Home » Wood Flooring » Engineered Vinyl Flooring » Allure » พื้น Vinyl Allure vs พื้น SPC: เปรียบเทียบโครงสร้าง เทคโนโลยีเลือกแบบไหนดีกว่าสำหรับคุณ!
ในการเลือกวัสดุปูพื้น บ้าน คอนโด หรือแม้แต่พื้นที่เชิงพาณิชย์ การตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความสวยงาม แต่ยังรวมถึงความแข็งแรง ความสบาย และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ซึ่งหนึ่งในคำถามที่เจ้าของบ้านและนักออกแบบมักเจอคือ ควรเลือกพื้น Vinyl หรือพื้น SPC ดีกว่ากัน? แม้ว่าพื้น SPC จะโดดเด่นเรื่องความแข็งแรงและกันน้ำ แต่ Vinyl Allure กลับมีโครงสร้างและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า ทั้งความยืดหยุ่น การเดินที่นุ่มสบาย และระบบป้องกันเชื้อรา–แบคทีเรีย ทำให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานหนัก เช่น ห้องฟิตเนส หรือบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกการเปรียบเทียบโครงสร้าง เทคโนโลยี ข้อดี–ข้อจำกัดของพื้นทั้งสองแบบ พร้อมแนะนำว่าพื้นประเภทไหนคือคำตอบที่ใช่สำหรับบ้านหรือโครงการของคุณ
1.ทำความรู้จักวัสดุโครงสร้างพื้น Vinyl Allure และ พื้น SPC
1.1 พื้น Vinyl Allure : Core Virgin Vinyl 100%
พื้น Vinyl Allure ใช้แกนกลาง (Core) ที่ทำจาก Virgin Vinyl 100% ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปราะง่าย สามารถโอบรับสภาพพื้นได้ดีแม้พื้นไม่เรียบ ทำให้โอกาสการโก่งตัวหรือบวมน้อยกว่า อีกทั้งยังมีคุณสมบัติรีไซเคิลได้ (Recycle) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อายุการใช้งานยาวนาน และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความนุ่มสบายและรองรับแรงกระแทก เช่น ห้องฟิตเนส ห้องเด็ก หรือบ้านที่มีผู้สูงอายุ
1.2 พื้น SPC : Core Stone Powder + PVC
พื้น SPC มีแกนกลางที่ผสม แคลเซียมคาร์บอเนต เข้ากับ PVC Core ทำให้แผ่นมีความหนาแน่นสูง แข็งแรงและทนต่อแรงกดทับ เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการพื้นแข็งและมั่นคง เช่น ห้องครัว โถงคอนโด หรือร้านค้า จุดเด่นคือกันน้ำได้ดีและมีความคงรูปสูง แต่ข้อจำกัดคือความแข็งนี้อาจทำให้พื้นแตกหรือร้าวได้หากมีของหนักตกกระแทก อีกทั้งไม่สามารถรีไซเคิลได้ง่ายเท่ากับ Virgin Vinyl
2.เทคโนโลยีที่ทำให้ Vinyl Allure โดดเด่นกว่า กระเบื้องยาง SPC
2.1 UltraFresh
UltraFresh เป็นเทคโนโลยีที่เคลือบบนพื้น เพื่อช่วย ป้องกันการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งมักเป็นสาเหตุของกลิ่นอับและคราบสกปรก เมื่อใช้ในพื้นที่ชื้น เช่น ห้องครัวหรือฟิตเนส จึงช่วยรักษาความสะอาดและสุขอนามัยได้ดีกว่าพื้นทั่วไป
2.2 Isocore Technology หรือ Air Pocket – เดินนุ่มสบาย
Isocore Technology หรือที่เรียกว่า Air Pocket คือโครงสร้างภายในที่ออกแบบให้มีชั้นอากาศเล็ก ๆ ทำหน้าที่ซับแรง ทำให้พื้นเดินแล้วนุ่มสบาย ไม่แข็งกระด้างเหมือนกระเบื้องหรือ SPC ที่เน้นความแข็งเพียงอย่างเดียว ช่วยลดแรงกระแทกที่ส่งต่อไปยังเท้า ขา และเข่า เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในบ้านที่มีผู้สูงอายุ ห้องฟิตเนส หรือโฮมยิม
*หมายเหตุ : อ่านบทความ เทคโนโลยี Isocore คืออะไร ได้ในที่นี่
2.3 Acoustic Board – ลดเสียงรบกวนระหว่างชั้น
ด้วยการเสริม Acoustic Board ทำให้พื้น Vinyl Allure สามารถลดเสียงส่งผ่านระหว่างชั้นได้มากถึง 18 dB จึงเหมาะกับการใช้งานในคอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือบ้านที่ต้องการความเงียบสงบ ลดเสียงรบกวนจากการเดินหรือการขยับเฟอร์นิเจอร์ลงสู่ชั้นล่าง เพิ่มความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ดียิ่งขึ้น
3.ตารางสรุปการเปรียบเทียบพื้นไวนิล Allure vs กระเบื้องยาง SPC
ด้านการเปรียบเทียบ | พื้น Vinyl Allure | พื้น SPC (Stone Plastic Composite) |
---|---|---|
โครงสร้างหลัก | Core ทำจาก 100% Virgin Vinyl ยืดหยุ่นสูง | Core ผสม หินปูน (Calcium Carbonate) + PVC แข็ง หนัก |
ความยืดหยุ่น | ยืดหยุ่นตามสภาพพื้นผิว ลดโอกาสบวม สามารถ “โอบรับพื้น” ได้ | แข็งและเปราะ หากพื้นไม่เรียบหรือมีแรงกระแทกสูง มีโอกาสแตกร้าว |
