ถ้าคุณกำลังเลือกพื้นไม้ให้บ้าน แต่ยังลังเลว่าจะเลือกสีไหนดี… บทความนี้คือคำตอบของคุณ!
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์คือ วัสดุปูพื้นไม่ได้มีดีแค่เรื่องความแข็งแรงหรือความทนทาน แต่ยังโดดเด่นเรื่อง “เฉดสี” ที่สามารถสะท้อนสไตล์และรสนิยมของเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน ในปี 2025 นี้ เรารวบรวม สียอดนิยมที่เจ้าของบ้านเลือกใช้มากที่สุด มาให้คุณได้ชม ไม่ว่าจะเป็นโทนสีอ่อนสว่างที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น โปร่งสบาย หรือสีเข้มที่แฝงความเรียบหรูและพรีเมียม ทุกเฉดสีล้วนช่วยยกระดับบรรยากาศของบ้านให้ดูมีรสนิยมอย่างแท้จริง
1. สี Valencia – Engineered Wood
โทนสี: ไม้โอ๊คอ่อน สีเบจธรรมชาติ
สไตล์แนะนำ: Minimal / Scandinavian / Japandi
เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น / ห้องนอน / พื้นที่ทำงาน
การตกแต่ง : การตกแต่งห้องให้ดูอบอุ่นและโปร่งสบายสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราสีอ่อน ซึ่งให้โทนธรรมชาติที่ดูเบาและสว่างตา ช่วยสร้างบรรยากาศที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์แบบมูจิหรือสแกนดิเนเวียน เมื่อจับคู่กับผ้าคลุมหรือเบาะในเฉดสีครีมหรือเทาอ่อน จะยิ่งเสริมให้ห้องดูเรียบสงบและกลมกลืนอย่างลงตัว นอกจากนี้การเพิ่มต้นไม้สีเขียวหรือนำแจกันแก้วใสสไตล์มูจิมาวางประดับ จะช่วยเติมความสดชื่นและความโปร่งโล่งให้กับห้อง พร้อมทั้งเพิ่มมิติของแสงและเงาให้มุมต่าง ๆ ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
2.สี Milton – Engineered Wood
โทนสี: โอ๊คธรรมชาติแบบคลาสสิก
สไตล์แนะนำ: Modern Classic / Nordic
เหมาะกับห้อง: ห้องรับแขก / ห้องอาหาร
การตกแต่ง: การตกแต่งห้องให้อบอุ่น โปร่ง และมีสไตล์แบบมินิมอล สามารถทำได้โดยใช้โซฟาผ้าลินินสีเทาอ่อนที่ให้สัมผัสนุ่มและโทนสีที่เรียบสงบ จับคู่กับผ้าม่านโปร่งสีขาวเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องผ่านอย่างนุ่มนวล และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้โทนเดียวกัน เช่น โต๊ะกลางหรือชั้นวางของที่ทำจาก Engineered Wood สีอ่อน ซึ่งมีความเรียบเนียน แข็งแรง และคงรูปได้ดี เติมความกลมกลืนขององค์ประกอบในห้องให้สอดคล้องกันอย่างมีจังหวะ พร้อมทั้งเพิ่มต้นไม้สีเขียวหรือแจกันแก้วใสสไตล์มูจิเพื่อแต่งแต้มชีวิตชีวาให้กับมุมโปรดของคุณ
3.สี Addison – Engineered Wood
โทนสี: ไม้สีทองธรรมชาติ
สไตล์แนะนำ: Contemporary / Modern Farmhouse
เหมาะกับห้อง: ห้องครัว / ห้องอ่านหนังสือ
การตกแต่ง: การตกแต่งห้องให้มีเสน่ห์อบอุ่นแบบร่วมสมัย สามารถเสริมด้วยโคมไฟแขวนดีไซน์เรียบในโทนทองเหลืองหรือสีดำด้าน ซึ่งช่วยเพิ่มจุดโฟกัสให้กับพื้นที่โดยไม่ทำลายความเรียบง่ายของห้อง ควบคู่กับการเลือกใช้เก้าอี้หวายหรือเก้าอี้หนังแท้สีคาราเมลที่ให้สัมผัสของวัสดุธรรมชาติและสีสันอบอุ่น เสริมความหรูเบา ๆ อย่างไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะเมื่อจัดวางร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอ่อน Engineered Wood จะช่วยเชื่อมโยงวัสดุและโทนสีในห้องให้ดูกลมกลืน พร้อมสร้างบรรยากาศที่ทั้งสวยงามและน่าอยู่
