ไม้โครง เอามาทำอะไรได้บ้าง แนะนำเจ้าของบ้านและช่างไม้ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี? พร้อมข้อควรระวังในการใช้งาน
ไม้โครง คือ หนึ่งในวัสดุพื้นฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานตกแต่งภายในและการผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะไม้โครงจ๊อยที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้รับเหมาและช่างไม้ เนื่องจากราคาย่อมเยาและมีความสะดวกในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม หากใช้งานไม่ถูกวิธี หรือเลือกใช้ในงานที่ไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความแข็งแรง อายุการใช้งาน และความปลอดภัยของชิ้นงานในระยะยาว
บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้การใช้งานไม้โครง อย่างถูกต้อง พร้อมแนะนำข้อควรระวังในการใช้ไม้โครงจ๊อย และแนวทางการเลือกไม้โครงให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ของงานเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ควรใช้ร่วมกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกและใช้งานได้อย่างมืออาชีพ
1. ไม้โครงจ๊อย คืออะไร
ไม้โครงจ๊อย (Finger Joint Wood) คือไม้ที่ประกอบขึ้นจากชิ้นไม้สั้นหลายท่อนโดยเชื่อมต่อกันด้วยระบบรอยต่อฟันปลา (finger joint) และยึดด้วยกาวแรงดันสูง ข้อดีของไม้โครงจ๊อยคือความประหยัดและสามารถควบคุมความยาวของไม้ได้ตรง แต่ก็มีข้อควรระวังในการเลือกใช้งาน เพราะหากรอยต่อไม่แน่นหรือกาวไม่คุณภาพดี อาจทำให้ชิ้นไม้หลุดร่อนหรือเสียรูปได้
2. ข้อควรระวังในการใช้งาน ไม้โครง
2.1 เลือก ไม้โครง ให้เหมาะกับลักษณะงาน
งานรับน้ำหนักสูง เช่น โต๊ะ เตียง: ควรใช้ไม้โครงเนื้อแข็ง เช่น เต็ง หรือสะเดา งานตกแต่งทั่วไป เช่น ตู้ ชั้นวาง: ใช้ ไม้ยางพารา หรือไม้โครงจ๊อยได้ งานโชว์ลายไม้: เลือกไม้โครงสนที่มีลายชัดและสวยงาม หรือ ดูไม้โครงที่นิยมใช้กันในตลาดหากเลือกไม้ไม่เหมาะกับงาน เช่น ใช้ไม้โครงเบากับงานรับน้ำหนัก อาจทำให้โครงยุบตัว เสียรูป หรือแตกหักได้ในเวลาอันสั้น
2.2 ตรวจสอบคุณภาพ ไม้โครง ก่อนใช้งาน
ตรวจรอยต่อของไม้โครงจ๊อยว่ามีรอยแยกหรือไม่ ตรวจความแห้งของเนื้อไม้ว่ามีเชื้อราหรือไม่ เลือกไม้ที่ไม่มีรอยแตก บิดงอ หรือบวมพอง หากใช้ไม้ที่มีความชื้นหรือรอยแตก อาจทำให้งานเกิดปัญหาระยะยาว เช่น บานพับหลุด ผิวพอง หรือแผ่นบิดจนไม่สามารถติดตั้งได้พอดี
2.3 ระวังเรื่องการรับแรงและการเจาะยึด
ไม้โครงจ๊อยเหมาะกับงานภายใน ไม่ควรใช้รับแรงสูง เช่น โครงโซฟา เมื่อใช้งานต้องเว้นจุดยึดเกลียวให้ห่างจากรอยต่อ เพื่อป้องกันการแตกร้าว หากเจาะใกล้รอยต่อหรือยึดโดยไม่เสริมแรง อาจทำให้ไม้แตก สกรูหลุด หรือชิ้นงานหล่นเสียหายได้ เสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
2.4 หลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่เปียกชื้น
ไม้โครงโดยทั่วไป (โดยเฉพาะไม้โครงยางพารา หรือไม้สะเดา) ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือพื้นที่ภายนอกที่โดนน้ำโดยตรง เพราะอาจทำให้ไม้บวม ผิดรูป หรือขึ้นราได้
2.5 ระวังเรื่องปลวกและแมลงกัดกิน
ไม้โครงส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านการอัดน้ำยา (เช่นเดียวกับไม้เนื้อแข็งบางประเภท) ดังนั้นหากใช้ในพื้นที่ชื้นหรือไม่มีการป้องกัน อาจมีปัญหาปลวก
2.6 ต้องเลือกเกรดไม้โครงที่เหมาะสม
ไม้โครงมีหลายเกรด เช่น เกรดไม้สะเดาเต็ม, เกรดไม้ประสาน, หรือแบบต่อไม้หลายท่อน ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะงาน เช่น งานบิวท์อิน งานเฟอร์นิเจอร์ หรือชิ้นงานโชว์
3. ใช้ ไม้โครง ในงานเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอย่างไรให้แข็งแรง ที่เจ้าของบ้านและช่างไม้ ควรรู้
การเลือกและเว้นระยะไม้โครงในงานเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแต่ละประเภท มีผลอย่างยิ่งต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งาน โดยสามารถแบ่งตามพื้นที่การใช้งานได้ดังนี้:
3.1 ตู้เสื้อผ้า บานสูง

