AC Rating คืออะไร? มาตรฐานกันรอย พื้นลามิเนต ที่คุณควรรู้ก่อนซื้อ
เมื่อพูดถึงการเลือก พื้นลามิเนต หลายคนอาจให้ความสำคัญกับสีและลวดลายเป็นหลัก แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “มาตรฐานความทนทาน” ที่เรียกว่า AC Rating (Abrasion Class Rating) ซึ่งเป็นเกณฑ์สากลที่ใช้วัดคุณภาพและอายุการใช้งานของ พื้นลามิเนต มาตรฐานนี้ช่วยบอกได้ชัดเจนว่า พื้นลามิเนตแต่ละระดับเหมาะกับห้องหรือพื้นที่แบบไหน ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นภายในบ้าน ไปจนถึงร้านค้าและห้างสรรพสินค้าที่มีการใช้งานหนัก หากคุณกำลังมองหาพื้นลามิเนตที่ทั้งสวยและคุ้มค่า การเข้าใจ AC Rating คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เลือกได้ถูกต้องตั้งแต่แรก
1.AC คืออะไร? ทำไม พื้นลามิเนต ต้องมีมาตรฐานนี้
AC (Abrasion Class) คือมาตรฐานสากลที่ใช้วัดความทนทานของพื้นลามิเนต โดยพิจารณาจากการสึกหรอ การขูดขีด การทนต่อแรงกระแทก รอยเปื้อน แสงแดด และแม้แต่การทนต่อรอยบุหรี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานยุโรป EN 13329 ที่พัฒนาโดย European Producers of Laminate Flooring (EPLF)
2. ใครเป็นผู้กำหนด AC Rating และมีที่มาจากไหน
AC หรือ Abrasion Class คือมาตรฐานสากลที่ใช้วัดความทนทานของ พื้นลามิเนต โดยถูกกำหนดขึ้นตามมาตรฐานยุโรป EN 13329 และพัฒนาโดย European Producers of Laminate Flooring (EPLF) เพื่อให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตมีเกณฑ์เดียวกันในการประเมินคุณภาพ พื้นลามิเนตที่ได้ค่า AC ผ่านการทดสอบด้านความทนต่อการสึกหรอจากการเดินและเม็ดทราย ความทนต่อแรงกระแทกจากของตก ความสามารถในการต้านคราบเปื้อน การซีดจางจากแสงแดด รวมถึงความทนต่อรอยไหม้เล็ก ๆ จากบุหรี่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงสะท้อนถึงความแข็งแรงและอายุการใช้งานจริงของพื้น การมีมาตรฐาน AC Rating ทำให้เจ้าของบ้านและนักออกแบบเลือก พื้นลามิเนต ได้อย่างมั่นใจ ว่าจะเหมาะสมกับพื้นที่การใช้งานและระดับการใช้งานที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีคนเดินบ่อย ครัวที่เสี่ยงต่อคราบ หรือแม้กระทั่งพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ต้องการความทนทานสูงสุด โดย AC Rating จึงไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นตัวบอกคุณภาพ ความคุ้มค่า และความมั่นใจในระยะยาวของการลงทุนเลือกพื้นลามิเนต
3.วิธีการทดสอบความทนทานของ พื้นลามิเนต
การทดสอบความทนทานของ พื้นลามิเนต เพื่อกำหนด AC Rating ดำเนินการตามมาตรฐานสากล EN 13329 โดยมีหลายการทดสอบย่อยที่ครอบคลุมสถานการณ์ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นลามิเนตสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งในบ้านและเชิงพาณิชย์ รายละเอียดหลัก ๆ ได้แก่:
การทดสอบการสึกหรอ (Abrasion Test / Taber Test)
ใช้เครื่อง Taber Abraser หมุนแผ่นทรายหรือล้อที่มีอนุภาคขัดถูบนพื้นผิวแผ่น พื้นลามิเนต ในรอบที่กำหนด จนกว่าจะเกิดร่องรอยสึกหรอ จากนั้นจึงวัดจำนวนรอบที่พื้นผิวทนได้ก่อนเกิดความเสียหาย เพื่อจัดระดับ AC1–AC5การทดสอบแรงกระแทก (Impact Resistance)
ทำโดยปล่อยลูกโลหะหรือวัตถุที่มีน้ำหนักลงบนพื้นจากความสูงที่กำหนด เพื่อดูว่าพื้นเกิดรอยบุบหรือแตกหักหรือไม่ การทดสอบนี้สำคัญสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อของตกหล่น เช่น ห้องครัวหรือสำนักงานการทดสอบการทนต่อคราบ (Stain Resistance)
