนื้อแข็ง และไม้เนื้ออ่อนคืออะไร?

  • ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood) มาจากไม้โตช้า เช่น สัก โอ๊ค วอลนัท แข็งแรง ทนทาน ราคาสูง ใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์หรู และงานตกแต่ง

  • ไม้เนื้ออ่อน (Softwood) เช่น สน ยางพารา ป็อปล่า โตไว น้ำหนักเบา ราคาประหยัด เหมาะกับงานทั่วไป โครงเฟอร์นิเจอร์ งาน DIY

การเลือกใช้งานไม้เนื้อแข็งหรืออ่อนขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความต้องการเรื่องความทนทาน และรูปแบบงานที่ออกแบบ

3. ไม้แปรรูปไม้เนื้อแข็งที่นิยมใช้ในไทยมีอะไรบ้าง และใช้ทำอะไร?

ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood) เป็นไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคงทน เช่น เฟอร์นิเจอร์ Built-in งานตกแต่งภายใน หรือแม้แต่งานก่อสร้างบางประเภท โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่โดนแดดฝนโดยตรง

ไม้แปรรูปไม้เนื้อแข็งยอดนิยมที่ใช้ในไทย มีดังนี้:

3.1 ไม้สัก (Teak)

  • คุณสมบัติไม้สัก: ไม้สัก กันปลวกได้ดีเยี่ยม ทนแดด ทนฝนโดยธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องอบหรือเคลือบสารกันปลวก

  • ลักษณะ: สีทองอมน้ำตาล ลายไม้ชัดเจน ผิวไม้เนียนสวย

  • นิยมใช้ใน: งานตกแต่งภายใน-ภายนอก เฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน ประตู หน้าต่าง งานไม้โชว์ผิวทุกชนิด

3.2 ไม้วอลนัท (Walnut)

  • คุณสมบัติ: แข็งแรง ป้องกันการหดหรือบิดตัวได้ดี

  • ลักษณะ: สีเข้มน้ำตาลอมเทา ลายไม้หรูหรา ดูมีมิติ

  • นิยมใช้ใน: งานบิวต์อินระดับ High-End เฟอร์นิเจอร์หรู โต๊ะทานข้าว ตู้เสื้อผ้าพรีเมียม

3.3 ไม้บีช (Beech)

  • คุณสมบัติ: เนื้อไม้แน่น หนักพอสมควร คงรูปดี

  • ลักษณะ: ลายไม้เรียบ สม่ำเสมอ สีออกครีมอ่อนถึงน้ำตาลอ่อน

  • นิยมใช้ใน: เฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความเรียบร้อย เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ งานไม้สั่งทำแบบมินิมอล

3.4 ไม้โอ๊ค (Oak)

  • คุณสมบัติ: ทนแรงกระแทกดีเยี่ยม แข็งแรงไม่หดตัวง่าย

  • ลักษณะ: ลายไม้ชัดเจน สัมผัสธรรมชาติ สีมีทั้งโทนอ่อนและเข้ม

  • นิยมใช้ใน: เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ พื้นไม้บันได งานโชว์โครงสร้างไม้จริง

3.5 ไม้แอช (Ash)

  • คุณสมบัติ: มีความยืดหยุ่นสูง ทนแรงอัดดี

  • ลักษณะ: ลายไม้สวย เสี้ยนตรง สีอ่อน จับคู่กับงานออกแบบร่วมสมัยได้ดี

  • นิยมใช้ใน: งานตกแต่งแนวสแกนดิเนเวียน เฟอร์นิเจอร์โมเดิร์น เช่น เก้าอี้ ชั้นวาง โต๊ะกาแฟ

3.6 ไม้เชอร์รี่ (Cherry)

  • คุณสมบัติ: เนื้อไม้ละเอียด ทำงานง่าย

  • ลักษณะ: สีไม้แดงอมน้ำตาล เมื่อใช้งานนานจะเข้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์

  • นิยมใช้ใน: เฟอร์นิเจอร์หรูหรา บ้านสไตล์คลาสสิก งานโชว์ลายไม้ เช่น ตู้โชว์ บานประตู

4. ไม้แปรรูปไม้เนื้ออ่อนที่นิยมในไทยมีอะไรบ้าง และใช้ทำอะไร?

ไม้เนื้ออ่อน (Softwood) คือกลุ่มไม้ที่มีความหนาแน่นต่ำ น้ำหนักเบา และทำงานง่ายกว่ากลุ่มไม้เนื้อแข็ง เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป งานตกแต่ง DIY หรือโครงสร้างไม้ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก จุดเด่นของไม้เนื้ออ่อนคือราคาย่อมเยา หาได้ง่าย และสามารถตกแต่งต่อได้หลากหลาย เช่น ทำสี เคลือบ หรือปิดผิวลามิเนต

ไม้แปรรูปไม้เนื้ออ่อนที่นิยมใช้ในไทย ได้แก่:


4.1 ไม้ป็อปล่า (Poplar)

ไม้ป็อปล่าเป็นไม้เนื้ออ่อนจากต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายใน

  • ลักษณะเด่น: สีอ่อนแบบครีมถึงขาวอมเขียว น้ำหนักเบา เนื้อไม้เนียนละเอียด

  • ข้อดี: ขึ้นรูปง่าย ตัด เจาะ ตอก ติดกาวได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องการประหยัดงบแต่ยังดูสวย

