Home » Wood Flooring » Engineered Wood Flooring » พื้นที่การใช้งานพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ Engineered Wood : เจาะลึกโทนสี เลือกให้ตรงห้อง ตรงสไตล์ สวยทนทุกมุมบ้าน
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring) คือ พื้นไม้จริงที่ผ่านการผลิตแบบหลายชั้น ชั้นบนสุดเป็นไม้จริงที่โชว์ลายสวยงาม ส่วนชั้นล่างประกอบด้วยไม้ชนิดอื่นเรียงไขว้กันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดการบิดงอ จุดเด่นของพื้นชนิดนี้คือความทนทานสูง ดูแลง่าย และให้ความรู้สึกอบอุ่นหรูหราเหมือนไม้จริงแท้ ๆ ที่สำคัญยังมีโทนสีและสไตล์ให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับทุกห้องในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว ไปจนถึงคอนโดหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ บทความนี้จะพาคุณ ไปดูกันว่า พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ใช้ได้กับพื้นนี้ไหนบ้าง และเจาะลึกวิธีเลือกโทนสี พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ให้ตรงกับห้องและสไตล์การตกแต่ง เพื่อให้ได้ทั้งความสวยงามและความทนทานในทุกมุมบ้าน
1.พื้นที่อยู่อาศัยภายในบ้าน
1.1 ห้องนั่งเล่น (Living Room)
ห้องนั่งเล่นเป็นศูนย์กลางของบ้าน เป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัวใช้งานร่วมกันบ่อยที่สุด การใช้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในห้องนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและดูหรูหราในเวลาเดียวกัน พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ยังสามารถรองรับน้ำหนักจากเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ และทนต่อการเดินผ่านไปมาบ่อยครั้งได้ดี
- โทนแนะนำ: Valencia, Milton, Addison (โทนอ่อน) หรือ Salamanca, Pinto (โทนอุ่น)
- สไตล์ที่เหมาะ: มินิมอล, สแกนดิเนเวียน, รัสติก

1.2 ห้องนอน (Bedroom)
ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่น สงบ และผ่อนคลาย การเลือกใช้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะช่วยเพิ่มความรู้สึกน่าอยู่ให้กับห้องได้เป็นอย่างดี เนื่องจากห้องนอนเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานไม่หนักมาก พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสม ทั้งในแง่ของราคาและอายุการใช้งาน
- โทนแนะนำ: Milton, Addison (โทนอ่อนอุ่น) หรือ Imondi Trullas, Cabril (โทนเข้ม)
- สไตล์ที่เหมาะ: Cozy Minimal, Modern Classic

1.3 ห้องทำงานในบ้าน (Home Office)
สำหรับใครที่ทำงานจากที่บ้าน หรือมีห้องทำงานส่วนตัว การเลือก พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูเรียบร้อย มีสมาธิ และน่าใช้งานมากขึ้น พื้นไม้แบบนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ช่วยลดความแข็งกระด้างของห้องที่มีแต่โต๊ะเก้าอี้หรือคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรองรับน้ำหนักเฟอร์นิเจอร์สำนักงานทั่วไปได้โดยไม่เกิดรอยง่ายอีกด้วย
- โทนแนะนำ: Grey Ash, Imondi Milton, Pure Ice (โทนเทา)
- สไตล์ที่เหมาะ: โมเดิร์นมินิมอล, อินดัสเทรียล

1.4 โถงทางเดิน (Hallway)
โถงทางเดินเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีการใช้งานค่อนข้างบ่อย แต่หลายบ้านอาจมองข้ามเรื่องความสวยงาม การปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในจุดนี้จะช่วยทำให้บ้านดูมีมิติและรู้สึกต่อเนื่องทั้งหลัง โดยเฉพาะถ้าเลือกโทนสีที่เข้ากับห้องอื่น ๆ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ที่เคลือบผิวอย่างดีจะสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้พอสมควร เหมาะกับจุดที่มีการเดินผ่านบ่อย
- โทนแนะนำ: Pinto, Imondi Valencia, Pamplona (โทนกลางถึงเข้ม)
- สไตล์ที่เหมาะ: โมเดิร์นลักชัวรี่, คอนเทมโพรารี

1.5 ครัวและโซนทานอาหาร
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เหมาะกับการใช้ในห้องครัวเพราะโครงสร้างหลายชั้นมีความเสถียรกว่าไม้จริงทั้งแผ่น ทำให้ทนต่อความชื้นและอุณหภูมิที่เปลี่ยนจากการทำอาหารได้ดี ไม่บิดงอง่าย อีกทั้งยังให้บรรยากาศอบอุ่นและหรูหรากว่ากระเบื้องหรือพื้นหิน โดยสามารถเลือกโทนสีได้หลากหลาย เหมาะทั้งครัวบ้านและครัวเปิดที่ต้องการความสวยงามคู่ความทนทานครับ
- โทนแนะนำ: Salamanca, Tobacco, Cabril (โทนอุ่นและเข้ม)
- สไตล์ที่เหมาะ: คันทรีโมเดิร์น, รัสติก, โมเดิร์นลอฟท์

