พื้นไม้เอ็นจิเนียร์จากแบรนด์ IMONDI ไม่ได้เป็นเพียงวัสดุปูพื้น แต่คือ “งานศิลปะจากธรรมชาติ” ที่ผสมผสานความประณีตของงานช่างเข้ากับความงามของเนื้อไม้แท้ในทุกแผ่น แต่ละคอลเลกชันจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในโทนสีที่หลากหลาย ลวดลายการปูที่เปลี่ยนอารมณ์ของห้องได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงการเคลือบผิวที่เลือกได้ทั้งแบบ Lacquer และ Natural Oil ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างทั้งในสัมผัสและการดูแล บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับรายละเอียดของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ IMONDI ให้มากขึ้น ตั้งแต่โทนสีและแพทเทิร์นยอดนิยม ไปจนถึงวิธีดูแลรักษาให้พื้นไม้คงความสวยเหมือนใหม่ตลอดเวลา
1.คอลเลคชั่นโทนสียอดนิยม
ตัวอย่างคอลเลคชั่นโทนสียอดนิยม พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ แบรนด์ Imondi
1.Black & White
2.Reclaimed Collection
- European Reclaimed Collection
- American Reclaimed Collection
- Exotic Reclaimed Collection
- Oriental Reclaimed Collection
2.Black & White
Black & White Collection ถูกสร้างขึ้นสำหรับคนที่ “หลงใหลในชีวิต” และรักความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง
คอลเลกชันนี้ถ่ายทอดความงามที่เรียบง่ายและสงบนิ่ง แฝงด้วยความคลาสสิกที่หลายคนเข้าถึงได้ เพราะสีดำและสีขาวคือสองสีพื้นฐานของธรรมชาติที่สะท้อนความสมดุล ความแตกต่างระหว่างสองขั้วนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มองชีวิตอย่างสงบ มองโลกในแง่ดี และมีรสนิยมที่ชัดเจน
รสนิยมและความชอบของแต่ละคนคือภาพสะท้อนตัวตนและความคิดลึก ๆ ภายในใจ และ Black & White Collection ก็ให้เกียรติในความเป็นเอกลักษณ์นั้น เพราะแต่ละคนมีสไตล์เฉพาะตัวที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ และโดดเด่นในแบบของตัวเอง คอลเลกชันนี้คือการยกย่องความงามตามธรรมชาติ และการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสมดุลและความหมาย
โทนสีในคอลเลคชั่นนี้มีทั้งหมดดังนี้…
Glow
Cream
Cabril
Orbit
Anthracite
Onyx
Cornsilk
Alabaster
Milton
Dover
Pinto
Pure Ice
Salamanca
Walnut Natural
Tobacco
Pamplona
Grey Ash
Addison
Valencia
Sevilla
Church Brown
3.Reclaimed Collection
3.1 European Reclaimed
ไม้ที่ถูกเก็บมาจากบ้าน ยุ้งฉาง และอาคารโรงงานเก่าในยุโรปที่กำลังจะถูกรื้อถอน ไม้โอ๊คเหล่านี้ผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี ผ่านสงครามโลกทั้งสองครั้งแต่ยังคงแข็งแรงไม่เปลี่ยน แหล่งที่มาคือป่าดิบยุโรปที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ไม้แต่ละต้นถูกตัดเมื่อมีอายุครบหลายร้อยปี ทำให้ไม้มีลายเสี้ยนแน่น สีเข้มลึก และขนาดใหญ่กว่าไม้ใหม่ในปัจจุบัน
การเลือกใช้ไม้รีเคลมจากยุคศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของประวัติศาสตร์โลก ถือเป็นการสืบสานวัตถุดิบที่ “ผ่านการพิสูจน์กาลเวลา” และยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืน (Sustainable Choice) IMONDI เชื่อในการ “ค้นพบความงามจากอดีต” และถ่ายทอดต่อให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้มีโทนสีดังนี้..
