ไม้ต่างประเทศ ที่นิยม ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ในไทย
อยากรู้ไหมว่า ไม้ต่างประเทศ ชนิดไหนบ้างที่นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ในไทย? ไม้แต่ละประเภทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสีสัน ลวดลาย และความทนทาน บางชนิดให้ความรู้สึกหรูหรา คลาสสิก บางชนิดเหมาะกับงานมินิมอล โมเดิร์น หรือสไตล์วินเทจ ถ้าคุณกำลังมองหาไม้ที่ใช่สำหรับเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง หรือบิวท์อิน แล้วอยากรู้ว่า ไม้แต่ละชนิดมีจุดเด่นอะไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ไม้ต่างประเทศ ที่นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ในไทย
1. ไม้วอลนัท (Walnut Wood)

คุณสมบัติ
- เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีเข้มตั้งแต่น้ำตาลเข้มไปจนถึงดำ
- มีลายไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ หรูหรา และดูพรีเมียม
- ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี
- มีความหนาแน่นสูงและทนทานต่อปลวก
การใช้งาน
- โต๊ะอาหาร โต๊ะทำงาน – ด้วยสีเข้มและความแข็งแรงสูง ไม้วอลนัทเหมาะกับการทำโต๊ะที่ต้องการความทนทานและมีลุคหรูหรา
- ตู้ไม้ ตู้โชว์ ชั้นวางของ – ไม้วอลนัทมีความทนทานและสามารถขัดเงาให้ดูหรูหราได้ เหมาะกับตู้หนังสือและเฟอร์นิเจอร์ห้องนั่งเล่น
- เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินระดับไฮเอนด์ – นิยมใช้ตกแต่งภายในบ้านและอาคารสำนักงานที่ต้องการความพรีเมียม
- พื้นไม้จริง (Solid Wood Flooring) – สีเข้มช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและหรูหราให้กับบ้าน
ข้อเสีย:
- ราคาสูงกว่าหลายชนิด
- อาจซีดจางเมื่อสัมผัสแสงแดดโดยตรง ต้องเคลือบสารกัน UV
2.ไม้โอ๊ก (Oak Wood)

คุณสมบัติ
- มีสองชนิดหลัก โอ๊กแดง (Red Oak) และ โอ๊กขาว (White Oak)
- แข็งแรง ทนต่อแรงกดและแรงกระแทกสูง
- ลายไม้ชัดเจน สร้างบรรยากาศอบอุ่น
- ทนทานต่อความชื้นมากกว่าไม้บางชนิด
การใช้งาน
- โต๊ะอาหาร โต๊ะประชุม – รองรับน้ำหนักได้ดีและทนทานต่อการใช้งานหนัก
- ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ บิวท์อิน – สีธรรมชาติของไม้โอ๊กให้ความรู้สึกคลาสสิก
- พื้นไม้โอ๊ก (Engineered หรือ Solid Wood Flooring) – มีความแข็งแรงมาก ใช้งานได้ยาวนาน
- เฟอร์นิเจอร์คาเฟ่ หรือร้านอาหาร – ให้ลุคธรรมชาติ แข็งแรง รองรับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ
ข้อเสีย:
- น้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
- หากไม่ได้เคลือบกันน้ำดีพอ อาจดูดซับความชื้นและบวมหรือแตกได้
3. ไม้แอช (Ash Wood)

คุณสมบัติ
- มีสีอ่อน เนื้อไม้ละเอียด ลายไม้ชัดเจน
- แข็งแรงแต่น้ำหนักเบากว่าโอ๊กและวอลนัท
- ทำสีได้ง่าย ขัดเงาแล้วสวยงาม
- ทนแรงกระแทกได้ดี
การใช้งาน
- เฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอล & สแกนดิเนเวียน – เนื้อไม้สีอ่อน เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย ดูอบอุ่น
- เก้าอี้ โต๊ะขนาดเล็ก – น้ำหนักเบา แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี
- เตียงนอน และเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน – สีอ่อนช่วยสร้างบรรยากาศสงบ และไม้แอชให้สัมผัสอบอุ่น
ข้อเสีย:
- ไม่ทนปลวก ต้องเคลือบกันแมลง
- ต้องใช้สารกันชื้นเพื่อป้องกันไม้บวม
4. ไม้บีช (Beech Wood)

