Home » Wood Flooring » Engineered Wood Flooring » 5 ข้อผิดพลาดที่มักเกิดกับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และวิธีหลีกเลี่ยงแบบมืออาชีพ
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นหนึ่งในวัสดุปูพื้นที่เจ้าของบ้านยุคใหม่เลือกใช้มากที่สุด เพราะให้ความสวยงามเหมือนไม้จริง แต่มีความแข็งแรงและดูแลง่ายกว่า แต่ “ความทน” จะอยู่กับบ้านได้นานหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุเพียงอย่างเดียว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีก็สำคัญไม่แพ้กัน
วันนี้ทีมช่างมืออาชีพจาก VK Floor จะมาแชร์เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้สวย เงางาม และอยู่กับบ้านได้นานกว่า 20 ปี
1.ทำไม พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ถึงต้องติดตั้งและดูแลอย่างถูกวิธี
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring) ถือเป็นวัสดุปูพื้นที่ผสานระหว่าง “ความงามของไม้จริง” กับ “ความเสถียรทางโครงสร้าง” ได้อย่างลงตัว เพราะตัวแผ่นถูกออกแบบให้มีหลายชั้น (Multi-Layer Structure) ที่ช่วยลดการขยาย-หดตัวเมื่อเจอความชื้นหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง จึงสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าพื้นไม้จริงทั่วไป
แต่ถึงแม้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและดูแลง่าย หากขั้นตอนการติดตั้งหรือการดูแลไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น
พื้นบวม / โก่งงอ จากการปูบนพื้นชื้นหรือไม่ได้ปรับระดับพื้นให้เรียบ
เสียงยวบหรือมีช่องว่าง จากการไม่เว้นรอยขยายตัวของไม้
ผิวไม้ซีดหรือหลุดล่อน จากการใช้น้ำหรือสารเคมีแรงในการทำความสะอาด
ดังนั้น สิ่งสำคัญของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ไม่ใช่แค่ “เลือกวัสดุที่ดี” แต่ต้อง “ติดตั้งอย่างถูกวิธี” และ “ดูแลอย่างสม่ำเสมอ” ด้วย เพื่อให้พื้นไม้ยังคงสวย แข็งแรง และอยู่กับบ้านได้นานกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมช่าง VK Floor ยึดถือในทุกขั้นตอนการติดตั้งและบริการหลังการขายเสมอ
ข้อผิดพลาดที่ 1 ไม่ตรวจวัดความชื้นก่อนติดตั้ง
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ บวม ยกตัว หรือหลุดร่อนหลังติดตั้ง คือ “ความชื้นสะสมในพื้นเดิม” โดยเฉพาะหากเป็นพื้นปูนหรือพื้นกระเบื้องที่เพิ่งเทพื้นใหม่ การเร่งปูโดยไม่ตรวจเช็กค่าความชื้นอาจทำให้ความชื้นใต้พื้นระเหยไม่ทัน ส่งผลให้ไม้ดูดน้ำและขยายตัว
โดยมาตรฐานทั่วไป ค่าความชื้นของพื้นไม่ควรเกิน 12% ก่อนติดตั้ง ทีมช่างมืออาชีพจึงมักใช้ เครื่องวัดความชื้น (Moisture Meter) ตรวจค่าก่อนปูทุกครั้ง และหากพบว่าพื้นยังไม่แห้งสนิท ควรอบพื้นให้แห้งหรือเปิดให้อากาศถ่ายเทอย่างน้อย 7–14 วัน เพื่อให้พื้นเอ็นจิเนียร์ยึดติดได้แน่นและไม่เสียรูปในภายหลัง
ข้อผิดพลาดที่ 2 ปูพื้นบนพื้นเดิมที่ไม่เรียบหรือแตกร้าว
พื้นเดิมที่มีความต่างระดับหรือแตกร้าวอาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่เมื่อปู พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ทับไปแล้ว จะเกิดผลระยะยาว เช่น เดินแล้ว “ยวบ” หรือแผ่นไม้ “แอ่นตัว” จากการรับแรงไม่เท่ากัน บางกรณีอาจทำให้รอยต่อของระบบคลิกล็อก (Click Lock) แยกออกจากกันจนเห็นร่องชัด
ก่อนติดตั้ง ควรตรวจสอบความเรียบของพื้นด้วยระดับน้ำ (Level Gauge) และหากพบว่ามีส่วนต่างระดับมากกว่า 3 มม. ในระยะ 1 เมตร ควรใช้ ปูนปรับระดับ (Self-Leveling) เพื่อให้พื้นเรียบสนิทก่อนปูเสมอ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทีมช่าง VK Floor ให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน
ข้อผิดพลาดที่ 3 ใช้วิธีติดตั้งผิดระบบ (กาว vs คลิกล็อก)
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ มีทั้งแบบ ระบบกาว (Glue Down) และ ระบบคลิกล็อก (Click System) ซึ่งแต่ละแบบเหมาะกับพื้นที่และวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน เช่น
Glue Down: เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่หรือโครงการที่ต้องการความแน่นหนา ช่วยลดเสียงกระทบ
Click System: เหมาะกับงานรีโนเวทหรือบ้านพักอาศัย เพราะติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้กาว และสามารถรื้อเปลี่ยนเฉพาะจุดได้
