วิธีดูแลพื้นไม้สำหรับออฟฟิศให้อยู่ทรงสวย ใช้งานทน แม้ต้องรองรับพนักงานทั้งออฟฟิศทุกวัน

Table of Contents

                ถึงแม้ พื้นไม้สำหรับออฟฟิศ จะถูกออกแบบมาให้ทนต่อการใช้งานหนักกว่าพื้นบ้านทั่วไป แต่สภาพแวดล้อมของสำนักงานก็ยังเต็มไปด้วยปัจจัยที่ทำให้พื้นเสื่อมสภาพเร็ว ทั้งล้อเก้าอี้ที่เคลื่อนตลอดวัน เฟอร์นิเจอร์หนักที่ย้ายไปมา น้ำหกใน Pantry หรือการทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม หากไม่รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอะไร พื้นที่เคยสวยอาจเริ่มมีรอย ขึ้นคลื่น หรือซีดด้านจนทำให้ออฟฟิศดูโทรมเร็วกว่าที่ควร การเข้าใจ “ข้อห้ามพื้นฐาน” เหล่านี้จึงสำคัญมาก เพราะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้สำหรับออฟฟิศ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น

1.ทำความสะอาดประจำวันให้ถูกวิธี พื้นสวยได้นานกว่าที่คิด

การดูแลพื้นไม้สำหรับออฟฟิศ จุดเริ่มต้นง่าย ๆ คือ “การทำความสะอาดประจำวันให้ถูกวิธี” เพราะออฟฟิศเป็นพื้นที่ที่มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา ฝุ่น ทราย หรือเศษเล็ก ๆ จากรองเท้าคือศัตรูตัวสำคัญที่ค่อย ๆ ขีดข่วนผิวหน้าโดยที่เราไม่รู้ตัว การกวาดและถูพื้นจึงไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่คือการรักษาผิวหน้าของพื้นให้ดูใหม่ไปนาน ๆ

หลักง่าย ๆ คือ ใช้ไม้กวาดขนละเอียดหรือเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะกับพื้นแข็ง เพื่อลดการถูไถเม็ดฝุ่นบนผิวหน้า ตามด้วยการใช้ไม้ถูพื้นแบบ “ชื้นหมาด” แทนการใช้น้ำเยอะเกินไป น้ำมากเกินจำเป็นอาจซึมเข้ารอยต่อหรือขอบพื้น ทำให้พื้นเสื่อมสภาพเร็ว โดยเฉพาะพื้นไม้จริง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และพื้นลามิเนต ส่วนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดก็ควรเลือกสูตรที่ออกแบบมาสำหรับพื้นไม้หรือพื้นลามิเนต/ไวนิลโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กรด–ด่างแรง หรือผงขัดที่ทำลายชั้นเคลือบผิว เมื่อทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีที่ถูกต้อง พื้นในออฟฟิศจะดูเรียบร้อย เงาแต่ไม่ลื่น และไม่ต้องกังวลเรื่องผิวหน้าด้านหรือด่างเป็นหย่อม ๆ ในระยะยาว  *อ่านบทความ  คุณสมบัติแบบไหนเหมาะกับ พื้นไม้สำหรับออฟฟิศ ? ได้ที่นี่

2.ป้องกันรอยจากเก้าอี้ล้อเลื่อนและเฟอร์นิเจอร์ ก่อนเกิดปัญหาพื้นพัง

ปัญหายอดฮิตของพื้นไม้ในออฟฟิศ คือ “รอยเส้น” เต็มพื้นจากเก้าอี้ล้อเลื่อนและขาโต๊ะโลหะ ซึ่งมักเกิดสะสมแบบค่อยเป็นค่อยไปจนวันหนึ่งมองแล้วรู้สึกว่าพื้นทั้งห้องดูโทรมเร็วกว่าที่ควร วิธีดูแลที่ดีที่สุดคือ “ป้องกันตั้งแต่ก่อนเกิดรอย” มากกว่ารอให้เสียแล้วค่อยแก้

