Home » พื้นสำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ » คู่มือเลือกพื้นสำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ 2025 วิธีเลือกให้ทน ใช้นาน และเหมาะกับธุรกิจของคุณ
การเลือกพื้นสำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ไม่ใช่เรื่องของ “ความสวย” เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการตัดสินใจที่ส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้า ความปลอดภัยของพนักงาน และอายุการใช้งานของร้านโดยตรง พื้นต้องรองรับการใช้งานหนัก เดินทั้งวัน ไม่ลื่นแม้มีของหก และต้องดูแลรักษาง่ายเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว หลายธุรกิจพลาดตรงการเลือกวัสดุที่ดูดีแต่ไม่ทน ทำให้ต้องเปลี่ยนพื้นบ่อยจนเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยไม่จำเป็น บทความนี้จึงรวบรวมวิธีเลือกพื้นให้เหมาะกับประเภทธุรกิจ ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านแฟชั่น โรงแรม ไปจนถึงคลินิก พร้อมแนะนำคุณสมบัติของพื้นที่ตอบโจทย์งานเชิงพาณิชย์ในปี 2025 เพื่อให้คุณวางแผนรีโนเวทหรือเปิดร้านใหม่ได้อย่างมั่นใจที่สุด
1.แนวโน้มปี 2025: เลือกพื้นอย่างไรให้ตอบโจทย์ธุรกิจรุ่นใหม่
แนวโน้มปี 2025 ในการเลือกพื้นสำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ เน้นไปที่ความปลอดภัย ความเร็วในการติดตั้ง และประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหลัก เจ้าของธุรกิจยุคใหม่มองหาพื้นที่มีน้ำหนักเบาเพื่อลดภาระโครงสร้างและช่วยให้ทำงานรวดเร็วขึ้น รวมถึงวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น พื้นที่มีค่าการปล่อยสาร VOC ต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ปิดหรือร้านที่ต้องใช้งานต่อเนื่องตลอดวัน ระบบคลิกล็อกกลายเป็นมาตรฐานใหม่ เพราะช่วยลดเวลาปิดร้านและทำให้พื้นเชื่อมตัวแน่นไม่ยกตัวในระยะยาว ขณะเดียวกัน ร้านอาหารจำเป็นต้องเลือกพื้นทนชื้น–ทนน้ำ เพื่อรับมือกับของหกบ่อยครั้งโดยไม่กังวลเรื่องพื้นบวม ส่วนร้านแฟชั่นและโรงแรมให้ความสำคัญกับพื้นเดินนุ่ม ลดเสียงสะท้อน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและเสริมภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของแบรนด์
2.การเลือก พื้นไม้สำหรับงานเชิงพาณิชย์
ประเมิน Traffic ของพื้นที่
ดูจำนวนคนเดินเข้า–ออกต่อวัน เพื่อเลือกพื้นให้เหมาะกับระดับการใช้งานหนัก เช่น ร้านอาหาร–คาเฟ่จะต้องทนมากเป็นพิเศษตรวจสภาพหน้างานจริง
เช็กความชื้น พื้นทรุด หรือระดับที่ไม่เท่ากัน เพราะมีผลต่อการปูพื้นใหม่และอายุการใช้งานในระยะยาวเลือกค่ากันลื่น (R9–R10)
พื้นเชิงพาณิชย์ต้องปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีโอกาสเปียกน้ำ เช่น โซนบาร์ ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ดูระดับความทนรอยและแรงกระแทก
พื้นต้องทนต่อขาโต๊ะเหล็ก การลากเก้าอี้ และรองเท้าส้นสูง เพื่อให้พื้นดูใหม่ได้นานโดยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยพิจารณาค่าปล่อยสาร VOC
เลือกพื้น Low VOC สำหรับอาคารปิดหรือร้านที่เปิดแอร์ทั้งวัน ลดกลิ่น ลดสารระเหย และดีต่อสุขภาพลูกค้า–พนักงานคำนวณรอบการรีโนเวทของธุรกิจ
เจ้าของร้านควรรู้ว่าต้องการให้พื้นอยู่ได้กี่ปี เพื่อเลือกวัสดุที่คุ้มค่าที่สุด เช่น 5 ปี, 7 ปี หรือ 10 ปีขึ้นไปเลือกระบบคลิกล็อกติดตั้งเร็ว
ลดเวลาปิดร้านและช่วยให้พื้นเชื่อมตัวแน่น ไม่ยก ไม่แยกช่องในระยะยาวตรวจสอบมาตรฐานรับรอง (Certificates) เพื่อความปลอดภัย
เลือกพื้นไม้ที่มีมาตรฐานรับรองชัดเจน เช่น E1 / Low VOC เพื่อยืนยันว่าปลอดภัยจากสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นเหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิชย์จริง และไม่เสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยในระยะยาว
3.แนะนำประเภทพื้นให้เหมาะกับประเภทธุรกิจ
3.1 ร้านอาหาร / คาเฟ่
พื้นในร้านอาหารและคาเฟ่ต้องทนต่อของหกบ่อย เช่น น้ำ กาแฟ หรือเศษอาหาร พื้นที่ กันน้ำ 100% จึงจำเป็นเพื่อลดความเสียหายจากความชื้น นอกจากนี้ควรมี ผิวหน้าที่ไม่ลื่นแม้เปียกน้ำ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน ช่วยลดโอกาสล้มในพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านตลอดวัน *อ่านบทความ Café และร้านอาหาร เลือกแบบไหนดี? พื้นไม้สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ ได้ที่นี่
3.2 Retail / ร้านแฟชั่น
ร้านเสื้อผ้าและร้านแฟชั่นต้องการบรรยากาศที่เงียบ สงบ และดูพรีเมียม พื้นที่ เดินเบาและลดเสียงกระทบ ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสบายเวลาเดินสำรวจสินค้า และไม่รบกวนประสบการณ์การช็อปปิ้ง นอกจากนี้พื้นควรมีผิวสัมผัสสวย ดูแพง และไม่เกิดรอยง่าย เพื่อคงภาพลักษณ์แบรนด์
3.3 โรงแรม
โรงแรมมีลูกค้าลากกระเป๋าล้อเลื่อนเข้า–ออกทั้งวัน พื้นจึงต้อง ดูดี แข็งแรง และทนรอยขีดข่วนสูง พร้อมให้ความรู้สึกเงียบสบายเมื่อเดินบนพื้น อีกจุดคือพื้นควรมีความเสถียร ไม่โก่งหรือยกตัวจากการใช้งานหนัก เพื่อคงภาพลักษณ์มืออาชีพของโรงแรมทุกโซน *อ่านบทความ โรงแรม–ร้านแฟชั่น เลือกอย่างไรให้ดี เหมาะกับ พื้นไม้สำหรับเชิงพาณิชย์ ได้ที่นี่
3.4 คลินิก / สปา
สถานที่ลักษณะนี้ต้องการบรรยากาศที่ “สะอาด ปลอดภัย และไม่มีกลิ่นรบกวน” พื้นที่มีค่า Low VOC จึงสำคัญมาก เพราะช่วยลดสารระเหยทางอากาศและไม่กระทบสุขภาพของผู้มาใช้บริการ หรือพนักงานที่อยู่ในพื้นที่เป็นเวลานาน อีกทั้งพื้นควรทนความชื้นและทำความสะอาดง่าย
4.การดูแลรักษาพื้นใน พื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้ใช้งานได้ยาวนาน
ติดแผ่นรองขาโต๊ะขาเก้าอี้
ดูดฝุ่นและเช็ดพื้นสม่ำเสมอ
หลีกเลี่ยงน้ำขังหรือคราบของเหลว
เลือกน้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม
ตรวจพื้นเป็นประจำ
*อ่านบทความ การดูแลรักษา พื้นไม้สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้ใช้งานได้ยาวนาน ได้ที่นี่
