Home » พื้นไม้สำหรับฟิตเนส » วิธีดูแลพื้นไม้ในฟิตเนสให้ใช้งานปลอดภัยและทนระยะยาว
พื้นไม้ในห้องฟิตเนส อาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วมันคือองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลทั้งต่อ “ความปลอดภัย” และ “ความทนทาน” ของพื้นที่ออกกำลังกายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อที่หยดลงพื้น อุปกรณ์หนักที่วางประจำจุด หรือแรงกระแทกจากการออกกำลังกายทุกวัน ล้วนทำให้พื้นเสื่อมเร็วขึ้นได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม คู่มือนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีดูแลพื้นลายไม้ในฟิตเนสให้สวย แข็งแรง และปลอดภัย พร้อมยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด แม้ต้องรองรับการออกกำลังกายหนักทุกวันก็ตาม
1.เช็ดเหงื่อและความชื้นทันที
เหงื่อ น้ำหก และละอองความชื้นจากขวดน้ำหรือแก้วน้ำเย็น เป็นตัวการเงียบที่ทำให้พื้นลายไม้เสียหายได้ ทั้งในแง่คราบด่าง ผิวหน้าหมอง ไปจนถึงการบวมตัวของแผ่นพื้นในระยะยาว หากปล่อยให้ความชื้นสะสมซึมเข้ารอยต่อหรือขอบผนังเป็นประจำ พื้นอาจเริ่มยกตัวหรือเป็นคลื่นโดยที่เจ้าของแทบไม่รู้ตัว การดูแลที่ดีที่สุดคือเช็ดทันทีที่เห็น คราบเหงื่อหรือน้ำหยดเล็กน้อยก็ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะโซนรอบลู่วิ่ง จักรยาน และจุดที่ออกกำลังกายหนักเป็นประจำ
2.ใช้แผ่นรองหรือแผ่นยางใต้เครื่องออกกำลังกายหนัก
อุปกรณ์อย่างลู่วิ่ง เครื่องเวท ม้านั่ง Bench Press หรือ Smith Machine มีน้ำหนักมากและสร้างแรงกดบนพื้นอย่างต่อเนื่อง หากวางลงบนพื้นไม้โดยตรง โอกาสที่พื้นจะบุบ ยุบ หรือมีรอยกดถาวรสูงมาก การใช้แผ่นยางหรือ Floor Mat รองใต้เครื่องจะช่วยกระจายแรงกด ช่วยซับแรงกระแทกในจังหวะใช้งาน และลดเสียงดังขณะเล่นเวทไปพร้อมกัน นอกจากจะถนอมพื้นแล้ว ยังช่วยให้ห้องฟิตเนสดูเป็นสตูดิโอที่จัดระบบดี สะอาด เรียบร้อยมากขึ้นด้วย
3.หลีกเลี่ยงการวางดัมเบลหรือ Kettlebell ลงพื้นโดยตรง
ดัมเบลและ Kettlebell โดยเฉพาะน้ำหนักระดับกลาง–หนัก หากวางกระแทกลงบนพื้นโดยตรงซ้ำ ๆ จะทำให้พื้นเกิดรอยบุบเป็นจุดหรือผิวหน้าแตกได้ง่าย แม้จะเป็นพื้น SPC หรือไวนิลที่ทนรอยมาก แต่แรงกระแทกในพื้นที่เล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ก็ทำให้พื้นเสียสภาพได้เหมือนกัน ทางออกที่ดีคือกำหนด “โซนวางดัมเบล” ชัดเจน และปู Floor Mat หรือแผ่นยางหนารองไว้ตลอดเวลา รวมถึงสื่อสารกับผู้ใช้ให้ “วางอย่างมีสติ” ไม่โยนหรือปล่อยให้หล่นลงพื้น
4.ทำความสะอาดเป็นประจำแบบ “ชื้นหมาด”
ถึงพื้นจะกันน้ำ แต่ก็ไม่ควรใช้น้ำมากเกินจำเป็นในการถูทำความสะอาด เพราะน้ำส่วนเกินอาจไหลตามรอยต่อหรือคิ้วบัวไปสะสมในจุดที่มองไม่เห็น ควรใช้ไม้ม็อบหรือผ้าถูพื้นแบบชุบน้ำแล้วบิดหมาด ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นลายไม้หรือพื้นไวนิลโดยเฉพาะ สูตรอ่อนโยน ไม่ทิ้งคราบเหนียวและไม่ทำลายชั้นเคลือบผิว การทำความสะอาดเป็นประจำช่วยลดคราบเหงื่อ ฝุ่น และคราบผงชอล์ก (จากคนเล่นเวท) ทำให้พื้นดูใหม่และสะอาดตาเสมอ
5.ตรวจจุดเสี่ยงความชื้นทุกสัปดาห์