ปัญหาที่พบบ่อยคือการใช้ “กาวผิดชนิด” เช่น ใช้กาวที่มีสารเคมีแรงจนกัดพื้นไม้ หรือปูคลิกล็อกบนพื้นไม่เรียบจนแผ่นไม้แยกตัวได้ การเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมและปฏิบัติตามคู่มือผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด จึงเป็นสิ่งจำเป็นหากต้องการอายุการใช้งานยาวนานกว่า 20 ปี
ข้อผิดพลาดที่ 4 ใช้น้ำมากเกินไปในการทำความสะอาด
แม้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะมีชั้นเคลือบป้องกันความชื้น แต่ “น้ำจำนวนมาก” ก็ยังคงเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะเมื่อซึมตามรอยต่อหรือขอบไม้ จะทำให้พื้นบวม ผิวไม้ดันตัว และเกิดรอยปูดในที่สุด
วิธีที่ถูกต้องคือควรใช้ ผ้าไมโครไฟเบอร์หมาด ๆ เช็ดพื้นแทนการถูด้วยน้ำเปล่าจำนวนมาก และเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่มี ค่า pH เป็นกลาง (Neutral Cleaner) เพื่อไม่ให้เคลือบผิวไม้เสียหาย การดูแลแบบนี้ช่วยยืดอายุพื้นและคงความเงางามได้ยาวนาน
ข้อผิดพลาดที่ 5 ไม่ป้องกันรอยจากการใช้งานประจำวัน
รอยขีดข่วนเล็ก ๆ จากรองเท้าส้นแข็ง หรือการลากโต๊ะเก้าอี้โดยไม่รองขา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกวันและสะสมจนผิวไม้เสียความสวยงาม หากปล่อยไว้นานอาจต้องขัดเคลือบพื้นใหม่ ซึ่งสิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณโดยไม่จำเป็น
ทีมช่าง VK Floor แนะนำให้ใช้
แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Pad) ในจุดที่เคลื่อนบ่อย
พรมกันรอยใต้โต๊ะหรือชามอาหารสัตว์ เพื่อป้องกันคราบน้ำ
และ บำรุงผิวไม้ด้วยน้ำยา UV Coating ปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อให้พื้นมีฟิล์มป้องกันรอยเพิ่มขึ้น
เพียงดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันแรก พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ของคุณก็จะคงความสวยและทนทานเหมือนใหม่ได้ยาวนาน
เคล็ดลับจากช่าง VK Floor วิธีดูแลให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์อยู่กับบ้านได้นานกว่า 20 ปี
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวของบ้านที่ต้องการความสวยงามแบบไม้จริง แต่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการดูแล หากดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันแรก พื้นไม้เอ็นจิเนียร์สามารถอยู่กับบ้านได้นานกว่า 20 ปีโดยยังคงความเงางามและแข็งแรง ทีมช่าง VK Floor แนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้
ตรวจพื้นทุก 6 เดือน:
การตรวจเช็กพื้นเป็นระยะช่วยให้คุณเห็นสัญญาณความเสียหายตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น รอยบวมจากความชื้น หรือรอยแยกตามขอบไม้ ซึ่งสามารถซ่อมเฉพาะจุดได้ก่อนลุกลาม ลดค่าใช้จ่ายระยะยาวควบคุมความชื้นห้องให้เหมาะสม:
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์แม้จะทนความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง แต่ควรรักษาความชื้นในห้องให้อยู่ในระดับ 45–60% เพื่อป้องกันการขยายหรือหดตัวของเนื้อไม้ โดยเฉพาะในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำซ่อมแซมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น:
หากพบรอยเสียหายหรือเสียงยวบ ควรให้ทีมช่างมืออาชีพจาก VK Floor ตรวจสอบและซ่อมเฉพาะจุด ไม่ควรพยายามแก้ไขเอง เพราะอาจทำให้รอยต่อระบบ Click Lock เสียหายได้ถาวร *อ่านบทความ วิธีดูแลพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้สวยเหมือนใหม่ทุกวัน เคล็ดลับจากทีมช่าง VK Floor ได้ที่นี่
สินค้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ไม่เพียงเป็นวัสดุที่สะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้าน แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของบรรยากาศและความรู้สึกภายในบ้าน การดูแลอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นการ “รักษาคุณค่า” ของทั้งวัสดุและความรู้สึกในทุกก้าวที่เดิน
หากคุณต้องการพื้นไม้เอ็นจิเนียร์คุณภาพสูง พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทุกขั้นตอนการติดตั้งและดูแล VK Floor พร้อมให้คำปรึกษาและบริการครบวงจร เพื่อให้พื้นของคุณสวย ทน และอบอุ่นไปอีกหลายสิบปี