เทคโนโลยีเสริม | มี UltraFresh™, Isocore Technology,Acoustic Board | มักมีเพียง UV Coating + Wear Layer เน้นกันรอย |
การทนแรงกระแทก | เหมาะกับการใช้งานหนัก เช่น ฟิตเนส โฮมยิม เด็กวิ่งเล่น ไม่แตกแม้มีของหนักตกใส่ | หากมีของหนักตกใส่ อาจแตกร้าวได้ เพราะมีส่วนผสมหินใน Core |
ความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน | เดินสบาย ซับแรงได้ดี ปลอดภัยต่อเด็กและผู้สูงอายุ | แข็งแรง ทนทาน หากใช้เกรดคุณภาพสูงปลอดภัยต่อเด็กและผู้ใหญ่ในบ้าน |
โอกาสการบวม/โก่งตัว | น้อยกว่า เพราะยืดหยุ่นและตามสภาพพื้นได้ | ทนน้ำความชื้นได้ หากเจอน้ำขังอย่างต่อเนื่องอาจทำให้พื้นโก่งตัว |
พื้นที่แนะนำ | ห้องฟิตเนส, โฮมยิม, ห้องเด็ก, โรงเรียน, โรงพยาบาล, ร้านคาเฟ่ | ห้องครัว, โถงคอนโด, ร้านค้าที่ต้องการพื้นแข็งและกันน้ำ |
ความสวยงาม/ลวดลาย | มีลายหลากหลาย ทั้งไม้ หิน และดีไซน์ร่วมสมัย | มีลายหลากหลายเช่นกัน แต่ผิวสัมผัสแข็งกว่า |
ราคา | สูงกว่า SPC เล็กน้อย แต่ได้เทคโนโลยีเสริมและอายุการใช้งานยาวนาน | ราคาย่อมเยากว่า เหมาะกับโครงการที่ต้องการควบคุมงบประมาณ |
4.ทำไมพื้น Vinyl Allure เหมาะกับพื้นที่ออกกำลังกายและการใช้งานหนักมากกว่า
พื้น Vinyl Allure ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อเกิดการกระแทกจากของหนัก เช่น ดัมเบลหรืออุปกรณ์ฟิตเนสที่หล่นใส่ พื้นก็ไม่แตกหรือร้าวเหมือน SPC ที่มีส่วนผสมของหินในแกนกลาง อีกทั้งยังสามารถซับแรงกดและแรงสั่นสะเทือนได้ดี ลดการบาดเจ็บของขาและเข่าระหว่างการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังทนต่อเหงื่อ ความชื้น และการใช้งานหนักในระยะยาว ทำให้เหมาะกับห้องฟิตเนส ห้องเด็ก หรือพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา อีกข้อแตกต่างสำคัญคือ Vinyl Allure มีโอกาสบวมน้อยกว่า SPC เพราะสามารถปรับตัวตามสภาพพื้นผิวได้ดีกว่า จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่ที่มีการใช้งานหนักหรือกิจกรรมต่อเนื่อง จึงควรเลือกใช้ Vinyl มากกว่า SPC เพื่อความปลอดภัยและความทนทานในระยะยาว
5.ข้อจำกัดของพื้น Vinyl Allure และพื้น SPC
5.1 ข้อจำกัดของพื้น Vinyl Allure
- ราคาสูงกว่าพื้น SPC เล็กน้อย เพราะใช้ Virgin Vinyl และมีเทคโนโลยีเสริม
- ความแข็งแรงเชิงโครงสร้างน้อยกว่า SPC หากติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการพื้นแข็งมาก ๆ อาจไม่เหมาะ
- ทนความร้อนสูงได้น้อยกว่า หากโดนความร้อนจัดหรือแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการหดหรือขยายตัวเล็กน้อย
5.2 ข้อจำกัดของพื้น SPC
- มีส่วนผสมของหิน (Stone Powder) ทำให้พื้นแข็งแต่เปราะ หากของหนักตกใส่ มีโอกาสแตกร้าว
- ความยืดหยุ่นต่ำ ไม่สามารถปรับตัวตามสภาพพื้นได้ดี หากพื้นไม่เรียบ อาจเกิดช่องว่างหรือแตกหัก
- รีไซเคิลได้ยากกว่า Vinyl Allure จึงไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไร
เมื่อเปรียบเทียบโครงสร้างและคุณสมบัติระหว่าง พื้น Vinyl Allure และ พื้น SPC จะเห็นได้ชัดว่าพื้นแต่ละประเภทมีข้อดี–ข้อจำกัดที่แตกต่างกัน SPC เด่นที่ความแข็งแรงและกันน้ำได้ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้านและคอนโด แต่ในขณะเดียวกัน Vinyl Allure กลับตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องการทั้งความสบาย ความยืดหยุ่น และเทคโนโลยีเสริมด้านสุขอนามัย เช่น UltraFresh™ ป้องกันเชื้อรา, Isocore Technology เดินนุ่มสบาย และ Acoustic Board ลดเสียงรบกวน จึงทำให้ Vinyl Allure เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องฟิตเนส ห้องเด็ก หรือบ้านที่มีผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง
ถ้าคุณกำลังมองหาพื้นที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมอบความปลอดภัย ความทนทาน และสบายในทุกย่างก้าว พื้น Vinyl Allure จาก VK Floor คือคำตอบที่คุ้มค่าในระยะยาว เลือกลงทุนกับวัสดุที่ยกระดับคุณภาพชีวิต และคุณจะสัมผัสความต่างตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง