พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) ทางเลือกใหม่ของบ้านที่รักสัตว์

Table of Contents

                 หลายบ้านที่มีสุนัขหรือแมวมักเจอปัญหาเรื่องพื้นบ้านที่เสียหายเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรอยเล็บ พื้นบวม หรือกลิ่นอับที่แก้ไม่หาย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเลือกพื้นไม่เหมาะกับการใช้งานร่วมกับสัตว์เลี้ยง เพราะพื้นทั่วไปไม่ได้ถูกออกแบบให้ทนต่อความชื้นและแรงขีดข่วนแบบต่อเนื่อง การเข้าใจปัญหาเหล่านี้จึงเป็นก้าวแรกของการเลือก พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly Flooring) ที่ตอบโจทย์ทั้งความสวย ทน และปลอดภัยต่อเพื่อนสี่ขาในบ้านของคุณ

1.ทำไมพื้นทั่วไปถึงไม่เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง 

พื้นทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะพื้นเหล่านี้มักไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อรอยเล็บ ความชื้น หรือคราบสกปรกจากสัตว์ เช่น พื้นไม้จริงที่เป็นรอยง่ายและบวมเมื่อโดนน้ำ หรือพื้นกระเบื้องที่ลื่นเกินไปจนทำให้สุนัขและแมวลื่นล้มได้ง่าย นอกจากนี้พื้นบางประเภทอาจดูดซับกลิ่นหรือคราบปัสสาวะ ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และยากต่อการทำความสะอาด การเลือกพื้น “Pet-Friendly” จึงสำคัญ เพราะช่วยให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย สะดวก และรักษาความสวยของบ้านได้ในระยะยาว

2. พื้นไม้แบบไหนถึงเรียกว่า “Pet-Friendly” ได้จริง

2.1 ทนรอยขีดข่วน (Scratch Resistant)

พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly ต้องมีความแข็งแรงและทนรอยขีดข่วนได้ดี เพราะสุนัขและแมวมักวิ่งเล่นหรือกระโดดขึ้นลงบนพื้นตลอดเวลา หากพื้นไม่มีชั้นเคลือบกันรอย เช่น UV Coating หรือ Aluminum Oxide พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยงจะเกิดรอยได้ง่าย การเลือกพื้นไม้ Pet-Friendly ที่มีการเคลือบผิวทนรอยจึงช่วยให้บ้านดูใหม่และยืดอายุการใช้งานของพื้นได้ยาวนานขึ้น  

2.2 กันน้ำหรือกันความชื้นได้ดี (Water & Moisture Resistant)

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ของพื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly คือความสามารถในการกันน้ำและกันความชื้น เพราะสัตว์เลี้ยงมักทำให้พื้นเปียกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหก ปัสสาวะ หรือรอยเท้าที่เปียกหลังอาบน้ำ พื้นทั่วไปที่ดูดซึมน้ำได้ง่ายจะบวมและเสียรูปเร็ว ดังนั้นจึงควรเลือกใช้พื้นไม้ Pet-Friendly ประเภท SPC หรือ พื้นไวนิล ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ หรือถ้าเลือกพื้นไม้จริงหรือเอ็นจิเนียร์ ควรเสริมด้วยชั้นเคลือบกันชื้นและใช้โฟมรองพื้นกันน้ำเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

2.3 ทำความสะอาดง่าย (Easy to Clean)

พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly ที่ดีต้องทำความสะอาดง่าย เพราะบ้านที่มีสุนัขหรือแมวมักมีขนและคราบมากกว่าปกติ พื้นไม้ Pet-Friendly จึงควรมีผิวหน้าเรียบ ไม่เป็นร่อง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกติดตามรอยต่อ และควรสามารถเช็ดคราบออกได้โดยไม่ต้องใช้น้ำยาที่แรงเกินไป พื้นไวนิลและ SPC เป็นวัสดุ Pet-Friendly ที่โดดเด่นเรื่องนี้ เพียงใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ด พื้นก็สะอาดเงางามโดยไม่ทิ้งคราบ

2.4  ไม่ลื่น (Slip-Resistant)

พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly ควรมีผิวสัมผัสที่ไม่ลื่น เพราะพื้นผิวมันวาวอย่างกระเบื้องหรือไม้เคลือบเงาอาจทำให้สัตว์เลี้ยงลื่นล้มและเกิดการบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ใหญ่หรือสัตว์อายุมาก การเลือกพื้นไม้ Pet-Friendly ที่มีพื้นผิวแบบด้าน (Mat­te Finish) หรือมี Texture เล็กน้อยช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นใจในการเดิน พื้น SPC และพื้นลามิเนตกันลื่นจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง *อ่านบทความ ค่า R ในพื้นไม้คืออะไร?  ได้ที่นี่

