ไม้ HMR กันน้ำได้จริงไหม หรือแค่ทนชื้น?

ไม้ HMR กันน้ำได้จริงไหม หรือแค่ทนชื้น?

ไม้ HMR กันน้ำได้จริงไหม หรือแค่ทนชื้น?

ถ้าคุณกำลังมองหาไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง “ไม้ HMR” อาจเป็นชื่อแรก ๆ ที่คุณเคยได้ยินมา แต่ว่า…มัน กันน้ำได้จริงไหม? หรือแค่ทนชื้นเฉย ๆ?

หลายคนเข้าใจคลาดเคลื่อน จนนำไปใช้ผิดจุด ทำให้วัสดุบวม เสียหาย พังเร็วโดยไม่รู้ตัว

 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกว่า ไม้ HMR คืออะไร, ผลิตจากอะไร, มีคุณสมบัติเด่นอย่างไร และที่สำคัญที่สุด ควรหรือไม่ควรใช้ในพื้นที่เปียก พร้อมผลการทดสอบจริงที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้มั่นใจกว่าเดิม

1.ไม้ HMR คืออะไร

HMR ย่อมาจาก High Moisture Resistance Board คือแผ่นไม้ที่ผลิตจากเส้นใยไม้บดละเอียด (Fiber) นำมาอัดรวมกันเป็นแผ่นโดยใช้แรงอัดสูง ผสมกับกาวชนิดพิเศษที่ทนความชื้นได้ดีกว่าแผ่นไม้ MDF ทั่วไป ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นในอากาศสูง หรือมีโอกาสโดนน้ำกระเด็น

2.ไม้ HMR วัสดุทำจากอะไร

ไม้ HMR ผลิตจากไม้บดละเอียดอัดแน่น พร้อมสารกันความชื้น

2.1 เส้นใยไม้ (Wood Fibers)

  • วัตถุดิบหลักคือ เศษไม้หรือไม้ยางพารา ที่เหลือจากอุตสาหกรรมป่าไม้
  • ถูกบดให้ละเอียดเป็นเส้นใยขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถอัดขึ้นรูปได้แน่นและสม่ำเสมอ
  • เส้นใยไม้เหล่านี้มีความละเอียดมากกว่าไม้ปาร์ติเกิลบอร์ด จึงให้ผิวที่เนียนและแข็งแรงกว่า

คุณสมบัติสำคัญ: ให้ความแน่นและความหนาแน่นสูง ช่วยในการขึ้นรูป ตัด เจาะ ติดตั้งง่าย และรับแรงกระแทกได้ดีกว่าแผ่นไม้ทั่วไป

2.2 กาวชนิดทนชื้น (Moisture-Resistant Resin)

  • ใช้ Melamine-Urea-Formaldehyde Resin (MUF) หรือ Phenol-Formaldehyde Resin ซึ่งมีคุณสมบัติ ทนความชื้นและไม่ดูดน้ำง่าย
  • การผสมเมลามีนลงในยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์จะเพิ่มความคงทนของพันธะเคมี ทนต่อการแช่น้ำได้ดีกว่า MDF ธรรมดาที่ใช้แค่ UF resin

ผลลัพธ์: ทำให้แผ่น HMR สามารถทนความชื้นในอากาศและละอองน้ำโดยไม่บวมหรือเสียรูปง่าย

2.3 สารเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ (Additives)

  • อาจมีการเติม สารชะลอการบวม, สารกันเชื้อรา, หรือสารป้องกันแมลง ในบางสูตร (ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต)
  • บางโรงงานอาจผสม สารสีเขียว ลงในเนื้อไม้ เพื่อแยกความแตกต่างระหว่าง MDF ปกติ กับ HMR

กระบวนการผลิตคร่าว ๆ

  • บดไม้จนทำให้เป็นเส้นใยไม้ละเอียด
  • ผสมกาวและสารเพิ่มคุณสมบัติ
  • อัดด้วยความร้อนและแรงดันสูง ให้ได้ความหนาแน่นตามต้องการ (มากกว่า 700 กก./ลบ.ม. โดยประมาณ)

2.4 ปรับแต่งผิวหน้า ขัดเรียบ

2.5 ตัดตามขนาดมาตรฐาน เช่น 4×8 ฟุต

ผลลัพธ์ของวัสดุผสมพิเศษ

  • ให้แผ่นไม้ที่ แข็งแรง, ทนชื้น, ผิวเรียบเนียน
  • รับการปิดผิว (เมลามีน/ลามิเนต/พีวีซี) ได้ดี
  • ลดการบวมของแผ่นเมื่อต้องเจอสภาวะชื้นหรือละอองน้ำ

3.ต่างกันยังไง? “ทนน้ำ” กับ “ทนชื้น”

3.1 ทนน้ำ (Waterproof)

หมายถึงวัสดุที่ ไม่ดูดซึมน้ำเลย และ ไม่เสียสภาพแม้จะเปียกหรือแช่น้ำตลอดเวลา

คุณสมบัติของวัสดุทนน้ำ: โดนน้ำเท่าไรก็ไม่บวม ไม่พอง ไม่เสียรูป

ใช้ในพื้นที่เปียกได้ 100% เช่น ห้องน้ำ พื้นเปียก โซนเปียกของอ่างล้างหน้า

ตัวอย่างวัสดุทนน้ำ:

  • PVC
  • พลาสติกชนิดแข็ง
  • สแตนเลส

3.2 ทนชื้น (Moisture Resistant)

