ไม้แอช (Ash Wood) คุณสมบัติเด่น ประวัติศาสตร์ยาวนาน และความท้าทายจากโรคและแมลง

ไม้แอช (Ash Wood) คุณสมบัติเด่น ประวัติศาสตร์ยาวนาน และความท้าทายจากโรคและแมลง

Table of Contents

              ไม้แอช (Ash Wood) เคยเป็น ไม้เนื้อแข็ง ที่หาได้ทั่วไปในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูงและหายากขึ้นทุกวัน ปัญหาการแพร่ระบาดของแมลงทำลายต้นแอชและโรคที่คุกคามต้นไม้ทั้งป่า ทำให้ปริมาณซัพพลายลดลงอย่างมาก ขณะเดียวกันความต้องการจากอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ และเครื่องดนตรีก็ยังคงสูงต่อเนื่อง กลายเป็นปัจจัยผลักดันให้ไม้แอชกลายเป็นวัสดุที่ถูกจับตามองในฐานะ “สินค้าพรีเมียม” ที่มีคุณค่ามากกว่าที่เคยเป็นมา

1.ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของไม้แอช 

1.1 ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินใหม่ (Neolithic)

มีหลักฐานว่ามนุษย์ยุคหินใหม่ใช้ ไม้แอช ทำด้ามขวานหิน เครื่องมือเกษตร และอุปกรณ์ต่าง ๆ เนื่องจากไม้ชนิดนี้มีความแข็งแรง คงทน และยืดหยุ่นสูง โครงสร้างเสี้ยนตรงทำให้สามารถตัดแต่งและขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังรองรับแรงกระแทกได้ดี จึงถูกเลือกใช้ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการเกษตรและการทำเครื่องมือพื้นฐาน

1.2 ยุคกรีก–โรมัน

ในยุคกรีกและโรมัน ไม้แอชถูกนำมาใช้ทำเกวียน รถศึก และอาวุธ โดยเฉพาะหอกและลูกธนู ด้วยคุณสมบัติทนทาน ไม่แตกหักง่าย และมีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ยังถูกใช้ในงานก่อสร้างบ้านเรือนและเฟอร์นิเจอร์ขั้นพื้นฐาน ทำให้ไม้แอชเป็นวัสดุสำคัญในชีวิตประจำวันของชุมชนในยุคนั้น

1.3 ยุคกลาง (Medieval Europe)

เมื่อเข้าสู่ยุคกลาง ไม้แอชกลายเป็นไม้เนื้อแข็งหลักที่ถูกใช้ในโครงสร้างบ้าน เช่น คาน พื้น รวมถึงงานที่ต้องการความแข็งแรงอย่างล้อรถเกวียนและบันไดไม้ ความสามารถในการดัดด้วยไอน้ำของไม้แอชทำให้ถูกนำมาใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์และประตูที่ต้องการรูปทรงโค้ง สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความนิยมในงานสถาปัตยกรรมยุโรปสมัยนั้น

1.4 ศตวรรษที่ 18–19

การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้ความต้องการไม้แอชเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในเฟอร์นิเจอร์ รถม้า และอุปกรณ์การเกษตร ในช่วงนี้ไม้แอชยังเป็นไม้หลักที่ใช้ทำบันไดบ้านสไตล์วิกตอเรียและพื้นไม้จริงในยุโรป ด้วยความทนทานและความสวยงามของลายไม้ที่เข้ากับการออกแบบบ้านในสมัยนั้นได้อย่างดี

1.5 ศตวรรษที่ 20

ไม้แอชเข้าสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยถูกใช้ในอุตสาหกรรมกีฬา เช่น ไม้เบสบอล ไม้คริกเก็ต และไม้สกี รวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องดนตรี โดยเฉพาะกีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้ไม้ “Swamp Ash” ซึ่งมีน้ำหนักเบาและให้เสียงกังวาน นอกจากนี้ในงานตกแต่งภายใน ไม้แอชยังได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะลายไม้ชัดเจน ทำสีง่าย และเข้ากับสไตล์การออกแบบร่วมสมัย

1.6 ปัจจุบัน

ในปัจจุบันไม้แอชถูกนำมาใช้กว้างขวางในเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัย เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และเคาน์เตอร์ครัว อีกทั้งยังนิยมใช้ในพื้นไม้สำเร็จรูป (Engineered Flooring) เพราะมีความสมดุลระหว่างความแข็งแรงและโทนสีสว่างที่ดูอบอุ่น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Thermally Modified Ash (TMT Ash) เพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้น ทำให้ไม้แอชถูกนำไปใช้ในงานภายนอก เช่น ระแนง ผนังไม้ และพื้นเอาต์ดอร์ ขณะเดียวกันคุณสมบัติการดัดไอน้ำที่ยอดเยี่ยมยังทำให้ไม้แอชคงบทบาทสำคัญในงานที่ต้องการโครงสร้างโค้งงอ

2.คุณสมบัติทั่วไปของไม้แอช ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง

  • สีออกครีมอ่อนถึงน้ำตาลอมแดง ให้โทนอบอุ่น โปร่ง สว่าง

  • ลายไม้ชัด เส้นตรง สวยงาม เหมาะกับงานโชว์ลาย

  • แข็งแรงและยืดหยุ่น ค่าความแข็ง Janka ราว 1,320–1,480 lbf

  • น้ำหนักปานกลาง ความหนาแน่นเฉลี่ยประมาณ 650–700 กก./ลบ.ม.