4.สี Salamanca – Engineered Wood
โทนสี: น้ำตาลอบอุ่น โทน Earth tone
สไตล์แนะนำ: Earthy Zen / Rustic Warm
เหมาะกับห้อง: ห้องนอน / โถงทางเดิน
การตกแต่ง:
ใช้ผ้าปูเตียงและม่านสีน้ำตาล ชมพูหม่น หรือเขียวมะกอก
ตกแต่งด้วยโคมไฟไม้หรือเซรามิก
5.สี Pinto – Engineered Wood
โทนสี: น้ำตาลเข้มปานกลาง
สไตล์แนะนำ: Loft Style / Industrial
เหมาะกับห้อง: ห้องรับแขกชาย / ห้องดูหนัง
การตกแต่ง: การตกแต่งห้องในสไตล์ลอฟต์หรือโมเดิร์นอินดัสเทรียล สามารถสร้างบรรยากาศที่เท่ ดิบ และมีเอกลักษณ์ได้ด้วยผนังปูนเปลือยหรืออิฐโชว์ ซึ่งเผยให้เห็นพื้นผิววัสดุแท้ ๆ อย่างตั้งใจ เสริมด้วยโซฟาหนังสีเข้ม เช่น น้ำตาลเข้มหรือดำ ที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและมีน้ำหนัก ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีโครงโลหะสีดำ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกลาง ชั้นวาง หรือของตกแต่งชิ้นเล็ก การนำ Engineered Wood สีเข้มหรือโทนธรรมชาติ เข้ามาประกอบด้วย จะช่วยบาลานซ์ความแข็งของวัสดุอุตสาหกรรมให้ดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย โดยไม่ลดทอนความดิบเท่ของสไตล์หลักลง สนใจ สินค้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ คลิกที่นี่
6.สี Cabril – Engineered Wood
โทนสี: น้ำตาลทองอมส้ม
สไตล์แนะนำ: Vintage / Retro
เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น / ร้านกาแฟ
การตกแต่ง:
วางเก้าอี้หนังวินเทจ / โซฟาผ้ากำมะหยี่
ใช้ของตกแต่งทองเหลืองหรือสีทับทิม
7.สี Tobacco – Engineered Wood
โทนสี: น้ำตาลเข้มสไตล์คลาสสิก
สไตล์แนะนำ: Luxury / Mid-Century
เหมาะกับห้อง: ห้องทำงาน / ห้องผู้บริหาร
การตกแต่ง: การตกแต่งห้องให้มีความคลาสสิกและนุ่มลึกสามารถทำได้ด้วยการเลือกใช้โต๊ะไม้สีเข้ม เช่น ไม้วอลนัทหรือไม้โอ๊คโทนเข้ม ร่วมกับเก้าอี้หรือโซฟาบุหนังสีแดงเลือดหมูหรือเขียวเข้ม ซึ่งเป็นเฉดสีที่ให้ความรู้สึกหรูหราและมีเอกลักษณ์ เสริมด้วยการจัดแสงแบบ วอร์มไวท์ (Warm White) ที่ช่วยสร้างมิติของแสงเงา ทำให้พื้นผิวของไม้และหนังดูมีชีวิตขึ้น ในขณะที่แสงโทนอุ่นยังช่วยลดความแข็งของโทนสีเข้ม และทำให้ห้องดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น หากนำ Engineered Wood สีเข้ม มาใช้กับพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์บางส่วน ก็จะช่วยเติมความต่อเนื่องของวัสดุธรรมชาติและเสริมความลุ่มลึกให้กับบรรยากาศโดยรวมได้อย่างลงตัว
8.สี Walnut Nature – Engineered Wood
โทนสี: วอลนัทเข้มธรรมชาติ
สไตล์แนะนำ: Modern Luxury / Classic Wood
เหมาะกับห้อง: โถงบ้าน / บ้านรีสอร์ท
