ไม้สักพม่าต่างจากไม้สักตลาดอย่างไร เปรียบเทียบให้ชัด ก่อนเลือกใช้ไม้ให้ตรงกับงานที่ต้องการ

ไม้สักพม่าต่างจากไม้สักตลาดอย่างไร เปรียบเทียบให้ชัด ก่อนเลือกใช้ไม้ให้ตรงกับงานที่ต้องการ

ไม้สักพม่าต่างจากไม้สักตลาดอย่างไร เปรียบเทียบให้ชัด ก่อนเลือกใช้ไม้ให้ตรงกับงานที่ต้องการ

         ไม้สัก คือหนึ่งในวัสดุที่อยู่คู่กับงานก่อสร้างและตกแต่งบ้านของคนไทยมาช้านาน แต่รู้หรือไม่ว่า…ไม้สักที่เราพูดถึงกันนั้นมีอยู่หลากหลายประเภท แต่ละแบบก็มีที่มา ความนิยม และคุณค่าในแบบของตัวเอง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับไม้สักสองประเภทที่ถูกพูดถึงมากที่สุด นั่นคือ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

ตารางสรุปเปรียบเทียบความแตกต่าง ไม้สักพม่า VS ไม้สักตลาด

รายการเปรียบเทียบไม้สักพม่าไม้สักตลาด / สวนป่า
แหล่งที่มาป่าธรรมชาติในเมียนมาสวนป่าในไทย เช่น ลำปาง แพร่ น่าน ฯลฯ
อายุไม้50–100 ปี15–30 ปี
เนื้อไม้ละเอียด แน่น ไม่ค่อยมีตาไม้หยาบกว่า มีตาไม้อยู่เล็กน้อย
สีของเนื้อไม้น้ำตาลทองเข้มเหลืองทองหรือเหลืองอ่อน
น้ำมันในเนื้อไม้สูง ช่วยกันปลวกและเพิ่มความเงางามปานกลาง ต้องเคลือบเพิ่มเติม
ความคงทนสูง เหมาะทั้งภายในและภายนอกปานกลาง เหมาะกับงานภายใน
ราคาสูงปานกลาง-ถูก
การนำไปใช้เฟอร์นิเจอร์หรู พื้นไม้ ประตู หน้าต่างงานทั่วไป บิวท์อิน DIY
ตารางเปรียบเทียบระหว่างไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของไม้สักพม่ากับไม้สักปลูก ทั้งในเรื่องโทนสี ลวดลายไม้ ความแข็งแรง และการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อเลือกไม้สักที่เหมาะกับงานตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม

แหล่งที่มาของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

          ไม่ใช่ ไม้สัก ทุกชิ้นจะเหมือนกัน เพราะจุดเริ่มต้นของไม้ หรือ “แหล่งที่มา” คือปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงคุณภาพ ความทนทาน และความสวยงามของไม้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นไม้ที่มาจาก ป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ หรือไม้ปลูกที่อยู่ภายใต้การจัดการที่ยั่งยืน แหล่งที่มาเหล่านี้ต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัว มาดูกันว่า ไม้สักพม่าและไม้สักตลาด มีต้นทางที่แตกต่างกันอย่างไร

  • ไม้สักพม่า: มาจากป่าธรรมชาติในประเทศเมียนมา (Myanmar Teak) ซึ่งเป็นแหล่งไม้สักคุณภาพสูงของโลก โดยไม้ที่ตัดจากป่าธรรมชาติมักมีคุณภาพดีกว่า ทั้งในด้านลวดลายและความแข็งแรง
  • ไม้สักตลาด / สวนป่า: มาจากการปลูกในสวนป่าที่ได้รับการดูแลจากรัฐหรือเอกชนในประเทศไทย เช่น จังหวัดแพร่ น่าน ลำปาง ปลูกเพื่อการค้าโดยเฉพาะ มีการควบคุมการตัดและจำหน่าย

อายุของไม้ของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

          ไม้สัก แต่ละประเภทมีช่วงเวลาในการปลูกและตัดที่ไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลให้ อายุของไม้ ได้อย่างชัดเจน ในหัวข้อนี้ เราจะพาไปดูว่าไม้ทั้งสองแบบมีอายุไม้เฉลี่ยเท่าใด

  • ไม้สักพม่า: ส่วนใหญ่มาจากต้นไม้ที่มีอายุ 50–100 ปี หรือมากกว่า ทำให้มีวงปีชัดเจน เนื้อแน่น และมีความแข็งแรงสูง
  • ไม้สักสวนป่า: ปลูกและตัดเมื่อมีอายุเฉลี่ย 15–30 ปี ทำให้เนื้อไม้มีความแน่นน้อยกว่า และอาจไม่แข็งแรงเท่าไม้จากป่าธรรมชาติ

เนื้อไม้ของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

         แม้จะเป็นไม้สักเหมือนกัน แต่ “เนื้อไม้” ของแต่ละแหล่งที่มา ย่อมมีลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกตได้ชัด ทั้งความละเอียดของผิวไม้ ลักษณะตาไม้ และความสม่ำเสมอเมื่อนำไปแปรรูป มาดูกันว่า ไม้สักพม่ากับไม้สักสวนป่า ต่างกันอย่างไรในแง่ของเนื้อไม้

