
HMRเซาะร่อง
ไม้ตกแต่งผนังไม้HMR
จำหน่าย HMR เซาะร่อง, ไม้ตกแต่งผนัง HMR และ ระแนงไม้ HMR ผลิตจากไม้กันชื้นคุณภาพสูง แข็งแรง พื้นผิวเรียบสวย ทำสีหรือปิดผิวได้หลากหลาย เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายในและบิวท์อิน เพิ่มความสวยงามและมิติให้ผนังและเฟอร์นิเจอร์ของคุณ
สินค้า HMRเซาะร่อง ไม้ตกแต่งผนัง HMR และระแนงไม้ HMR หนา 9-25มิล
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 010
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 009
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 008
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 007
SOLD OUT แผ่นไม้HMR เซาะร่องรุ่น 006
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 005
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 004
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 003
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 002
SOLD OUT แผ่นไม้HMR รุ่นเซาะร่อง 001
ทำไมต้อง
"HMRเซาะร่อง"
วิวัฒน์ชัย ค้าไม้
- HMR เซาะร่อง
HMR เซาะร่องแนวนอน
HMR เซาะร่องแนวตั้ง
HMR เซาะร่องสำหรับระแนง
- HMR เซาะร่องตามแบบลูกค้า
ตรง สวย เกรด A
HMRเซาะร่อง ของเรามีหลายเกรด หลายราคา เป็นไม้สวย ตรง เอาไปใช้ได้หลากหลาย
ไม้แข็งแรง
ไม้HMRเซาะร่อง แข็งแรง ผิวเรียบเนียน ติดตั้งง่าย พ้นสีง่าย
ไม้ราคาโรงงาน
ไม้HMRเซาะร่อง ราคาโรงงานจากบางโพ ย่านค้าไม้ชื่อดังประเทศไทย
1. HMRเซาะร่อง คืออะไร
HMR เซาะร่อง คือแผ่นไม้สังเคราะห์ชนิด MDF (Medium Density Fiberboard) ที่ผ่านการพัฒนาให้มีคุณสมบัติกันความชื้นสูง หรือที่เรียกว่า High Moisture Resistant HMR วัตถุดิบหลักคือเส้นใยไม้คุณภาพสูงที่ผ่านการบดละเอียด ผสมกับสารกันชื้นและกาวชนิดพิเศษ แล้วอัดด้วยแรงดันและความร้อนสูงจนได้แผ่นที่มีความหนาแน่นสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น จากนั้นจึงนำมาเซาะร่องเพื่อสร้างลวดลายหรือลักษณะผิวที่สวยงามเหมาะกับงานตกแต่ง การเซาะร่องนี้สามารถออกแบบได้หลากหลาย เช่น ร่องตรง ร่องเว้า หรือร่องลายพิเศษ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์ของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นงานผนังตกแต่ง ระแนง หรือเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ข้อดีอีกอย่างคือสามารถทำสีหรือปิดผิวเพิ่มได้ ทำให้ HMR เซาะร่องเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องฟังก์ชันและความสวยงาม
2. ลักษณะของ HMRเซาะร่อง
HMR เซาะร่องมีพื้นผิวเรียบเนียน เสี้ยนละเอียด ทำให้ได้ร่องตกแต่งที่คมชัดและสวยงาม เนื้อแผ่นมีความหนาแน่นสูงและสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น ทำให้ทนต่อแรงกดและการบิดงอได้ดี จุดเด่นคือคุณสมบัติกันความชื้นที่เหนือกว่า MDF ธรรมดา จึงลดปัญหาบวมและเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูง เช่น ผนังในครัว พื้นที่ใกล้หน้าต่าง หรือบริเวณโถงทางเข้า ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่ที่โดนน้ำโดยตรง เช่น ฝักบัวหรือผนังห้องน้ำที่เปียกตลอดเวลา เนื่องจากแม้จะกันชื้น แต่ไม่ได้กันน้ำ 100% แผ่น HMR เซาะร่องยังสามารถทำสีได้ดี ทั้งการพ่นสีอะคริลิก สีโพลียูรีเทน หรือการปิดผิวด้วยลามิเนตและวีเนียร์ เพื่อให้เหมาะกับโทนสีและสไตล์การตกแต่งของแต่ละโครงการ
