Home » Wood Flooring » Engineered Vinyl Flooring » ประวัติความเป็นมาของพื้นไวนิล จากห้องทดลองสู่พื้นสวยกันน้ำของยุคใหม่
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1800 นักวิจัยชาวยุโรปทดลองกับก๊าซไวนิลคลอไรด์ (vinyl chloride gas) แล้วได้วัสดุที่แข็งและไม่มีการใช้งานจริงในตอนนั้น แต่หลายสิบปีต่อมา วัสดุนี้กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา “พื้นไวนิล” ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ซึ่งในยุค 1960s พื้นไวนิลก็ได้รับความนิยมอย่างสูง และทุกวันนี้ได้ถูกยกระดับให้สมจริงจนแทบแยกไม่ออกจากไม้จริงหรือหินธรรมชาติ
1.การค้นพบโพลีไวนิลคลอไรด์ครั้งแรก
วัสดุปูพื้นที่มีความยืดหยุ่น (resilient flooring) แบบแรกของโลกคือ ลินโนเลียม (Linoleum) ที่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1845 จากนั้นในปี 1872 นักเคมีชาวเยอรมันชื่อ Eugen Baumann ได้สังเคราะห์ “โพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC)” ขึ้นได้เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม การนำ PVC มาใช้งานจริงยังไม่สำเร็จ จนกระทั่งในปี 1926 นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อ Waldo Semon จากบริษัท B.F. Goodrich พยายามจะสร้างกาวชนิดใหม่ แต่กลับค้นพบวิธีทำให้ PVC มีความ “ยืดหยุ่น” และ “ทนทาน” จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของวัสดุที่เราเรียกว่า Vinyl
ไม่นานหลังจากนั้น Vinyl ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ และพัฒนาเป็น “กระเบื้องไวนิล” ในช่วงทศวรรษ 1930s
2.การเปิดตัว พื้นไวนิล ครั้งแรกของโลก
พื้นไวนิล ถูกเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน A Century of Progress International Exposition ปี 1933 ที่เมืองชิคาโก งานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองนวัตกรรมทางเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 1833 ถึง 1933 และได้รับความนิยมมหาศาล มีผู้เข้าชมกว่า 50 ล้านคน พื้นไวนิล ในเวลานั้นได้รับความสนใจเพราะมีคุณสมบัติ ทนไฟ ยืดหยุ่น และราคาย่อมเยา แม้จะอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Great Depression) ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม วัสดุที่ใช้ผลิต เช่น ปิโตรเลียม ต้องนำไปใช้ในการสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้การผลิตพื้นไวนิลหยุดชะงัก และกลับมาผลิตอีกครั้งหลังสงครามสิ้นสุด
3.ยุคหลังสงคราม: จุดบูมของพื้นไวนิล (1950s)
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วงปี 1950 เกิด “ยุคแห่งอสังหาริมทรัพย์” เพราะทหารผ่านศึกจำนวนมากกลับบ้านและเริ่มสร้างครอบครัวใหม่ ความต้องการวัสดุก่อสร้างพุ่งสูงขึ้น และ “ พื้นไวนิล ” ก็กลายเป็นหนึ่งในวัสดุยอดนิยม เพราะ ติดตั้งง่าย ทนทาน และราคาคุ้มค่า ถูกนำไปใช้ในบ้าน โรงเรียน โรงพยาบาล และธุรกิจต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย
4.ยุคทองของ พื้นไวนิล (1960s)
พื้นไวนิล ยังคงได้รับความนิยมในยุค 1960s โดยเฉพาะในบ้านสไตล์ Mid-Century Modern ที่เน้นลวดลายและสีสันสดใส ผู้คนสามารถเลือกดีไซน์ได้หลากหลาย เช่น ลายดอกไม้ ลายตาราง หรือลายไม้จำลอง
เทคโนโลยีในยุคนั้นได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ เช่น พื้นไวนิลแบบ No-Wax (ไม่ต้องเคลือบแว็กซ์) และ พื้นไวนิลแบบมีชั้นกันกระแทก (Cushioned Vinyl) ซึ่งให้ความนุ่มสบายยามเดิน ทำให้ไวนิลกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ “พรม” ที่เคยครองตลาดมาก่อนหน้านี้
5.ยุค 1970s: การถือกำเนิดของ “Vinyl Plank”
ในยุค 1970s กระแสตกแต่งบ้านแนว “อเมริกันโคโลเนียล” ที่นิยมโทนไม้และเอิร์ธโทนกำลังมาแรง ส่งผลให้ผู้ผลิตพัฒนา “Vinyl Plank Flooring” หรือพื้นไวนิลแบบแผ่นยาวให้เหมือนไม้จริงมากขึ้น
พื้นไม้จริงมีข้อเสียเรื่องราคาแพง และบวมหรือหดตัวเมื่อเจอความชื้น แต่ Vinyl Plank เป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบ เพราะกันน้ำได้ ใช้ได้แม้ในห้องน้ำหรือชั้นใต้ดิน และในเวลาต่อมาได้เพิ่ม “ขอบเซาะร่อง (Beveled Edge)” เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น
6.ยุคใหม่ของ Luxury Vinyl Flooring (LVT / LVP)
ปัจจุบัน พื้นไวนิล หรูหรา (LVT/LVP) ได้พัฒนาไปไกลเกินจินตนาการ ด้วยเทคโนโลยี ภาพพิมพ์ 3 มิติ (3D Photorealistic Printing) ทำให้ลวดลายเหมือนไม้จริง หิน หรือกระเบื้องได้อย่างสมจริง พื้น LVP รุ่นใหม่มีคุณสมบัติ กันน้ำ 100%, ทนรอยขีดข่วน, กันลื่น, และ ปลอดสาร VOCs เพื่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพราะไม่ปล่อยสารพิษและสามารถรีไซเคิลได้
ปัจจุบัน พื้นไวนิล หรูหราเป็นที่นิยมทั้งในบ้านและอาคารพาณิชย์ ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการคือ ความสวยงาม ความทนทาน และราคาที่เข้าถึงได้ *อ่านบทความ พื้นไวนิลรักษ์โลก เพิ่มเติมได้ที่นี่
ตลอดเวลากว่าศตวรรษ พื้นไวนิล ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จากวัสดุที่ถือกำเนิดในห้องทดลอง สู่พื้นสวยสมจริงที่ทั้งกันน้ำ ดูแลง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน VK Floor ได้นำเข้าและจำหน่ายแบรนด์คุณภาพระดับโลก พื้นไวนิล Allure จากสหรัฐอเมริกา ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเหนือชั้นอย่าง Isocore™ กันน้ำ 100%, Acoustic Board ลดเสียง, Ultra-Fresh® ป้องกันแบคทีเรีย, และ Scratch Guard ทนรอยขีดข่วน เพื่อให้คุณได้พื้นสวยที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและคงทนยาวนาน
เพราะที่ VK Floor เราเชื่อว่า “พื้นบ้านที่ดี” ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชัน ความทน และความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อให้ทุกก้าวของคุณบนพื้น Allure คือความสบายที่มาพร้อมความมั่นใจ