  • ไม้สักพม่า: เนื้อไม้ละเอียด แน่น ไม่ค่อยมีตาไม้มาก ผิวเรียบและมีความสม่ำเสมอสูงเมื่อแปรรูป
  • ไม้สักสวนป่า: เนื้อไม้หยาบกว่า มักมีตาไม้มากกว่าซึ่งอาจส่งผลต่อความสวยงามและความแข็งแรงของงานที่ทำจากไม้ประเภทนี้

สีของเนื้อไม้ของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

       หนึ่งในสิ่งแรกที่หลายคนสังเกตได้เมื่อมองไม้สักก็คือ “สีของเนื้อไม้” ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้กับงานตกแต่งหรือ เฟอร์นิเจอร์ ได้อย่างชัดเจน สีของไม้แต่ละแหล่งผลิตนั้นมีความแตกต่างกันในระดับที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ลองมาดูว่าระหว่างไม้สักพม่ากับไม้สักสวนป่า สีของเนื้อไม้แตกต่างกันอย่างไร

  • ไม้สักพม่า: มีสีออกน้ำตาลทองเข้ม ลึก ดูหรูหรา สีไม้สม่ำเสมอและดูเป็นธรรมชาติเมื่อเคลือบ
  • ไม้สักสวนป่า: สีออกเหลืองทอง หรือเหลืองอ่อนกว่าสักพม่า อาจมีความไม่สม่ำเสมอของสีในบางแผ่นไม้

น้ำมันในเนื้อไม้ของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

       ไม้สัก ขึ้นชื่อเรื่องการมีน้ำมันธรรมชาติเคลือบอยู่ในเนื้อไม้ ซึ่งมีผลต่อทั้งความสวยงามและความสามารถในการป้องกันปลวกหรือแมลง แต่ระดับของน้ำมันในไม้แต่ละประเภทก็มีความต่างกันอย่างชัดเจน

  • ไม้สักพม่า: มีน้ำมันธรรมชาติในเนื้อไม้มาก ช่วยในการกันปลวก และเพิ่มความเงางามโดยไม่ต้องเคลือบมาก
  • ไม้สักสวนป่า: ปริมาณน้ำมันน้อยกว่าไม้พม่า จึงกันปลวกและแมลงได้ไม่ดีเท่า และต้องอาศัยสารเคลือบเพิ่มเติม

ความคงทนของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

         เมื่อเลือกใช้ไม้สักในงานก่อสร้างหรือตกแต่ง ความคงทนคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม้ที่ดีควรรับมือได้ทั้งปลวก ความชื้น และสภาพแวดล้อมในระยะยาว ไม้สักแต่ละแหล่งที่มามีคุณสมบัติในเรื่องนี้แตกต่างกันอย่างไร

  • ไม้สักพม่า: มีความทนทานสูงมากต่อปลวก เชื้อรา ความชื้น และสภาพอากาศ เหมาะกับการใช้งานทั้งภายนอกและภายใน
  • ไม้สักสวนป่า: มีความคงทนในระดับปานกลาง เหมาะกับการใช้งานภายในหรือบริเวณที่ไม่ได้สัมผัสความชื้นมาก

ราคา

          แม้คุณภาพจะมาก่อน แต่ “ราคา” คือสิ่งที่หลายคนต้องพิจารณาควบคู่กันเสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกไม้สักในงบประมาณที่จำกัด มีราคาต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุน แหล่งที่มา และคุณภาพที่ได้ มาดูรายละเอียดกัน

  • ไม้สักพม่า: ราคาสูง เนื่องจากคุณภาพที่เหนือกว่า ความหายาก และข้อจำกัดในการนำเข้าในบางประเทศ
  • ไม้สักสวนป่า: ราคาถูกกว่า เข้าถึงง่าย และมีจำหน่ายทั่วไปในประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด

การนำไปใช้ของ ไม้สักพม่ากับไม้สักตลาด

        ไม้แต่ละประเภทมีคุณสมบัติ ที่เหมาะกับงานแตกต่างกัน ไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพหรือราคา แต่รวมถึงลักษณะการใช้งานจริงด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานภายนอกที่ต้องการความทนทานสูง หรืองานภายในที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าและความสวยงาม ไม้สักพม่ากับไม้สักสวนป่า จึงมีบทบาทต่างกันอย่างชัดเจนในงานแต่ละประเภท

  • ไม้สักพม่า: นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์หรู งานตกแต่งภายในบ้านหรู ประตู พื้นไม้จริง บันได หรือแม้แต่งานภายนอกที่ต้องการความทนทาน
  • ไม้สักสวนป่า: เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป งานบิวท์อิน งาน DIY หรือใช้ทำโครงเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความคุ้มค่าเป็นหลัก

          ไม่ว่าจะเลือกใช้ไม้สักพม่าหรือไม้สักสวนป่า ทั้งสองต่างมีคุณค่าและความเหมาะสมในแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ลักษณะงาน และสไตล์ที่คุณต้องการ สิ่งสำคัญคือการเลือกไม้ที่มีคุณภาพจากแหล่งที่เชื่อถือได้

หากคุณกำลังมองหาไม้สักคุณภาพดี ทั้งไม้สักพม่าแท้ และไม้สักสวนป่าคัดเกรด พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ
วิวัฒน์ชัยค้าไม้” คือแหล่งรวมไม้ที่ช่างมืออาชีพและนักออกแบบไว้วางใจมายาวนานกว่า 50 ปี
เรามีไม้หลากหลายขนาด พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ

Contact :
Social Media Link : https://linktr.ee/VkFloor
Google Map : https://maps.app.goo.gl/9SUJ3URFxuuzTVc19
Call : 081-808-8283, 081-831-9291