การตกแต่ง: การตกแต่งห้องด้วยผนังไม้จริงหรือวอลเปเปอร์ลายไม้ เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสัมผัสธรรมชาติให้กับพื้นที่ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้กับผนังด้านหลักของห้อง จะช่วยสร้างจุดเด่นที่มีมิติและดูมีชีวิต เสริมด้วยโซฟาขนาดใหญ่ในโทนสีเทาเข้มหรือดำด้าน ซึ่งให้ความรู้สึกมั่นคง สุขุม และทันสมัย ทำให้บรรยากาศของห้องดูนิ่งแต่หนักแน่น หากตกแต่งเพิ่มเติมด้วยพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์จาก Engineered Wood สีเข้มหรือกลาง ๆ ก็จะช่วยเชื่อมโยงองค์ประกอบของไม้และโทนสีในห้องให้กลมกลืนลงตัว สร้างความรู้สึกอบอุ่นแต่ยังคงความโมเดิร์นอย่างมีระดับ
9.สี Grey Ash – Engineered Wood
โทนสี: เทาไม้ธรรมชาติ
สไตล์แนะนำ: Modern Minimal / Japandi
เหมาะกับห้อง: ห้องน้ำ / ห้องนอนมินิมอล
การตกแต่ง: การตกแต่งห้องด้วยผนังสีขาวสะอาดหรือเบจอ่อนเป็นพื้นหลังหลัก ช่วยให้ห้องดูกว้าง โปร่ง และสะอาดตา เหมาะสำหรับสไตล์มินิมอลหรือโมเดิร์นที่ต้องการความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ในรายละเอียด เมื่อนำเฟอร์นิเจอร์ที่มีโครงเหล็กสีดำด้านเข้ามาประกอบ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวาง จะช่วยเติมความคมและความชัดเจนให้กับมุมต่าง ๆ ของห้อง ขณะเดียวกันการผสมผสานกับไม้ยางพารา ซึ่งมีสีโทนอ่อนและลายไม้ธรรมชาติ จะช่วยลดความแข็งของเหล็ก และเพิ่มความอบอุ่นนุ่มนวลให้กับภาพรวมของห้อง โดยสามารถเลือกใช้ Engineered Wood สำหรับพื้นหรือชิ้นเฟอร์นิเจอร์หลัก เพื่อคงคอนเซปต์เรียบ ง่าย และใช้วัสดุอย่างชาญฉลาดในพื้นที่อยู่อาศัย
10. สี Prado – Engineered Wood
โทนสี: น้ำตาลดำอมแดง
สไตล์แนะนำ: Urban Elegant / Heritage
เหมาะกับห้อง: ห้องอ่านหนังสือ / โซนต้อนรับแขก
การตกแต่ง: ตกแต่งด้วยของทองเหลือง หรือหนังแท้ การตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เชอร์รี่หรือไม้มะฮอกกานี จะมอบบรรยากาศที่หรูหรา อบอุ่น และคลาสสิก ด้วยโทนสีน้ำตาลแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของไม้แท้ ทั้งยังมีลายไม้ที่ละเอียดและดูมีมิติ เมื่อนำมาทำเป็นโต๊ะ ตู้ หรือชั้นวาง จะกลายเป็นจุดเด่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ยิ่งถ้าเสริมด้วยของตกแต่งทองเหลือง เช่น โคมไฟ กรอบรูป หรือมือจับ จะช่วยเพิ่มความวินเทจแบบสง่างามให้กับพื้นที่ และหากใช้เบาะหรือของตกแต่งจากหนังแท้ ไม่ว่าจะเป็นสีเข้มหรือสีคาราเมล ก็จะยิ่งเติมความลุ่มลึกและสัมผัสของวัสดุธรรมชาติให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกพื้นหรือผนังจาก Engineered Wood โทนเข้ม เพื่อคุมโทนให้กลมกลืน และยกระดับห้องให้ดูมีรสนิยมในแบบที่ไม่ซ้ำใคร
การเลือกสี พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบ แต่ยังเป็นการสะท้อนตัวตนและบรรยากาศที่คุณอยากให้บ้านรู้สึกได้ในทุกก้าวที่เดิน สีอ่อนให้ความโปร่งโล่ง สบายตา สีเข้มเพิ่มมิติและความหรูหรา ส่วนโทนธรรมชาติก็สร้างความอบอุ่นและสมดุลได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะรักสไตล์มินิมอล คลาสสิก หรือโมเดิร์น พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทุกแบบ ทุกห้อง และทุกจังหวะของชีวิต
ref : https://www.cafloordesign.com/2024/02/29/most-popular-engineered-wood-floor-colors/