Barn Oak, Noble Chevron
Barn Oak, Noble Herringbone
Barn Oak, Noble
Barn Oak, Sete Brown
Barn Oak, Antique Lime
Barn Oak, Colonial Grey
Barn Oak, Colonial Pure
Barn Oak, Colonial
Barn Oak, Grey Stone
Barn Oak, Pure Stone
Barn Oak, Stone
Barn Oak, White Ash
Barn Oak, Raw
3.2 American Reclaimed
คอลเลคชั่นนี้สะท้อนเอกลักษณ์ของไม้เก่าจากสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบพื้นไม้ที่ “มีเรื่องราวและบุคลิกเฉพาะตัว”
ต้นกำเนิดมาจากป่าไม้โอ๊คที่ทอดยาวตั้งแต่มลรัฐเวอร์จิเนียถึงเทกซัสตะวันตก ไม้เหล่านี้ถูกตัดในช่วงปลายศตวรรษที่ 18–19 เพื่อนำไปสร้างโรงเลื่อยและยุ้งฉางในยุคแรกของอเมริกา
สมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้าหรือเครื่องจักร การตัดไม้ต้องอาศัยแรงคน ใช้ขวานขนาดใหญ่และเลื่อยมือในการแปรรูป ไม้ถูกลากด้วยม้าและลอยน้ำไปยังโรงเลื่อยริมแม่น้ำ กระบวนการแบบดั้งเดิมนี้ทำให้ไม้มีพื้นผิวและร่องรอยเฉพาะตัวที่ไม่สามารถสร้างได้ในยุคปัจจุบัน ไม้ในซีรีส์นี้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของ “ร่องรอยเวลา” และสะท้อนจิตวิญญาณของชุมชนชาวอเมริกันยุคบุกเบิก ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้มีโทนสีดังนี้..
Oak Accrington
Oak Chorley
Oak Country
Oak Burnley
Oak Nova
Oak Weathered, Plank
Oak Weathered, Herringbone
Oak Grey, Plank
Oak Grey, Herringbone
Antique Black, Plank
Antique Black, Herringbone
Nagoya, Plank
Nagoya, Herringbone
Antique Brown, Plank
Antique Brown, Herringbone
Oak Dirt, Plank
Oak Dirt, Herringbone
Oak Clay, Plank
Oak Clay, Herringbone
Oak Mud, Plank
Oak Mud, Herringbone
Oak Mist, Plank
Oak Mist, Herringbone
Oak Sky, Plank
Oak Sky, Herringbone
Oak Cloud, Plank
Oak Cloud, Herringbone
3.3 Exotic Reclaimed
คือคอลเลกชันที่สะท้อนจิตวิญญาณของ IMONDI อย่างแท้จริง รวบรวมไม้เก่าหายากจากทั่วโลก ทั้งไม้จากเรือ ถังวิสกี้ เสาเดินเรือ ประตู และสะพานเก่า แล้วนำมาฟื้นชีวิตใหม่ให้กลายเป็นพื้นไม้ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเสน่ห์เฉพาะตัว พื้นไม้บางรุ่นผลิตจากถังบ่มวิสกี้โอ๊คเกรดพรีเมียมที่ผ่านการเผาด้วยมือจนเกิดลวดลายและกลิ่นเฉพาะตัว ส่วนบางรุ่นมาจากไม้โอ๊ค “Briccole” ใต้น้ำของเวนิสที่ผ่านการสะสมแร่ธาตุจนเกิดสีและพื้นผิวที่หายากที่สุดในโลก ทุกแผ่นคือศิลปะจากธรรมชาติที่ผสมผสานความงามของกาลเวลาเข้ากับความประณีตของงานช่าง ให้คุณได้สัมผัสพื้นไม้ที่มีทั้งความหรูหรา มีเรื่องราว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้มีโทนสีดังนี้..
Brownstone Natural
Elm, Brussels
Elm, Gloss
Brownstone Clean
Venice, Plank
Venice, Herringbone
Jack & Jim, Natural
Elm, Sublime, Plank
Elm, Sublime, Herringbone
Elm, Raw
Teak, Weathered
Cladding, ZOWIE!