คุณสมบัติ
- เนื้อไม้สีอ่อนอมชมพู ดูเรียบหรู
- แข็งแรงและยืดหยุ่นสูง เหมาะกับงานไม้ดัดโค้ง
- ขัดทำสีง่าย สามารถเคลือบเงาเพิ่มได้
การใช้งาน
- เก้าอี้ไม้ดัด โครงเตียง โต๊ะรับแขก – ความยืดหยุ่นของไม้บีชช่วยให้ขึ้นรูปได้ง่าย
- เฟอร์นิเจอร์เด็ก – สีอ่อนและความปลอดภัยของไม้บีชเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์เด็ก
- งานตกแต่งภายใน – นิยมใช้ในคาเฟ่และร้านอาหารที่ต้องการลุคโมเดิร์น
ข้อเสีย:
- ไม่ทนชื้น อาจเกิดเชื้อราได้
- หากไม่ได้เคลือบดีพอ อาจโดนปลวกทำลาย
5. ไม้เมเปิล (Maple Wood)

คุณสมบัติ
- มีสีขาวนวล ลายไม้ละเอียด
- แข็งแรงมาก ทนทานต่อแรงขีดข่วน
- ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน
การใช้งาน
- โต๊ะไม้จริง เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง – ใช้ทำโต๊ะประชุม โต๊ะทำงาน พื้นไม้
- เครื่องครัวไม้ – ทนทานต่อรอยขีดข่วนและความชื้น
- บิวท์อินตกแต่งภายใน – ให้ผิวสัมผัสเรียบหรู ดูคลาสสิก
ข้อเสีย:
- ราคาสูงเมื่อเทียบกับไม้ทั่วไป
- อาจเปลี่ยนสีเมื่อสัมผัสแสงแดดนาน
6. ไม้เชอร์รี่ (Cherry Wood)

คุณสมบัติ
- สีแดงอมส้ม ลายไม้ละเอียด
- เมื่อใช้งานไป สีจะเข้มขึ้นเองตามธรรมชาติ
- แข็งแรงแต่ทำงานง่าย
การใช้งาน
- เฟอร์นิเจอร์คลาสสิก & วินเทจ – สีของไม้ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ดูหรูหรา
- ตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้า – ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินในบ้าน
- โต๊ะรับแขก และเก้าอี้ไม้จริง – สีของไม้ช่วยให้ดูอบอุ่น
ข้อเสีย:
- ไม้ค่อนข้างนิ่ม เกิดรอยได้ง่าย
7. ไม้สน (Pine Wood)

คุณสมบัติ
- น้ำหนักเบา ขัดและทำสีง่าย
- สีอ่อน ลายไม้ดูธรรมชาติ
- ราคาถูกกว่าหลายชนิด
การใช้งาน
- เฟอร์นิเจอร์คาเฟ่ ร้านอาหาร – ให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
- โต๊ะไม้สน ชั้นวางของ – งาน DIY และเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ
- บิวท์อินตกแต่งภายใน – เหมาะกับบ้านสไตล์ลอฟต์และญี่ปุ่น
ข้อเสีย:
- ไม่ทนปลวกและความชื้น ต้องเคลือบกันแมลง
8.ไม้มะฮอกกานี (Mahogany Wood)

คุณสมบัติ
- สีแดงเข้มถึงน้ำตาลแดง ให้ลุคหรูหราและคลาสสิก
- ลายไม้ละเอียด มีมิติ และสีเข้มขึ้นเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
- แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี
- ป้องกันปลวกและแมลงได้ตามธรรมชาติ
- ทนต่อความชื้นและอากาศร้อนชื้นของไทย
การใช้งาน
- โต๊ะไม้จริงระดับพรีเมียม – โต๊ะอาหาร โต๊ะทำงาน โต๊ะรับแขกที่ดูหรูหรา
- ตู้ไม้ และชั้นวางของ – เหมาะกับตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของระดับไฮเอนด์
- เตียงนอนไม้แท้ – แข็งแรงทนทาน ให้บรรยากาศอบอุ่น
- เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน – ใช้ตกแต่งภายในบ้าน โรงแรม และร้านอาหารหรู
- ประตูไม้แท้ และวงกบ – ทนทาน ใช้งานได้นานหลายสิบปี
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าหลายชนิด
- ต้องเคลือบกันความชื้นและขัดเงาเป็นระยะเพื่อรักษาสีไม้
- มีน้ำหนักมาก อาจเคลื่อนย้ายลำบาก
9.ไม้ป็อปลาร์ (Poplar Wood)