3. HMRเซาะร่อง นิยมเอาไปใช้ทำอะไร
HMR เซาะร่องเป็นวัสดุเอนกประสงค์ที่สามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในงานตกแต่งและงานฟังก์ชัน เช่น
ผนังตกแต่งภายใน – ใช้สร้างลวดลายและมิติให้ผนัง เช่น ร่องขนาน ร่องแนวตั้ง ร่องลายโมเดิร์น เหมาะกับทั้งบ้านพักอาศัยและโครงการเชิงพาณิชย์
ระแนงตกแต่ง – ทำเป็นระแนงแนวตั้งหรือแนวนอน เพิ่มความโปร่งและความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ เช่น ฉากกั้นโซนรับแขกกับโซนรับประทานอาหาร
งานบิวท์อิน – เช่น ตู้โชว์ ชั้นวางของ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการลูกเล่นเส้นร่องตกแต่งให้ดูมีดีไซน์
โครงการตกแต่งร้านค้าและสำนักงาน – ใช้ในงานตกแต่งผนังร้าน คาเฟ่ โชว์รูม หรือออฟฟิศที่ต้องการความสวยงามและคงทน
4. ข้อดีของ HMRเซาะร่อง
กันความชื้นได้ดีกว่า MDF ทั่วไป – ลดความเสี่ยงการบวมและเสื่อมสภาพในพื้นที่ชื้น
พื้นผิวเรียบและร่องตกแต่งคมชัด – ได้งานที่ดูสวยงามและมีคุณภาพสูง
ดัดแปลงง่าย – สามารถตัด เจาะ และทำร่องเพิ่มได้ตามแบบ
ทำสีและปิดผิวได้หลากหลาย – รองรับการตกแต่งหลายสไตล์ ทั้งโมเดิร์น คลาสสิก และมินิมอล
อายุการใช้งานยาวนาน – เมื่อใช้งานและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
5. HMRเซาะร่อง ที่ วิวัฒน์ชัยค้าไม้ มีกี่ขนาด และดีอย่างไร
ที่ วิวัฒน์ชัยค้าไม้ เราจำหน่าย HMR เซาะร่องหลากหลายขนาดและความหนา เพื่อตอบโจทย์ทั้งงานตกแต่งภายในบ้าน งานบิวท์อิน และโครงการเชิงพาณิชย์ มีให้เลือกตั้งแต่ความหนา 9 มม. ไปจนถึง 18 มม. ขนาดแผ่นมาตรฐาน 1220 x 2440 มม. และสามารถสั่งตัดตามขนาดหรือลายร่องที่ต้องการได้ตามแบบ แผ่นทุกชิ้นผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ควบคุมความชื้นและความหนาแน่นให้สม่ำเสมอ ทำให้ได้งานที่แข็งแรง ทนทาน และติดตั้งง่าย พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ
6. ราคา HMRเซาะร่อง
ราคาของ HMR เซาะร่อง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความหนาของแผ่น ขนาด ลวดลายร่อง และการสั่งทำพิเศษ โดยทั่วไปแล้ว HMR เซาะร่องจะมีราคาสูงกว่า MDF ธรรมดา เนื่องจากมีคุณสมบัติกันความชื้นที่ดีกว่า และขั้นตอนการผลิตที่พิถีพิถันมากขึ้น ในการประเมินว่าราคาไหนคุ้มค่า ควรดูทั้งคุณภาพของวัตถุดิบ ความประณีตของลายร่อง การควบคุมความชื้น และความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่าย มากกว่าจะพิจารณาเพียงราคาถูกหรือแพงเพียงอย่างเดียว เพราะวัสดุที่มีคุณภาพสูงจะช่วยลดปัญหาในการใช้งานระยะยาว และให้ความสวยงามคงทนมากกว่า