เริ่มจากเก้าอี้ทำงานที่มีล้อ ถ้าเป็นล้อพลาสติกแข็ง ควรเปลี่ยนเป็นล้อ PU หรือยางสังเคราะห์ที่ออกแบบมาให้ถนอมพื้นมากกว่า หรือถ้าไม่สะดวกเปลี่ยนทั้งเซ็ต ให้เพิ่มแผ่นรองเก้าอี้ (Chair Mat) ขนาดพอเหมาะบริเวณโต๊ะทำงานหรือห้องประชุม เพื่อรับแรงเสียดสีแทนพื้นจริง ขาโต๊ะและตู้เอกสารก็ควรติด Felt Pad หรือแผ่นรองกันรอยด้านล่างทุกจุด โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มีการขยับบ่อย เช่น โต๊ะประชุมที่เลื่อนปรับตำแหน่ง หรือโต๊ะทำงานแบบแชร์สเปซ การสื่อสารกับพนักงานและแม่บ้านให้ “ยก” แทนการ “ลาก” เฟอร์นิเจอร์ จะช่วยลดรอยขีดข่วนได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญคือ เมื่อมีการจัดเลย์เอาท์ใหม่ ควรให้ช่างช่วยย้ายเฟอร์นิเจอร์อย่างระมัดระวังทุกครั้ง ไม่ปล่อยให้ลากเองแบบรีบ ๆ ในวันทำงานปกติ

3.จัดการคราบน้ำและความชื้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโซน Pantry และหน้าห้องน้ำ

  • โซน Pantry, หน้าห้องน้ำ, จุดวางตู้เย็น–ตู้กดน้ำ เป็นพื้นที่ที่พื้นไม้ต้องเผลอเจอน้ำและความชื้นบ่อยที่สุด หากไม่รีบจัดการอาจทำให้พื้นบวม โก่ง หรือเกิดเชื้อราได้ในระยะยาว

  • แม้พื้นไวนิลหรือ SPC จะกันน้ำได้ แต่ “ระบบพื้นด้านล่าง” ไม่ได้ออกแบบมาให้รับน้ำขัง หากมีน้ำซึมตามรอยต่อก็ยังเกิดความเสียหายได้

  • ควรมีวินัยเช็ดน้ำทันทีที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหกจากแก้วเย็น กาแฟ หรือน้ำอัดลม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่รอยต่อพื้น

  • ตรวจเช็กใต้ตู้เย็นและใต้ตู้กดน้ำเป็นประจำ เพื่อตรวจหาน้ำหยดหรือความชื้นสะสมที่มองไม่เห็นในชีวิตประจำวัน

  • สำหรับพื้นที่เสี่ยง เช่น หน้า Pantry หรือหน้าห้องน้ำ ควรเพิ่มพรมดักน้ำแบบกันลื่น เพื่อซับน้ำก่อนเดินลงบนพื้นโดยตรง

  • ใช้ถาดรองน้ำใต้กระถางต้นไม้ เครื่องดื่ม หรืออุปกรณ์ที่มีความชื้น เพื่อป้องกันการซึมลงสู่พื้น

  • จัดการเรื่องน้ำและความชื้นให้รวดเร็ว จะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้น ลดปัญหาคราบด่าง การบวม และกลิ่นอับในออฟฟิศอย่างมีประสิทธิภาพ

4.ตรวจเช็กสภาพพื้นเป็นระยะ ซ่อมเล็กน้อยก่อนลุกลามเป็นงานใหญ่

พื้นไม้ในออฟฟิศ แม้จะทน แต่ก็ไม่ควรถูกมองว่า “ปูเสร็จแล้วปล่อยไป” หลายปัญหามักเริ่มจากจุดเล็ก ๆ เช่น แผ่นที่เริ่มโก่งเล็กน้อย เสียงลั่นหรือยวบเวลาเดินผ่าน ขอบพื้นที่เริ่มเปิด หรือซิลิโคนตามรอยต่อที่กรอบแตก หากมองข้ามและปล่อยให้ผ่านไปเรื่อย ๆ สุดท้ายมักนำไปสู่การซ่อมครั้งใหญ่ที่ต้องรื้อหลายแผ่น หรือในบางกรณีอาจต้องเปลี่ยนพื้นทั้งโซน