คุณสมบัติ
- ไม้เนื้ออ่อน น้ำหนักเบา ขัดแต่งและทำสีได้ง่าย
- สีเนื้อไม้อ่อน ตั้งแต่ขาวครีมไปจนถึงเหลืองอ่อน บางครั้งมีลวดลายสีเขียวหรือม่วงอ่อน
- ลายไม้ละเอียด เนื้อไม้แน่น เรียบเนียน ไม่มีเสี้ยนมาก
- แปรรูปง่าย เลื่อย ตัด และขึ้นรูปได้สะดวก
- ดูดซับสีและสารเคลือบผิวได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการทำสีเพิ่มเติม
การใช้งาน
- เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน – นิยมใช้เป็นวัสดุภายในเนื่องจากขัดแต่งง่ายและราคาประหยัด
- ตู้ไม้ ชั้นวางของ – เหมาะสำหรับทำตู้เสื้อผ้า ชั้นหนังสือ เฟอร์นิเจอร์สไตล์เรียบง่าย
- งานตกแต่งภายในและประตูไม้ – ใช้ทำบานประตู วงกบ หรืองานไม้ในอาคาร
- วัสดุปิดผิว (Veneer) – ใช้ปิดผิวเฟอร์นิเจอร์เพื่อเพิ่มความสวยงามและลดต้นทุน
- ไม้โครงสร้างเฟอร์นิเจอร์ – ใช้เป็นโครงเฟอร์นิเจอร์หรือแผ่นรองโครงสร้างก่อนทำสี
ข้อเสีย
- ไม่ทนต่อปลวกและแมลง ต้องเคลือบสารกันแมลง
- ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก เพราะดูดซับความชื้นได้ง่าย
- เป็นไม้เนื้ออ่อน อาจเกิดรอยขีดข่วนและบุบง่ายเมื่อรับแรงกระแทกสูง
วิธีเลือกไม้ให้เหมาะสมกับงานเฟอร์นิเจอร์ของตัวเอง
การเลือกไม้ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ คุณภาพ ความแข็งแรง ความทนทาน และความสวยงาม ของเฟอร์นิเจอร์ การเลือกไม้ผิดประเภทอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์มีอายุการใช้งานสั้น หรือไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ดังนั้น เราควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกไม้ให้เหมาะสม
1. เลือกไม้ตามประเภทของงานเฟอร์นิเจอร์
ไม้แต่ละชนิดเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก
1.1 เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood Furniture) – แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน
เหมาะกับ: โต๊ะไม้จริง ตู้เสื้อผ้า เตียง บิวท์อิน พื้นไม้
ตัวเลือกไม้: ไม้วอลนัท, ไม้โอ๊ค, ไม้เชอรี่, ไม้เมเปิ้ล, ไม้มะฮอกกานี
ข้อดี: แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี อายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสีย: ราคาสูงกว่ากลุ่มไม้เนื้ออ่อน
1.2 เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน (Softwood Furniture) – น้ำหนักเบา ขัดแต่งง่าย
เหมาะกับ: เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน งาน DIY เฟอร์นิเจอร์วินเทจ
ตัวเลือกไม้: ไม้สน, ไม้บีช, ไม้แอช, ไม้ป็อปลาร์
ข้อดี: ขัดแต่งและทำสีได้ง่าย ราคาถูกกว่ากลุ่มไม้เนื้อแข็ง
ข้อเสีย: ไม่ทนทานเท่าไม้เนื้อแข็ง ต้องเคลือบกันปลวก
1.3 ไม้แปรรูปและไม้สังเคราะห์ – ทางเลือกที่ทนต่อสภาพแวดล้อม
