พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ กับสิ่งแวดล้อม: ทางเลือกวัสดุรักษ์โลกที่ตอบโจทย์ยุคใหม่

Table of Contents

                ในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับคำว่า “Sustainability” หรือความยั่งยืนมากกว่าที่เคย การเลือกวัสดุในการตกแต่งบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความสวยงามหรือราคาอีกต่อไป แต่ยังต้อง “ดีต่อสิ่งแวดล้อม” และ “ปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย” ด้วย หนึ่งในวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์แนวคิดนี้ได้อย่างลงตัวคือ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จาก VK Floor โดยเฉพาะแบรนด์นำเข้าอย่าง Imondi ที่ผสานความหรูหราเข้ากับแนวคิดรักษ์โลกในทุกขั้นตอน ตั้งแต่แหล่งที่มาของไม้ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการใช้งานจริงในบ้าน  สะท้อนให้เห็นว่า ความสวยงามกับความยั่งยืน สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

1.ทำไมเรื่องสิ่งแวดล้อมถึงสำคัญในยุค 2025

ในปี 2025 “สิ่งแวดล้อม” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของนโยบายภาครัฐอีกต่อไป แต่กลายเป็น ปัจจัยหลักในการตัดสินใจของผู้บริโภคและนักออกแบบบ้านทั่วโลก เทรนด์อย่าง Sustainable Material, Green Building และ ESG (Environmental, Social, Governance) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการ ตั้งแต่งานก่อสร้าง ไปจนถึงการตกแต่งภายใน

การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติ ลดการปล่อยคาร์บอน (Carbon Neutral) หรือผลิตจากแหล่งทรัพยากรที่จัดการอย่างยั่งยืน จึงไม่ใช่แค่ “เทรนด์รักษ์โลก” แต่เป็น ความรับผิดชอบร่วมกันของคนยุคใหม่ ที่ต้องการสร้างบ้านและสังคมที่ดีขึ้นให้คนรุ่นต่อไป และหนึ่งในวัสดุที่ตอบโจทย์แนวคิดนี้ได้ดีที่สุด ก็คือ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ วัสดุปูพื้นที่ผสมผสานความสวยของไม้จริงกับเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

2.พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ คือวัสดุรักษ์โลกอย่างไร

  • ใช้ไม้จริงเพียงบางส่วน ลดการตัดไม้ใหญ่และการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ
    พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีชั้นบนสุดเป็นไม้จริงเพียงบางส่วน (Veneer) ส่วนชั้นล่างผลิตจากไม้อัดหรือไม้ปลูกทดแทน เช่น ไม้เบิร์ช หรือไม้สน ทำให้ใช้เนื้อไม้จริงน้อยลงกว่าพื้นไม้แท้ถึงหลายเท่า ช่วยลดการตัดไม้ใหญ่จากป่าธรรมชาติ และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

  • โครงสร้าง Multi-layer เพิ่มความแข็งแรงและใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า
    ด้วยการออกแบบแบบหลายชั้น (Multi-layer Structure) ที่ประกอบกันอย่างสมดุล ทำให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความมั่นคง ไม่โก่งงอหรือหดตัวเมื่อเจอความชื้นหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง จึงใช้วัสดุทุกส่วนอย่างคุ้มค่าและลดของเสียจากการผลิตได้มากกว่าพื้นไม้แบบดั้งเดิม

  • มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 20 ปี ช่วยลดของเสียจากการเปลี่ยนพื้นบ่อย
    ความแข็งแรงและความเสถียรของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องเปลี่ยนพื้นบ่อย ซึ่งหมายถึงการลดปริมาณขยะจากวัสดุก่อสร้างในระยะยาว ทั้งยังสามารถขัดและเคลือบผิวใหม่ได้เมื่อถึงเวลา ทำให้พื้นดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ และเป็นทางเลือกที่ทั้ง “ประหยัด” และ “รักษ์โลก” ไปพร้อมกัน

3.มาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่รับรองคุณภาพ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์

  • FSC (Forest Stewardship Council): การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน
    มาตรฐาน FSC เป็นการรับรองว่าไม้ที่นำมาใช้ในการผลิตพื้นไม้เอ็นจิเนียร์มาจาก ป่าที่ได้รับการจัดการอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศหรือชุมชนท้องถิ่น การเลือกใช้พื้นไม้ที่มีตราสัญลักษณ์ FSC จึงเป็นการสนับสนุนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีจิตสำนึก และช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าโดยตรง

  • E1 / CARB / FloorScore: รับรองการปล่อยสารระเหย (VOCs) ต่ำ ปลอดภัยต่อสุขภาพ
    มาตรฐาน E1 (ยุโรป), CARB (สหรัฐอเมริกา) และ FloorScore (ระดับสากล) เป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์มีระดับการปล่อย สารระเหยอินทรีย์ (VOCs) อยู่ในเกณฑ์ต่ำมากหรือแทบไม่มีเลย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพอากาศภายในบ้าน พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผ่านมาตรฐานเหล่านี้จะ ปลอดสารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde-Free) ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นสารเคมี และปลอดภัยต่อเด็ก ผู้สูงอายุ รวมถึงสัตว์เลี้ยงในบ้านอีกด้วย

4.พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จาก VK Floor กับแนวทางความยั่งยืน

ที่ VK Floor เราให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุปูพื้นที่ทั้ง สวยงาม มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยคัดสรรเฉพาะแบรนด์ที่มีมาตรฐานระดับสากล เช่น Imondi พื้นไม้เอ็นจิเนียร์นำเข้าจากยุโรปที่โดดเด่นเรื่องความยั่งยืนในทุกขั้นตอนการผลิต

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ Imondi ผลิตจากไม้ที่มาจากแหล่งป่าปลูกอย่างถูกต้องตามหลัก FSC® และใช้กระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมเคลือบพื้นด้วยสารปลอดฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde-Free) จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัยและดีต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังผ่านการรับรอง มาตรฐาน FloorScore® ซึ่งเป็นการยืนยันว่าอากาศภายในอาคารปลอดภัยจากสารระเหย (Low VOCs)

ด้วยแนวคิด “Design for Longevity” ของ VK Floor เรามุ่งเน้นให้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ Imondi ไม่เพียงแต่มีความสวยงามตามธรรมชาติของไม้แท้ แต่ยังมีอายุการใช้งานยาวนาน คงทน และซ่อมบำรุงได้ ช่วยลดของเสียในระยะยาว เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับบ้านหรือโครงการที่ต้องการวัสดุ รักษ์โลก คุณภาพสูง และสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านยุคใหม่

Google Map
Line
Line
Google Map