  • รับแรงกระแทกได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทาน

  • ทำงานง่าย เลื่อย ไส กลึง เจาะ และติดกาวได้ดี

  • ดัดโค้งด้วยไอน้ำได้เยี่ยม ใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์โค้งงอ

  • ไม่ทนปลวกและความชื้นตามธรรมชาติ ควรใช้ภายใน หรือเลือก TMT Ash สำหรับงานภายนอก

  • ใช้งานหลากหลาย เช่น เฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ ด้ามเครื่องมือ อุปกรณ์กีฬา และเครื่องดนตรี

3.ผลกระทบจากโรคและแมลงต่อ ไม้แอช

3.1 Emerald Ash Borer (EAB)

  • ด้วงเจาะเปลือกไม้ (Agrilus planipennis) ที่มีถิ่นกำเนิดจากเอเชียตะวันออก
  • ถูกค้นพบในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2002 และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วอเมริกาเหนือ
  • ทำให้ต้นแอชหลายร้อยล้านต้นตายในสหรัฐฯ และแคนาดา
  • ส่งผลให้อุปทานไม้แอชในภูมิภาคนี้ลดลงมาก และราคาผันผวน

3.2 Ash Dieback (Hymenoscyphus fraxineus)

  • โรคเชื้อราที่ระบาดในยุโรป โดยเฉพาะ Fraxinus excelsior (European Ash)
  • ทำให้ใบไม้ร่วง กิ่งแห้ง และต้นยืนตาย
  • มีการคาดการณ์ว่าต้นแอชยุโรปกว่า 60–80% อาจได้รับผลกระทบ
  • กระทบต่อการจัดหาวัตถุดิบไม้แอชในยุโรปอย่างหนัก

อ่านบทความ พฤกศาตร์ของไม้แอช เพิ่มเติมได้ที่นี่

4.ปัญหาและผลกระทบต่ออุปทาน

ปัจจุบันอุปทานของไม้แอชกำลังเผชิญปัญหาความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและยุโรปที่ปริมาณไม้แอชคุณภาพสูงลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้จำนวนมากจำเป็นต้องมองหาทางเลือกอื่น เช่น การใช้ไม้แอชที่ผ่านการอบดัดแปร (Thermally Modified Ash – TMT) เพื่อเพิ่มความทนทาน หรือหันไปใช้ไม้ทดแทนอย่างโอ๊คและเมเปิลแทน สถานการณ์นี้ยังส่งผลต่อราคาและต้นทุนการผลิต เนื่องจากความหายากของไม้แอชทำให้ราคาตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง งานที่ต้องการไม้แอชแท้ เช่น กีตาร์ เครื่องดนตรี หรืออุปกรณ์กีฬา หลายแห่งจึงเริ่มปรับไปใช้ไม้ชนิดอื่นที่ใกล้เคียงแทน

นอกจากนี้ การตายของต้นแอชจำนวนมากยังสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทั้งในป่าไม้และพื้นที่เมืองที่สูญเสียร่มเงาและความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง อย่างไรก็ตามยังมีความพยายามในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยด้านพันธุกรรมเพื่อหาสายพันธุ์แอชที่ทนต่อโรค การควบคุมการแพร่ระบาดของแมลง Emerald Ash Borer ผ่านมาตรการกักกันหรือการปล่อยตัวห้ำ–ตัวเบียน รวมถึงการส่งเสริมการใช้ไม้ทดแทนและการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนเพื่อรักษาความสมดุลระยะยาวในอุตสาหกรรมไม้แอช

 

 

 

 

            แม้ไม้แอชกำลังเผชิญกับปัญหาซัพพลายและราคาที่สูงขึ้น แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าและความโดดเด่นของไม้ชนิดนี้ที่ยังคงได้รับความนิยมทั่วโลก หากคุณกำลังมองหาไม้แอชแท้คุณภาพดีเพื่อใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ หรือโปรเจกต์ตกแต่งต่าง ๆ วิวัฒน์ชัยค้าไม้ พร้อมคัดสรรไม้แอชเกรดพรีเมียมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยคุณเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณ

ติดต่อเราได้ทันที เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ สินค้าไม้แอช คุณภาพสูงก่อนที่อุปทานในตลาดจะหายากและราคาพุ่งไปมากกว่านี้

 

 

 

ref : https://www.civilenvironjournal.com

        wood-database.com

    

Google Map
Line
Line
Google Map