หมายถึงวัสดุที่ ทนต่อความชื้นในอากาศ หรือโดนละอองน้ำเล็กน้อยได้โดยไม่เสียหาย แต่ หากแช่น้ำหรือเปียกมากๆ อาจพองหรือเสียรูปได้

คุณสมบัติของวัสดุทนชื้น:

  • ไม่บวมง่ายเมื่อเจอไอน้ำหรือความชื้นปกติในอากาศ
  • เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ มีความชื้นสูงแต่ไม่มีน้ำขัง

ตัวอย่างวัสดุทนชื้น:

  • HMR (High Moisture Resistance Board)
  • ไม้อัดบางประเภท
  • MDF ผสมสารทนความชื้น

4. ผลการทดสอบความทนชื้น

4.1 มาตรฐาน V313 (3 Cyclic Test – EN622-5)

เป็นการทดสอบสมรรถนะของวัสดุทนความชื้น ด้วยการจำลองสภาวะที่รุนแรง:

  • ขั้นตอนการทดสอบ:
    1. แช่น้ำที่อุณหภูมิ 20°C เป็นเวลา 72 ชม.
    2. แช่แข็งในตู้เย็น -12°C ถึง -25°C เป็นเวลา 24 ชม.
    3. อบในตู้อุณหภูมิ 70°C เป็นเวลา 72 ชม.
  • วนซ้ำ 3 รอบ รวม 21 วัน แล้ววัดการเปลี่ยนแปลงของแผ่นไม้

ผลลัพธ์: HMR ผ่านการทดสอบนี้ได้ โดยไม่แตกร้าว ไม่บวมมาก แสดงว่าแผ่นไม้สามารถคงสภาพได้แม้เจอสภาพแวดล้อมสุดขั้ว

 

4.2 Swelling in Thickness – EN317

การวัดการพองตัวของแผ่นไม้เมื่อแช่น้ำ 24 ชั่วโมง

  • ตัวอย่างผลการทดสอบจากไม้ HMR:

-ความหนา 4 มม. → อัตราการพองตัวไม่เกิน 25%

-ความหนา 18 มม. → อัตราการพองตัวไม่เกิน 8%

แสดงให้เห็นว่า ไม้ที่หนากว่า มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำกว่า และคงรูปได้ดีกว่าเมื่อเจอความชื้น

5.รู้จักเกรดไม้ HMR ก่อนเลือกใช้งาน พื้นที่ชื้นแค่ไหนก็เอาอยู่!

รู้จักเกรดไม้ HMR แต่ละประเภท พร้อมคำแนะนำก่อนเลือกใช้งาน

5.1  เกรด V313 – ทนชื้นสูงพิเศษ (High Moisture Resistance)

คำว่า V313 เป็นมาตรฐานการทดสอบความทนทานต่อความชื้นและการพองตัวตามมาตรฐานยุโรป (EN 317)

คุณสมบัติ:

  • ทนชื้นได้สูงมาก
  • ไม่พอง ไม่บวมง่ายเมื่อต้องสัมผัสน้ำหรืออยู่ในสภาวะเปียก
  • ผ่านการทดสอบโดยแช่น้ำและทำให้แห้งซ้ำหลายรอบโดยไม่เสียรูป

5.2 เกรด v70 – เกรดมาตรฐาน (Standard HMR)

เป็นเกรดไม้ HMR ทั่วไปที่ ทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากเท่า V313

คุณสมบัติ:

  • เหมาะกับสภาพแวดล้อมภายในทั่วไป
  • ทนชื้นจากอากาศ เช่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องรับแขก

5.3 เกรด N70 – เกรด HMR พิเศษ (Premium Moisture Resistance)

เป็นเกรดที่ พัฒนาต่อยอดจากเกรด 70 โดยมีความทนชื้นดีกว่า

คุณสมบัติ:

  • ทนไอน้ำและความชื้นได้ดีกว่าเกรด 70
  • เนื้อแน่น ละเอียด แข็งแรง

6. ไม้ HMR ใช้ในที่เปียกได้ไหม?

ไม้ HMR ใช้งานในพื้นที่เปียกได้หรือไม่

HMR ทนชื้นได้ก็จริง…แต่ใช้ในที่เปียกเลยได้หรือเปล่า? หลายคนเข้าใจผิดเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย วันนี้เรามาแยกให้ชัด ว่า HMR เหมาะกับจุดไหน และจุดไหนที่ควรหลีกเลี่ยง ก่อนเลือกใช้งานผิดที่จนวัสดุพังโดยไม่รู้ตัว

6.1 ใช้ได้กับพื้นที่แบบนี้:

  • ใต้ซิงก์ล้างจาน (ต้องซีลขอบให้ดี)
  • ตู้ครัวในบ้าน
  • ตู้เก็บของในห้องน้ำ (แต่อย่าให้โดนน้ำโดยตรง)
  • พื้นที่อับชื้น แต่ไม่มีน้ำไหลผ่านหรือแช่น้ำ

6.2 ไม่ควรใช้กับพื้นที่แบบนี้:

  • พื้นห้องน้ำโซนเปียก
  • ผนังที่โดนฝักบัวฉีดน้ำโดยตรง
  • ห้องน้ำกลางแจ้ง
  • พื้นที่ภายนอกที่เจอฝน

ติดต่อ วิวัฒน์ชัย ค้าไม้ :
Line OA : @viwatchai
Social Media Link : https://linktr.ee/viwatchai.kamai
Google Map : https://maps.app.goo.gl/9SUJ3URFxuuzTVc19
Call : 02-585-7575, 02-585-6950