3.4 Oriental Reclaimed Collection
คอลเลกชัน Oriental Reclaimed ของ IMONDI มีจุดเริ่มต้นจากไม้เก่าที่เคยใช้ในบ้านยุคโบราณ ยุ้งฉาง และโรงงานในประเทศจีน อเมริกาเหนือ และแถบบอลติก ซึ่งเป็นแหล่งไม้สำคัญของโลกในช่วงศตวรรษที่ 17–18 ยุโรปตะวันตกในเวลานั้นพึ่งพาไม้จากชายฝั่งตอนใต้ของทะเลบอลติก โดยเฉพาะเนเธอร์แลนด์และอังกฤษที่ต้องใช้ไม้จำนวนมากในการต่อเรือ ทำให้เกิดทั้งสงครามและการทูตเพื่อแย่งชิงทรัพยากรไม้อันล้ำค่านี้
เมื่อก้าวเข้าสู่ปลายศตวรรษที่ 18 อาณานิคมอเมริกาได้กลายเป็นแหล่งไม้สำคัญแห่งใหม่ และในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 การปฏิวัติอุตสาหกรรมยิ่งเพิ่มความต้องการไม้มากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ไม้สนจำนวนมากถูกตัด แปรรูป และล่องแพไปยังเมืองท่าทางทะเลเพื่อส่งออกไปทั่วโลก จนเมื่อถึงต้นศตวรรษที่ 20 ประเทศจีนก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะ “ศูนย์กลางการผลิตและค้าขายไม้ซอฟต์วู้ด” แห่งที่สามของโลก เคียงข้างอเมริกาเหนือและแถบบอลติก ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้มีโทนสีดังนี้..
Kensington Park
Carolina, White
Carolina, Black
Pine Paint, Chevron
Pine Paint, Herringbone
Pine Paint, Plank
Pine Natural, Plank
Pine Natural, Chevron
Pine Natural, Herringbone
Pine Raw, Plank
Pine Raw, Chevron
Pine Raw, Herringbone
Chelsea Dark
Kyoto
- Farmhouse
- Anthropology
- Sports Natural
- Sports Black
- McGill
- Miami
- Holland Park
4.ลายปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ แบรนด์ Imondi
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
5.การเคลือบผิวไม้และการดูแลรักษา
5.1 Lacquer (แลกเกอร์เคลือบเงา)
การเคลือบพื้นไม้แบบแลกเกอร์ (Lacquer Finish) คือการเคลือบผิวไม้ด้วยชั้นฟิล์มใสที่ให้ความเงางามและปกป้องพื้นจากรอยขีดข่วน ความชื้น และสิ่งสกปรก โดยเริ่มจากการขัดพื้นให้เรียบและสะอาด จากนั้นทาแลกเกอร์บาง ๆ ตามแนวเสี้ยนไม้ ปล่อยให้แห้งและขัดเบา ๆ ก่อนทาซ้ำอีก 1–2 รอบ เพื่อให้ผิวเรียบเนียนและทนทาน พื้นที่ผ่านการเคลือบจะมีความเงาสวย ดูหรูหรา และทำความสะอาดง่าย
การทำความสะอาดประจำวัน:
ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดทำความสะอาดฝุ่นผิวหน้าเป็นประจำทุกวัน
หากมีคราบหรือรอยเปื้อน ใช้น้ำยา LOBACARE Cleaner ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย
ฉีดพ่นเบา ๆ บนพื้น แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง
ช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตและอาการลื่น
หากมีคราบฝังแน่น ใช้น้ำยา LOBACARE® CareRemover
การบำรุงรักษาเชิงลึก (2–3 ครั้งต่อปี):
ผสมน้ำยา LOBACARE Cleaner 1 ฝา กับน้ำอุ่น 2 ลิตร
ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดพื้นให้ทั่ว ทิ้งไว้ 2 นาที แล้วเช็ดแห้ง
สามารถใช้น้ำยา LOBACARE® V6 Finish Wear Proof หรือ ParkettCare สำหรับพื้นเคลือบ UV เพื่อเคลือบปกป้องเพิ่มเติม