  • การใช้งาน: เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป เช่น โครงตู้ ชั้นวาง เตียงเด็ก งาน Built-in ราคาประหยัด งานตกแต่งภายในสไตล์มินิมอล


4.2 ไม้สนยุโรป (Pine)

ไม้สนยุโรปหรือ Pinewood เป็นหนึ่งในไม้เนื้ออ่อนที่ถูกนำเข้าและใช้งานแพร่หลายในไทย

  • ลักษณะเด่น: สีเหลืองครีม ลายไม้ชัดเจน เสี้ยนตรง

  • ข้อดี: น้ำหนักเบา ประกอบงานง่าย ปรับแต่งรูปทรงได้ดี เคลือบสีและเคลือบแลคเกอร์ได้สวย

  • การใช้งาน: โครงเฟอร์นิเจอร์, โต๊ะ เก้าอี้, บานตู้, ชั้นวาง, งาน DIY และงานตกแต่งแนวสแกนดิเนเวียนหรือโมเดิร์นคันทรี


4.3 ไม้เมเปิ้ล (Maple)

ไม้เมเปิ้ลเป็นไม้จากเขตอบอุ่นในแถบอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งแม้จะเป็นไม้เนื้ออ่อน แต่มีความแข็งแรงค่อนข้างสูง

  • ลักษณะเด่น: สีอ่อนออกครีมอมชมพู ลายไม้ละเอียดเรียบ

  • ข้อดี: ผิวเนียนเรียบ ขึ้นรูปง่าย ย้อมสีสว่างได้สวย นิยมในงานที่ต้องการภาพลักษณ์อบอุ่นและดูพรีเมียม

  • การใช้งาน: หน้าบานตู้ ชั้นวาง เคาน์เตอร์ครัว เฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน งานตกแต่งภายในสไตล์อบอุ่นหรูหรา


4.4 ไม้เบญจพรรณ (Tropical Mixed Wood)

ไม้เบญจพรรณเป็นไม้จากแหล่งป่าธรรมชาติหรือสวนป่าในไทย ที่รวมไม้เนื้ออ่อนหลายชนิด เช่น มะค่าโมง กระถิน ตะแบก สะเดา ฯลฯ

  • ลักษณะเด่น: สีและลายไม้หลากหลาย ผิวหยาบปานกลางถึงหยาบมาก ขึ้นอยู่กับชนิดไม้ที่นำมาผสม

  • ข้อดี: ราคาย่อมเยา ทนแรงกดได้ระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับงานภายในที่ไม่ต้องโชว์ผิว

  • การใช้งาน: โครงเฟอร์นิเจอร์ภายใน งานกรุไม้ งานบานตู้ด้านหลัง งานตกแต่งทั่วไปที่ไม่โชว์ไม้จริง


4.5 ไม้ยางพารา (Rubber Wood)

แม้ ไม้ยางพารา จะจัดอยู่ในกลุ่มกึ่งเนื้อแข็งกึ่งเนื้ออ่อน แต่ด้วยคุณสมบัติน้ำหนักเบาและราคาไม่สูง จึงมักถูกใช้แทนไม้เนื้ออ่อนในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์

  • ลักษณะเด่น: สีอ่อน เสี้ยนตรง ลายไม้สม่ำเสมอ เนื้อไม้แน่นปานกลาง

  • ข้อดี: ราคาประหยัด ขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ตามสั่ง ใช้ในงานอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของใช้ไม้ทั่วไปราคาย่อมเยา

  • การใช้งาน: โครงเฟอร์นิเจอร์ บานตู้ หน้าลิ้นชัก โต๊ะ เตียง ชั้นวาง ไม้ประสาน ไม้โครง และงาน DIY

5. วิธีดูแลรักษาผิวหน้าไม้แปรรูป

การดูแลผิวไม้แปรรูปให้สวยทนนานควรเริ่มตั้งแต่การเคลือบผิวและการเก็บรักษา เช่น: เคลือบด้วยยูรีเทนหรือแลคเกอร์ เพื่อกันความชื้นและขีดข่วน ใช้น้ำยาเคลือบกันปลวก/กันเชื้อรา โดยเฉพาะหากจะใช้ในพื้นที่เสี่ยง เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ไม่ควรใช้น้ำเปล่ามากเกินไป หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และควรวางในที่อากาศถ่ายเท หากมีรอยขีดข่วน ควรใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดและเคลือบซ้ำ

6. ไม้แปรรูปชนิดใดใช้ภายนอกได้?

หากต้องการใช้ไม้แปรรูปกับพื้นที่ ภายนอกอาคาร ควรเลือกไม้ที่ทนความชื้น และทนปลวก โดยธรรมชาติหรือผ่านกระบวนการอบ-อัดน้ำยา เช่น:

  • ไม้สักพม่า – ทนแดด ทนฝนโดยไม่เสียรูป

  • ไม้เต็ง – แข็งแรง เหมาะกับพื้นระเบียงหรือบันได

  • ไม้แปรรูปอบแห้งที่ทาน้ำยาเคลือบกันชื้น – เช่น วอลนัท หรือโอ๊ค สำหรับงาน Outdoor เฉพาะจุด

ควรเคลือบผิวด้วยแลคเกอร์หรือยูรีเทนกันน้ำ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานที่สุด

Google Map
Line
Line
Google Map