2.5 ปลอดภัยต่อสัตว์ 

พื้นไม้ที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงตามแนวคิด Certified Pet-Friendly Flooring ควรผ่านมาตรฐานด้าน ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (Indoor Air Quality) เช่น E1, FloorScore, หรือ Greenguard Gold ซึ่งรับรองว่าปลอดสารระเหย (Low VOC) และไม่มีฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ พื้นควรมี ค่า Slip Resistance (R10–R12) เพื่อป้องกันการลื่นของสุนัขและแมว และมี Surface Durability ระดับ AC4–AC5 ตามมาตรฐานยุโรป EN 13329 เพื่อให้ทนต่อรอยเล็บและการขีดข่วนในชีวิตประจำวันได้ดี อีกทั้งต้องเป็นพื้นไม้ที่ กันน้ำหรือกันความชื้นได้ในระดับหนึ่ง เพื่อป้องกันปัญหาพื้นบวมจากอุบัติเหตุน้ำหกหรือปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง

โดยรวมแล้ว พื้นไม้ที่ดีต่อสัตว์เลี้ยงตามแนวทางของ CER หรือสถาบันรับรองวัสดุสิ่งแวดล้อม ควรมี 3 ปัจจัยหลักคือ

  1. ปลอดสารเคมี (Low VOC Certified)

  2. ปลอดภัยต่อการเดินและข้อต่อของสัตว์ (Anti-Slip Surface)

  3. ทนรอยและทำความสะอาดง่าย (Scratch & Water Resistant)

3.พื้นไม้แต่ละประเภท เหมาะกับสัตว์เลี้ยงหรือไม่

ประเภทพื้นความเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงจุดเด่นของพื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly)คำแนะนำเพิ่มเติม
พื้นไม้จริง (Solid Wood)สามารถใช้ได้สวยเป็นธรรมชาติแต่เปราะบาง เป็นรอยง่ายและบวมเมื่อโดนน้ำหลีกเลี่ยงถ้าสัตว์มีเล็บยาวหรือชอบเล่นน้ำ
พื้นไม้คอมพาวด์ (Compound Wood)สามารถใช้ได้โครงสร้างแน่น เหมือนไม้จริง ไม่ทนน้ำควรเลือกเกรดเคลือบผิวกันรอยและกันชื้น
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood)สามารถใช้ได้ผิวหน้าเป็นไม้จริง ทนชื้นได้ดีกว่าไม้แท้เลือกแบบเคลือบ UV หรือ Aluminum Oxide เพิ่มความทน
พื้นลามิเนต (Laminate)เหมาะกับการใช้ทนรอยขีดข่วน ได้ดีระวังน้ำซึมตามรอยต่อ ควรเช็ดให้แห้งทันที
พื้นไวนิล (Vinyl Floor)เหมาะกับการใช้ที่สุดผิวเรียบ  กันรอยและกันน้ำได้ดีเหมาะกับบ้านที่มีแมวหรือสุนัขขนาดเล็ก
พื้น SPC (Stone Plastic Composite)เหมาะกับการใช้กันน้ำ 100% ทนรอย ระดับหนึ่งเหมาะกับทุกห้องในบ้าน Pet-Friendly โดยเฉพาะจุดที่สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นบ่อย

 

*อ่านบทความ พื้นไม้ Pet-Friendly vs พื้นกระเบื้อง  ได้ที่นี่

4.ปัญหาที่มักเกิดกับพื้นบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง 

  • รอยขีดข่วนจากเล็บสัตว์เลี้ยง ปัญหาหลักของพื้นไม้ทั่วไปที่ไม่ใช่พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly

  • พื้นบวมจากความชื้นหรือน้ำหก  สัตว์เลี้ยงอาจทำให้น้ำหกหรือเปียกบ่อยจนพื้นเสียรูป

  • กลิ่นอับและคราบปัสสาวะฝังพื้น  หากไม่ใช่พื้นไม้ Pet-Friendly ที่กันน้ำได้ กลิ่นจะซึมเข้าเนื้อไม้

  • พื้นลื่นจนสัตว์เลี้ยงล้มบ่อย โดยเฉพาะพื้นผิวเงาหรือกระเบื้องที่ไม่มีแรงยึดเกาะ

  • ขนสัตว์ติดพื้นและรอยเท้าเปื้อน  พื้นผิวบางชนิดทำความสะอาดยาก ไม่เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง

  • เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังรบกวน  พบได้ในพื้นแข็งที่ไม่มีชั้นกันเสียง เช่น พื้นไม้จริงหรือกระเบื้อง

*อ่านบทความ รวมปัญหา พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) ต้องเจอ ได้ที่นี่

5. เคล็ดลับการดูแลพื้นไม้ในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง

การดูแล พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly Flooring) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บ้านสวยสะอาดและยืดอายุการใช้งานของพื้นได้ยาวนานขึ้น เจ้าของบ้านที่มีสุนัขหรือแมวมักเผชิญปัญหารอยเล็บ คราบน้ำ หรือขนติดพื้น แต่ถ้ารู้วิธีดูแลอย่างถูกต้อง พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณก็จะยังดูใหม่ เงางาม และปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงตลอดเวลา

5.1 ตัดเล็บสัตว์เลี้ยงสม่ำเสมอ

รอยเล็บคือศัตรูตัวร้ายของพื้นไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะพื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีผิวหน้าเรียบและเงา การตัดเล็บสุนัขหรือแมวเป็นประจำช่วยลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วนและทำให้พื้น Pet-Friendly ของคุณดูเรียบเนียนเหมือนใหม่อยู่เสมอ

5.2 ใช้พรมกันลื่นในจุดที่สัตว์เลี้ยงชอบวิ่งเล่น

ถึงแม้พื้นไม้ Pet-Friendly หลายรุ่นจะออกแบบมาให้กันลื่น แต่การเสริมพรมกันลื่นในจุดที่สัตว์เลี้ยงชอบวิ่งหรือกระโดด เช่น หน้าประตู หรือโซฟา จะช่วยป้องกันการลื่นล้มและลดแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น เหมาะทั้งกับสุนัขพันธุ์ใหญ่และสัตว์เลี้ยงสูงอายุ

5.3 เช็ดทำความสะอาดทันทีเมื่อมีคราบหรือน้ำ

คราบน้ำหรือของเหลวที่ตกค้างบนพื้นอาจทำให้เกิดความชื้นและกลิ่นได้ แม้พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly อย่าง SPC หรือ ไวนิลจะกันน้ำได้ แต่การรีบเช็ดให้แห้งยังช่วยป้องกันคราบฝังลึกและรักษาความสะอาดของพื้นให้ดูใหม่ตลอดเวลา

5.4 ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน

การเลือกน้ำยาที่เหมาะกับพื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly เป็นอีกจุดที่หลายคนมองข้าม ควรใช้น้ำยาที่ไม่มีกรด ด่าง หรือกลิ่นแรง เพราะอาจระคายเคืองผิวสัตว์เลี้ยง แนะนำให้ใช้ Cleaner สูตรอ่อนโยนสำหรับพื้นไม้หรือ Pet-Safe โดยเฉพาะ เพื่อให้พื้นสะอาด ไม่ลื่น และปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงในบ้าน

*อ่านบทความ เทคนิคดูแล พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) ให้เหมือนใหม่ทุกวัน  ได้ที่นี่

                 การมีสัตว์เลี้ยงไม่ควรเป็นอุปสรรคของบ้านสวย ถ้าเลือกพื้นได้ถูกประเภท ปัญหาทั้งรอยขีดข่วน พื้นลื่น หรือกลิ่นสะสมก็จะหมดไป การเลือกใช้ พื้นไม้สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet-Friendly ที่กันน้ำ กันรอย และทำความสะอาดง่าย ไม่เพียงช่วยยืดอายุพื้น แต่ยังช่วยให้บ้านดูเรียบร้อย น่าอยู่ และปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงทุกตัว เพราะสุดท้าย “พื้นบ้านที่ดี” ไม่ได้แค่รองรับการเดินของเรา แต่ยังต้องรองรับการใช้ชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่เรารักด้วยเช่นกัน

 

พื้นไวนิล Allure คือคำตอบของคนที่มองหาพื้นคุณภาพสูงสำหรับบ้านยุคใหม่ เพราะออกแบบภายใต้เทคโนโลยีระดับสากลที่ทั้ง สวย ทน และปลอดภัย  ด้วยนวัตกรรม UltraFresh Antibacterial Technology ที่ช่วยยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้บ้านสะอาดอยู่เสมอ ผสานโครงสร้าง IsoCore  Technology ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงแต่ยังคงความยืดหยุ่น เดินสบาย และไม่ส่งเสียงดัง พร้อมมาตรฐาน กันลื่น (R10–R12) และ กันรอยขีดข่วนระดับ AC4 ที่เหมาะกับทุกห้องในบ้าน ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้องครัว พื้น Allure ยังผ่านการรับรองคุณภาพอากาศภายในอาคารจาก CER และ FloorScore® จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อคนในบ้านและสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง  สวย เนี้ยบ และใช้งานได้นานกว่าที่คิด เลือก Allure แล้วคุณจะรู้ว่า “พื้นดี” มีผลต่อความสุขในทุกก้าวเดินจริง ๆ

สนใจ พื้นไวนิลคุณภาพสูงแบรนด์ Allure นำเข้าจากยุโรปเกรดพรีเมี่ยม คลิกได้เลย!!

Google Map
Line
Line
Google Map