2. คอนโดและอาคารสูง
คอนโดได้ประโยชน์จาก พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เพราะมีน้ำหนักเบากว่าพื้นไม้จริง ไม่เพิ่มภาระต่อโครงสร้างอาคาร โดยยังคงให้ภาพลักษณ์ที่หรูหราและอบอุ่นกว่าการใช้กระเบื้องหรือพื้นแข็งอื่น ๆ เหมาะอย่างยิ่งกับพื้นที่อยู่อาศัยที่ต้องการทั้งความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน
- โทนสว่างโปร่ง: Valencia, Milton, Addison
ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับคอนโดขนาดเล็ก–กลาง ใช้คู่กับเฟอร์นิเจอร์โทนขาว ครีม หรือไม้สีอ่อน ให้ความรู้สึกสะอาดและทันสมัย
- โทนเทาโมเดิร์น: Grey Ash, Trullas, Pure Ice
เหมาะกับคอนโดสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล สร้างความนิ่ง สงบ และมีคาแรกเตอร์ ช่วยให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์สีดำหรือโลหะได้ดี
- โทนเข้มลักชัวรี่: Walnut Nature, Dover, Pamplona, Prado
ให้ความรู้สึกหรูหราและมีระดับ เหมาะกับเพนท์เฮาส์หรือคอนโดไฮเอนด์ ใช้คู่กับเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินไม้เข้ม หรือโซฟาหนังแท้ เพื่อเน้นความพรีเมียม

3.พื้นที่เชิงพาณิชย์
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ให้ภาพลักษณ์พรีเมียมและเดินสบาย เหมาะกับบูติก คาเฟ่ โชว์รูมที่ต้องการบรรยากาศเป็นธรรมชาติ แต่ ต้องเลือกสเปกระดับงานหนักแนะนำการแต่งห้อง
- โทนอุ่นต้อนรับลูกค้าอย่าง Salamanca, Pinto และ Tobacco ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร เหมาะกับร้านกาแฟหรือร้านอาหารโทนคันทรีและรัสติก เมื่อนำมาใช้คู่กับแสงไฟวอร์มไวท์และเฟอร์นิเจอร์ไม้จะช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
- ส่วนโทนเข้มพรีเมียมอย่าง Walnut Nature, Cabril, Dover, Pamplona และ Prado เหมาะกับโชว์รูม บาร์ หรือร้านแฟชั่นที่ต้องการความหรูหราและสร้างภาพจำ โดยใช้ร่วมกับไฟสปอตไลท์และของตกแต่งโทนเข้มเพื่อเน้นความคมชัด
- ขณะที่โทนเทาทันสมัยอย่าง Grey Ash, Trullas และ Pure Ice เหมาะกับออฟฟิศสไตล์โมเดิร์นหรือคาเฟ่โทนอินดัสเทรียล ช่วยให้พื้นที่ดูเรียบ เท่ และเป็นมืออาชีพ

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เหมาะกับหลายพื้นที่ในบ้าน แต่เจ้าของบ้านควรเลือกใช้ให้ถูกกับฟังก์ชันและสภาพแวดล้อม หากอยากรู้ ปัจจัยที่เจ้าของบ้านที่เลือกใช้ Engineered Wood สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่
4.พื้นที่ที่ไม่เหมาะสม
ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำขังหรือเปียกตลอดเวลา เช่น ห้องน้ำ พื้นนอกบ้าน หรือห้องซักรีด เพราะแม้จะทนชื้น แต่ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ไม่กันน้ำ 100% และอาจเสียหายได้หากโดนน้ำเป็นเวลานาน

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับความสวยงามและบรรยากาศของบ้านให้หรูหราและอบอุ่น แต่ยังตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ครบทุกมุม ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว คอนโด ไปจนถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อความชื้นมากกว่าไม้จริง ดูแลง่าย และมีโทนสีให้เลือกหลากหลาย คุณจึงสามารถเลือกพื้นไม้ที่เข้ากับสไตล์และการใช้งานได้อย่างลงตัว
หากคุณกำลังมองหา สินค้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ คุณภาพสูงที่สวยงามและคุ้มค่า VK Floor พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ เราคัดสรรไม้คุณภาพมาตรฐานสากล ดีไซน์หลากหลายสไตล์ ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ยาวนาน และมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน เลือก VK Floor เพื่อให้ทุกมุมบ้านของคุณสวยทนและใช้งานได้จริงอย่างแท้จริง
อ่านบทความพื้นที่การใช้งานของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เพิ่มเติมได้ที่นี่ ref:https://fermaflooring.com/faq/application-for-engineered-hardwood-flooring/