5.ข้อควรระวังในการเลือกพื้นสำหรับ พื้นที่เชิงพาณิชย์
5.1 ตรวจหน้างานให้ละเอียด
พื้นทรุด แตก ร่อน หรือมีความชื้นสูง อาจทำให้พื้นใหม่เสียเร็ว
5.2 เลือกพื้นให้เหมาะกับอายุการใช้งานที่ต้องการ
ร้านที่รีโนเวทถี่ควรเลือกพื้นติดตั้งง่าย ทนรอย และคุ้มค่าต่อปี
5.3 ประเมินความชื้นเป็นพิเศษ
โซนล้างแก้วหรือพื้นที่มีของหกบ่อย ต้องใช้พื้นกันน้ำ ไม่บวม
5.4 คำนึงถึงน้ำหนักวัสดุ
พื้นน้ำหนักมากอาจเพิ่มภาระต่อโครงสร้าง โดยเฉพาะอาคารเก่า
5.5 ดูระบบป้องกันเสียงและแรงกระแทก
ช่วยลดปัญหาเสียงดังและเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่เดินเยอะ
*อ่านบทความ ข้อควรระวังในการเลือกพื้น ที่มักถูกมองข้ามสำหรับ พื้นไม้เชิงพาณิชย์ ได้ที่นี่
6.แนะนำพื้นไม้ที่เหมาะสม สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์
พื้นไวนิล Allure คือคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ต้องการทั้งความทนทาน ความปลอดภัย และความสวยงามในระยะยาว
- ด้วยโครงสร้างแบบ ISOCORE ทำให้พื้นมีความแข็งแรงสูง รองรับแรงกดและแรงกระแทกได้ดี
- ไม่เป็นรอยง่ายจากการลากเก้าอี้ ขาโต๊ะเหล็ก หรือรองเท้าส้นสูง
- ผสานกับคุณสมบัติ “กันน้ำ 100%” ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่ที่มีของหกบ่อยโดยไม่เสี่ยงพื้นบวม หรือเกิดเชื้อรา
- ผิวหน้ามีค่ากันลื่นระดับ R9 ช่วยลดโอกาสลื่นล้มในพื้นที่ที่มีคนเดินจำนวนมาก
- ขณะที่ชั้น IXPE และโครงสร้างน้ำหนักเบาช่วยลดเสียงฝีเท้าและทำให้การเดินรู้สึกนุ่มสบาย เหมาะกับร้านแฟชั่น โชว์รูม และโรงแรมที่ต้องการประสบการณ์ลูกค้าแบบพรีเมียม
- นอกจากนี้ Allure ยังผ่านมาตรฐาน Low VOC และ E1 ทำให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ เหมาะกับคลินิกหรือสปาที่ต้องการอากาศสะอาดไร้กลิ่นกาว
- ปิดท้ายด้วยระบบคลิกล็อกที่ติดตั้งได้รวดเร็ว ลดเวลาปิดร้าน และช่วยให้งานรีโนเวทเป็นไปอย่างราบรื่น พื้นไวนิล Allure จึงเป็นตัวเลือกที่ครบทั้งคุณภาพ ความคุ้มค่า และความสวยงามสำหรับธุรกิจยุคใหม่
ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ต้องเผชิญกับความชื้น ของหก รอยขีดข่วน และการเดินผ่านจำนวนมากทุกวัน การเลือกพื้นให้ถูกตั้งแต่ครั้งแรกคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด พื้นที่ดีไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุง แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน พื้นไวนิล Allure นำเสนอคุณสมบัติที่เหมาะสมกับทุกรูปแบบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นความทนทานระดับ Commercial, การกันน้ำ 100%, ค่ากันลื่น R9, ระบบคลิกล็อกติดตั้งเร็ว หรือมาตรฐาน Low VOC ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ หากคุณกำลังวางแผนรีโนเวทร้านหรือเปิดสาขาใหม่ นี่คือเวลาที่เหมาะที่สุดในการเลือกพื้นให้รองรับงานหนัก ใช้งานยาว และพร้อมเติบโตไปกับธุรกิจของคุณในระยะยาว