ในห้องฟิตเนสมักมีจุดเสี่ยงที่ความชื้นสะสม เช่น รอบเครื่องชงน้ำมุมกาแฟ ใกล้หน้าต่างที่มีน้ำฝนสาด หรือซอกกำแพงที่อากาศถ่ายเทไม่ดี หากปล่อยทิ้งไว้ พื้นอาจบวมที่ขอบหรือมีเชื้อราขึ้นตามแนวผนังได้ การตรวจเช็กเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง เช่น มองหาร่องรอยคราบน้ำด่าง ๆ พื้นเริ่มนูน หรือมีกลิ่นอับผิดปกติ จะช่วยให้เจอปัญหาเร็วและแก้ไขได้ทัน ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามจนต้องรื้อพื้น
6.ติด Felt Pad ใต้ขาเครื่องฟิตเนสและอุปกรณ์เสริม
ถึงแม้เครื่องฟิตเนสหลายตัวจะวางอยู่กับที่ แต่ในความเป็นจริง เรามักมีการขยับ ปรับตำแหน่ง หรือเลื่อนอุปกรณ์อยู่เรื่อย ๆ เช่น แท่นวางดัมเบล ม้านั่ง หรือ Rack ต่าง ๆ การติด Felt Pad ใต้ขาเครื่องหรืออุปกรณ์ช่วยลดการเสียดสีโดยตรงระหว่างโลหะกับพื้นลายไม้ ป้องกันรอยขีดข่วนเป็นเส้นยาวหรือรอยถูด้าน ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงเอี๊ยดอ๊าดหรือเสียงลากที่รบกวนบรรยากาศในห้องฟิตเนสได้ดี
7.ตรวจสภาพพื้นทุก 4–6 เดือน
การตรวจเช็กสภาพพื้นอย่างเป็นระบบช่วยให้แก้ปัญหาเล็ก ๆ ก่อนบานปลาย เช่น รอยต่อเริ่มเปิด แผ่นพื้นบางส่วนยกตัวเล็กน้อย ผิวหน้าเริ่มด้านไม่เท่ากัน หรือบางจุดเกิดเสียง “ลั่น” เวลาเดิน การเรียกช่างมาตรวจและซ่อมเฉพาะจุดในช่วงเริ่มต้น มักใช้เวลาไม่นานและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการปล่อยจนต้องรื้อพื้นจำนวนมาก การทำตารางตรวจสภาพทุก 4–6 เดือน จึงเป็นวิธีที่ดีในการยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้ในฟิตเนสให้ยาวนานและปลอดภัยมากที่สุด
*อ่านบทความ ติดตั้งพื้นไม้สำหรับฟิตเนสอย่างไรให้ไม่ยุบ ได้ที่นี่
8.เปิดหน้าต่างหรือใช้ระบบระบายอากาศ
เหงื่อและความชื้นจากการออกกำลังกาย หากสะสมในห้องที่ปิดทึบ จะทำให้เกิดกลิ่นอับและเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในห้อง ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานของพื้นไม้โดยตรง พื้นที่สัมผัสกับอากาศชื้นมากเกินไปอาจเกิดการขยายตัว หดตัว หรือยกตัวเล็กน้อยได้ในระยะยาว การเปิดหน้าต่างระบายอากาศ หรือใช้พัดลมดูดอากาศ/ระบบระบายอากาศร่วมกับเครื่องปรับอากาศ จะช่วยให้ทั้งคนออกกำลังกายรู้สึกสบายและพื้นก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมไปพร้อมกัน
ถ้าคุณอยากให้ห้องฟิตเนสที่บ้านหรือสตูดิโอของคุณ “ทน ใช้งานได้จริง และปลอดภัยในทุกการเคลื่อนไหว” การเลือกพื้นลายไม้คุณภาพดีคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด พื้นไวนิลระดับพรีเมียมอย่าง Allure Vinyl จาก VK Floor ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการใช้งานแบบฟิตเนสโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการซับแรงดีเยี่ยม กันน้ำ 100% ลดรอยจากดัมเบลและอุปกรณ์หนัก รวมถึงให้ดีไซน์สวยแบบสตูดิโอมาตรฐานสากล ติดตั้งง่ายและดูแลไม่ยุ่งยาก หากต้องการอัปเกรดฟิตเนสให้ปลอดภัยขึ้นและใช้งานทนยาว ๆ ทักมาปรึกษา VK Floor ได้เลย เรามีผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำรุ่นที่เหมาะที่สุดกับสไตล์การออกกำลังกายของคุณ