ใช้สารเคมีและของใช้ในครัวเรือน เช่น กาแฟ น้ำไวน์ น้ำยาทำความสะอาด หรือดินสอเขียนผ้า หยดลงบนผิวลามิเนต ทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด ก่อนทำความสะอาดเพื่อดูว่าคราบสามารถเช็ดออกได้ง่ายหรือไม่การทดสอบการซีดจาง (Fade Resistance)
ใช้แสง UV หรือแสงจำลองจากหลอดไฟพิเศษส่องบนแผ่นลามิเนตเพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของสี เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ที่ไม่ได้สัมผัสแสงโดยตรง เพื่อทดสอบความทนต่อการซีดจางในระยะยาวการทดสอบรอยไหม้ (Cigarette Burn Resistance)
แม้จะดูโบราณแต่ยังคงถูกใช้ โดยวางบุหรี่ที่จุดไฟบนผิวลามิเนต แล้วตรวจสอบว่าพื้นผิวเกิดรอยไหม้ถาวรหรือไม่
4.AC3, AC4, AC5 ต่างกันอย่างไร และเหมาะกับพื้นที่แบบไหน
4.1 AC3 : Heavy Residential / Light Commercial
AC3 ถือเป็นระดับที่เหมาะกับบ้านพักอาศัยที่มีการใช้งานหนัก เพราะสามารถทนต่อการเดินผ่านบ่อย ๆ และแรงเสียดสีจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ดี ในเชิงพาณิชย์ AC3 เหมาะกับการใช้งานเบา ๆ ที่ไม่ต้องเจอกับปริมาณคนเดินจำนวนมาก
เหมาะสำหรับ:
ห้องนั่งเล่น ห้องครอบครัวที่มีการใช้งานต่อเนื่อง
ห้องครัวที่มีการเดินเข้าออกบ่อยและเสี่ยงต่อคราบ
โถงทางเดินภายในบ้านหรือคอนโด
สำนักงานขนาดเล็ก ห้องทำงาน หรือห้องประชุมที่มีคนใช้งานจำกัด
4.2 AC4 : General Commercial / Very Heavy Residential
AC4 ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งบ้านที่มีการใช้งานหนักมาก และพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั่วไป มีความทนทานต่อการสึกหรอและแรงกระแทกสูงกว่า AC3 อย่างชัดเจน สามารถรับมือกับการเดินสัญจรบ่อย ๆ ของคนจำนวนมากได้ดี
เหมาะสำหรับ:
บ้านเช่าหรือโครงการที่มีการใช้งานต่อเนื่องสูง
ร้านกาแฟ ร้านค้า หรือโชว์รูมที่มีลูกค้าเดินเข้าออกตลอดวัน
โถงทางเดิน คอนโดที่มีการใช้งานรวม
4.3 AC5 : Heavy Commercial
AC5 เป็นมาตรฐานความทนทานสูงสุดในกลุ่มลามิเนต ถูกออกแบบมาให้รับมือกับปริมาณการใช้งานที่หนักหน่วงและต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับทั้งเชิงพาณิชย์ที่มีคนสัญจรจำนวนมาก และบ้านที่ต้องการความแข็งแรงทนทานขั้นสุด
เหมาะสำหรับ:
ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานศึกษา
สำนักงานขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก
ร้านอาหารหรือร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าหนาแน่น
บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ เช่น สุนัขพันธุ์ใหญ่ ที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยขีดข่วน
บ้านที่ต้องการลงทุนครั้งเดียวเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด
การเลือก พื้นลามิเนต ไม่ใช่แค่การมองหาลวดลายสวยงาม แต่คือการลงทุนในความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาว การเข้าใจมาตรฐาน AC Rating จึงช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าพื้นที่เลือกเหมาะสมกับการใช้งานจริง และจะคงความสวยงามไปอีกหลายปี หากคุณกำลังมองหา พื้นลามิเนตคุณภาพระดับโลก แบรนด์ Kronoswiss จากสวิตเซอร์แลนด์คือคำตอบ ด้วยมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด ดีไซน์ที่หลากหลาย และค่ามาตรฐาน AC ที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือโครงการเชิงพาณิชย์ Kronoswiss พร้อมเติมเต็มบ้านของคุณให้ทั้งสวยทันสมัยและมั่นใจในคุณภาพที่ยืนยาว