เหมาะกับ: เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน, เคาน์เตอร์ครัว, งานที่ต้องการกันชื้น
ตัวเลือกไม้: ไม้ HMR, ไม้ MDF, ไม้ปาติเกิล, ไม้อัดลามิเนต
ข้อดี: กันน้ำและความชื้นได้ดี ใช้ได้ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเปียก
ข้อเสีย: ไม่แข็งแรงเท่าไม้แท้
2. เลือกไม้ตามสไตล์การตกแต่ง
การเลือกไม้ที่เข้ากับสไตล์ของบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ช่วยให้ดีไซน์โดยรวมดูสวยงามและกลมกลืน
- ลักซ์ชัวรี & คลาสสิก – เน้นสีเข้มและลายไม้หรูหรา
แนะนำ: ไม้วอลนัท, ไม้เชอรี่, ไม้มะฮอกกานี
- สแกนดิเนเวียน & วินเทจ – โทนไม้ธรรมชาติ อบอุ่น
แนะนำ: ไม้โอ๊ค, ไม้สน, ไม้แอช
- อินดัสเทรียล & ลอฟต์ – เน้นไม้สีเข้ม ผิวสัมผัสดิบ
แนะนำ: ไม้วอลนัท, ไม้มะฮอกกานี
3. เลือกไม้ตามการใช้งานและสภาพแวดล้อม
- พื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักมาก – เช่น โต๊ะไม้จริง ตู้เสื้อผ้า โครงเตียง
ควรเลือก: ไม้โอ๊ค, ไม้วอลนัท, ไม้เชอรี่
- พื้นที่เสี่ยงต่อความชื้น – เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
ควรเลือก: ไม้มะฮอกกานี, ไม้เมเปิ้ล หรือไม้ HMR
- เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง – เช่น ชุดโต๊ะสนาม ประตูไม้
ควรเลือก: ไม้โอ๊ค, ไม้มะฮอกกานี, ไม้สัก
- พื้นที่ที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย – เช่น โต๊ะกลาง เก้าอี้
ควรเลือก: ไม้สน, ไม้บีช, ไม้แอช,ไม้ป็อปลาร์
หากคุณกำลังมองหา ไม้คุณภาพสูง สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์หรือบิวท์อิน วิวัฒน์ชัยค้าไม้ มีไม้ต่างประเทศให้เลือกมากมาย เช่น
- ไม้โอ๊ค – เนื้อไม้ยืดหยุ่น ผิวละเอียด กักเก็บความอุ่นได้ดี
- ไม้บีช – สีอมส้มปนเหลือง เนื้อไม้ละเอียด ลายน้อย ดูเรียบหรู
- ม้เชอรี่ – เนื้อแข็ง สีแดงน้ำตาล คล้ายไม้สักแต่ราคาแพงกว่า
- ไม้วอลนัท – ไม้สีเข้ม หายาก นิยมใช้เป็นวัสดุปิดผิวเฟอร์นิเจอร์
- ไม้เมเปิ้ล – เนื้อไม้สีขาว ลายไม้ชัด นิยมใช้ปูพื้นเพื่อเพิ่มความสว่าง
- ไม้แอช – คล้ายไม้โอ๊คแต่ราคาย่อมเยา สีเหลืองขาว นิยมทำโต๊ะไม้
วิวัฒน์ชัยค้าไม้ ศูนย์รวมไม้คุณภาพ พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องวัสดุและการเลือกไม้ให้เหมาะกับงานของคุณ สนใจสอบถามเพิ่มเติม แวะชมสินค้าที่ร้านได้เลย!
- คุณภาพส่งตรงจากโรงงาน
- คัดเกรดไม้พรีเมียม แข็งแรง ทนทาน
- เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ งานบิวท์อิน และงานตกแต่งทุกประเภท
Contact :
Social Media Link : https://linktr.ee/VkFloor
Google Map: https://maps.app.goo.gl/9SUJ3URFxuuzTVc19
Call : 081-808-8283, 081-831-9291