ข้อควรระวัง:
ห้ามทำความสะอาดบนพื้นไม้ที่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรก เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน
5.2 Natural Oil (น้ำมันธรรมชาติ)
การเคลือบพื้นไม้ด้วยน้ำมันธรรมชาติ (Natural Oil Finish) เป็นการเน้นความงามและสัมผัสของไม้แท้โดยไม่ปิดผิวเหมือนแลกเกอร์ เริ่มจากขัดพื้นให้เรียบ สะอาด และแห้งสนิท จากนั้นทาน้ำมันบาง ๆ ตามแนวเสี้ยนไม้ ปล่อยให้ไม้ดูดซึม แล้วเช็ดส่วนเกินออกก่อนปล่อยให้แห้งสนิท กระบวนการนี้อาจทำ 2 รอบเพื่อให้ไม้ชุ่มและเงาอย่างพอดี ผลลัพธ์คือพื้นไม้ที่ดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ลายไม้ชัด ผิวสัมผัสนุ่มนวล สามารถซ่อมแซมเฉพาะจุดได้ง่ายเพียงขัดและทาน้ำมันซ้ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นไม้สไตล์อบอุ่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คำแนะนำทั่วไป:
วางพรมกันฝุ่นที่ทางเข้าเพื่อลดเศษดินและกรวด
ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ และวางของหนักอย่างระมัดระวัง
ไม้เคลือบน้ำมันจะทนทานและดูดซึมน้อยลงเมื่อดูแลต่อเนื่อง
การทำความสะอาดประจำวัน:
กวาดหรือดูดฝุ่นทุกวัน
หากมีรอยเปื้อน ใช้น้ำยา OSMO Wash & Care ซึ่งเป็นสูตรย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อไม้
วิธีใช้น้ำยา:
ใช้ถัง 2 ใบ ใบหนึ่งใส่น้ำยาล้าง อีกใบใส่น้ำสะอาดสำหรับล้างผ้า
ล้างผ้าในถังน้ำสะอาดก่อนเช็ดพื้นทุกครั้ง เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกย้อนกลับ
เปลี่ยนน้ำในถังบ่อย ๆ
ห้ามเช็ดพื้นด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้ชั้นน้ำมันปกป้องหลุดออก
ยิ่งใช้น้ำยา OSMO Wash & Care เป็นประจำ พื้นจะยิ่งทนและไม่เปื้อนง่าย
การบำรุงรักษาและซ่อมแซม:
ใช้น้ำยา OSMO Liquid Wax Cleaner ประมาณ 3 ครั้งต่อปี สำหรับรีเฟรชบริเวณที่มีการใช้งานบ่อย และซ่อมรอยขีดข่วนเล็ก ๆ
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ IMONDI คือทางเลือกสำหรับคนที่มองหาพื้นไม้แท้ระดับพรีเมียมที่ให้ได้ทั้งความสวย ความทน และความรู้สึกอบอุ่นในทุกก้าวย่าง ด้วยโทนสีที่หลากหลาย ลายปูที่ปรับได้ตามสไตล์ และผิวสัมผัสที่เลือกได้ทั้งแบบ Lacquer เงางามหรูหรา หรือ Natural Oil ดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ทุกแผ่นถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มบรรยากาศของบ้านให้สมบูรณ์แบบมากที่สุf และถ้าคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นไม้แท้จากยุโรป VK Floor คือผู้นำเข้าพร้อมให้คำปรึกษาและบริการติดตั้งอย่างมืออาชีพ รับประกันคุณภาพงานและมาตรฐานระดับสากลในทุกขั้นตอน เพราะเรารู้ว่าพื้นไม้ไม่ได้เป็นเพียงวัสดุ แต่มันคือ “พื้นฐานของบ้านที่สะท้อนตัวตนของคุณ” เลือก พื้นไม้ IMONDI จาก VK Floor แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างตั้งแต่ก้าวแรก
ref : https://www.imondi.com/