ไม้โครงที่แนะนำ: ไม้สะเดา หรือไม้ยางพาราอบแห้ง
ระยะเว้นโครง: ทุก 25–30 ซม. เพื่อป้องกันแผ่นหลังหรือบานตู้แอ่นงอ
3.2 ตู้แขวน (เหนือเคาน์เตอร์ครัว)

ไม้โครงที่แนะนำ: สามารถใช้ไม้อัด และ ไม้โครงสะเดาหรือไม้โครงเต็งบริเวณยึดสกรู
ระยะเว้นโครง: ไม่เกิน 20–25 ซม. โดยเฉพาะฐานรับน้ำหนักด้านล่าง
3.3 ชั้นลอย/ชั้นโชว์

ไม้โครงที่แนะนำ: ไม้โครงสน สำหรับโชว์ลาย หรือลามิเนตปิดผิวใช้ไม้จ๊อยได้
ระยะเว้นโครง: ทุก 30 ซม. หากเป็นชั้นที่ใส่ของหนัก เว้นทุก 20–25 ซม.
3.4 โครงครัวล่าง

ไม้โครงที่แนะนำ: HMR ใช้คู่กับ ไม้โครงเต็ง หรือไม้โครงสัก เพราะไม้เต็งเป็นไม้เนื้อแข็ง ในขณะเดียวกัน ไม้สัก จะแข็งปานกลางและทนปลวกได้ (ด้านในที่สัมผัสอ่างล้างจานควรเลือกกันน้ำ)
ระยะเว้นโครง: ไม่เกิน 20 ซม. และควรเพิ่มแนวเสริมบริเวณที่ติดอุปกรณ์
3.5 เฟอร์นิเจอร์ (โต๊ะ)

ไม้โครงที่แนะนำ: ไม้โครงสัก ไม้โครงเต็ง หรือจำพวกไม้เนื้อแข็ง
ระยะเว้นโครง (Spacing): ระยะเว้นแนวโครงด้านในประมาณ 20–25 ซม. ตามมาตรฐานไม้โครงภายในสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ มีการใส่ไม้คานกลางตามแนวขวางและแนวยาว เพื่อช่วยรองรับแผ่นหน้าท็อปไม่ให้แอ่นหรือยุบตัว เพิ่มแนวเฉียง (Bracing) หรือแนวค้ำกลางในกรณีต้องการเพิ่มความแข็งแรง
4. เครื่องมือที่จำเป็นเมื่อทำงาน ไม้โครง ที่เจ้าของบ้านและช่างไม้ ควรรู้
เลื่อยวงเดือน/เลื่อยสายพาน: สำหรับตัดไม้ให้ตรงตามขนาด
เครื่องยิงแม็ก/ปืนลม: สำหรับยึดไม้ในจุดที่ต้องการความเร็ว
ไขควงไฟฟ้า: ใช้สำหรับยึดเกลียวโดยไม่ทำให้เนื้อไม้ฉีก
ปืนยิงกาวร้อน/PU กาว: ใช้สำหรับประสานไม้โครงก่อนยิงหรือขันสกรู
ระดับน้ำและฉาก: ช่วยให้งานประกอบไม้โครงได้แนวและสมดุล
Clamp (ปากกาจับงาน): ช่วยยึดไม้ระหว่างรอแห้ง หรือก่อนยึดถาวร
5. วิธีติดตั้ง ไม้โครง อย่างมืออาชีพ
ใช้เครื่องมือที่คมและเฉียบเพื่อลดแรงกระแทกขณะตัด
ใช้น้ำยาประสานหรือกาวเฉพาะไม้คุณภาพสูงเมื่อประกอบ
ยึดด้วยสกรูในแนวไม้เพื่อป้องกันการปริแตก
หากต้องใช้ร่วมกับแผ่นปิดผิว (ลามิเนต/เมลามีน) ควรใช้กาวชนิดไม่ทำลายไม้
ไม้โครงคือ วัสดุที่มีประโยชน์มากในงานเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายใน แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและเลือกให้เหมาะกับประเภทงาน หากใช้งานอย่างถูกวิธี จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความทนทาน และทำให้งานออกมาดูเป็นมืออาชีพ สนใจ ไม้โครงคุณภาพดี ราคาถูก ติดต่อ วิวัฒน์ชัย ค้าไม้
ref : https://design-guide.build-in-wood.eu/structural-components/