แนวทางที่ดีคือ ตั้ง “รอบตรวจเช็กพื้น” เช่น ทุก 3–6 เดือน ให้แม่บ้านหรือ Facility Manager เดินสำรวจพื้นตามจุดเสี่ยง ทั้งหน้า Pantry ทางเดินหลัก ห้องประชุม และพื้นที่ที่มีเฟอร์นิเจอร์หนัก หากพบจุดที่เสียงดังแปลก ๆ แผ่นยกตัว หรือพื้นดูผิดระดับจากบริเวณรอบข้าง ควรรีบแจ้งช่างหรือซัพพลายเออร์ที่ติดตั้งให้เข้ามาดูทันที การซ่อมเล็ก ๆ เช่น อัดกาวเพิ่ม ปรับระดับ หรือลงซิลิโคนใหม่ มักใช้เวลาไม่นานและใช้ต้นทุนไม่สูง แต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้สำหรับออฟฟิศออกไปได้อีกหลายปี และที่สำคัญคือช่วยหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ “ต้องรื้อแบบด่วน ๆ” ที่กระทบต่อการทำงานของทั้งออฟฟิศ

5.สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากให้พื้นไม้ในออฟฟิศพังเร็วเกินเวลา

  • หลีกเลี่ยงการถูพื้นด้วยน้ำปริมาณมากหรือปล่อยให้พื้นแฉะ เพราะอาจทำให้พื้นบวม โก่ง หรือเกิดเชื้อราในระยะยาว

  • ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง เช่น ผงขัด กรด–ด่างแรง หรือแอลกอฮอล์เข้มข้น ซึ่งจะทำลายชั้นเคลือบผิวของพื้น

  • ห้ามลากเฟอร์นิเจอร์หนัก เช่น โต๊ะประชุม หรือตู้เอกสารโลหะ ควรยกทุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนลึก

  • หลีกเลี่ยงการใช้เทปกาวแรงสูงหรือสติ๊กเกอร์ติดตรงพื้น เพราะอาจดึงผิวหน้าออกเมื่อแกะ

  • ไม่ควรปล่อยให้พรมที่ไม่ระบายอากาศทับพื้นเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เกิดความชื้นสะสมจนเกิดคราบด่างหรือกลิ่นอับใต้พรม

  • หลีกเลี่ยงการใช้รองเท้าที่มีกรวด/ทรายติดพื้นรองเท้า เพราะจะขูดผิวหน้าพื้นให้เป็นรอยเส้นขนแมวอย่างต่อเนื่อง

  • ห้ามปล่อยให้ปัญหาเล็ก ๆ เช่น เสียงลั่น แผ่นยกตัว หรือรอยต่อเปิดทิ้งไว้นาน เพราะอาจลุกลามจนต้องซ่อมใหญ่ในอนาคต

  • ไม่ควรวางต้นไม้หรืออุปกรณ์ที่มีความชื้นโดยไม่มีถาดรอง เพราะน้ำอาจซึมลงพื้นแบบไม่รู้ตัว

  • หลีกเลี่ยงการกระแทกพื้นด้วยของแข็ง เช่น ขาตู้เหล็กหรือขาโต๊ะปลายแหลม ซึ่งอาจทำให้พื้นบุ๋มหรือผิวแตกได้

                          การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายพื้นไม้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ออฟฟิศของคุณดูใหม่ เรียบร้อย และเป็นมืออาชีพอยู่เสมอ เพราะพื้นไม้สำหรับออฟฟิศไม่ใช่แค่พื้น แต่เป็นภาพลักษณ์ขององค์กรที่ทุกคนเห็นทันทีที่เดินเข้ามา หากคุณกำลังมองหาพื้นลายไม้ที่ทนรอย กันน้ำ 100% และดูแลง่ายสำหรับออฟฟิศยุคใหม่ พื้นไวนิล Allure Vinyl Floor คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด ทั้งสวย ใช้งานทน และรองรับการทำงานหนักในทุกวันของสำนักงานได้อย่างมั่นใจ การเลือกพื้นคุณภาพดีตั้งแต่แรก คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับออฟฟิศของคุณในระยะยาว

Google Map
Line
Line
Google Map