ในยุคที่ “วัสดุรักษ์โลก” กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบบ้าน พื้นก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่เจ้าของบ้านยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น หนึ่งในวัสดุที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือ พื้น SPC (Stone Plastic Composite) ซึ่งโดดเด่นด้วยคุณสมบัติ กันน้ำ 100%, ทนรอย, และไม่ต้องใช้ไม้จริง หลายคนจึงตั้งคำถามว่า… “พื้น SPC ถือเป็นวัสดุรักษ์โลกจริงหรือ?” บทความนี้จะพาเจาะลึกตั้งแต่โครงสร้าง ส่วนผสม ไปจนถึงมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คุณเลือกพื้นได้อย่างรู้จริงและสบายใจทั้งต่อบ้านและโลก
1.ทำไมเรื่องสิ่งแวดล้อมถึงสำคัญในยุค 2025
ในปี 2025 “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป แต่กลายเป็น “มาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัย” ที่ทั้งเจ้าของบ้าน นักออกแบบ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างให้ความสำคัญอย่างจริงจัง แนวคิด Green Building, ESG (Environmental, Social, Governance) และ Carbon Neutral เข้ามามีบทบาทโดยตรงต่อการเลือกวัสดุในบ้าน โดยเฉพาะวัสดุปูพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ใช้สอยส่วนใหญ่ของบ้าน
เจ้าของบ้านยุคใหม่จึงมองหาวัสดุที่ ปลอดภัยต่อสุขภาพ (Low VOCs) ไม่มีสารระเหยหรือฟอร์มัลดีไฮด์ และสามารถ รีไซเคิลได้หลังหมดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ พื้นไวนิล หรือพื้น SPC ซึ่งต่างพัฒนาเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต การลดของเสียจากการตัดไม้จริง และการรับรองมาตรฐานระดับโลกอย่าง FloorScore, CE, หรือ ISO 14001
2.กระเบื้องยาง SPC ทำมาจากอะไร ถือว่า Eco จริงไหม?
พื้น SPC หรือ Stone Plastic Composite เป็นวัสดุปูพื้นยุคใหม่ที่เกิดจากการผสมระหว่าง หินปูนธรรมชาติ (Calcium Carbonate) กับ พอลิเมอร์ (PVC เกรดบริสุทธิ์) โดยใช้กระบวนการอัดร้อน (Hot Press Technology) ให้เกิดแผ่นพื้นแข็งแรง เรียบเนียน และคงรูปได้ดีโดยไม่ต้องใช้กาวที่ปล่อยสารระเหย (No Glue Installation)
ด้วยโครงสร้าง 5 ชั้น ตั้งแต่ UV Coating ป้องกันรอย, Wear Layer กันรอยขีดข่วน, Printing Layer ลายไม้สมจริง, SPC Core กันน้ำ 100%, และ Underlay ลดเสียง ทำให้พื้นชนิดนี้มีความแข็งแรง กันชื้น และทนรอยได้ดีโดยแทบไม่ต้องดูแลมาก
ในมุมของสิ่งแวดล้อม SPC ถือว่าเป็นวัสดุที่ Eco-Friendly ระดับหนึ่ง เพราะ
ผลิตจากวัสดุที่ รีไซเคิลได้บางส่วน และไม่ต้องใช้ไม้จริง ช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า
ปลอดสาร ฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde-Free) และ ปล่อยสารระเหยต่ำ (LOW VOC) จึงปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย
ใช้วิธีติดตั้งระบบ Click Lock ที่ไม่ต้องใช้กาว ลดสารเคมีตกค้างในบ้าน
กล่าวได้ว่า พื้น SPC อาจไม่ “รักษ์โลก 100%” แต่ถือเป็น วัสดุปูพื้นที่บาลานซ์ระหว่างความยั่งยืน และ ความทนทานได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน
3.พื้น SPC ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไร
ไม่ใช้ไม้จริงในการผลิต
โครงสร้างของพื้น SPC ทำจากหินปูนธรรมชาติและโพลิเมอร์เกรดคุณภาพสูง (Virgin PVC) จึงช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า และไม่ทำลายระบบนิเวศอายุการใช้งานยาวนาน 15–25 ปี
ยิ่งพื้นมีอายุการใช้งานยาว ก็ยิ่งช่วยลดของเสียจากการรื้อเปลี่ยนพื้นบ่อย ๆ ทำให้เกิดขยะน้อยลงและลดการใช้พลังงานในการผลิตใหม่ผลิตด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
โรงงานผู้ผลิตพื้น SPC ชั้นนำ รวมถึงแบรนด์ที่ VK Floor คัดสรร ใช้กระบวนการผลิตที่ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่น E1, FloorScore, และ CE ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและควบคุมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นวัสดุรีไซเคิลได้บางส่วน
พื้น SPC สามารถนำกลับไปรีไซเคิลเพื่อนำวัตถุดิบกลับมาใช้ใหม่ได้บางส่วน ช่วยลดของเสียในระยะยาว
4.ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ พื้น SPC เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ใช่ “Green 100%”
แม้พื้น SPC (Stone Plastic Composite) จะถือเป็นวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมในหลายด้าน เช่น ไม่ใช้ไม้จริง ลดการตัดไม้ทำลายป่า และมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว พื้น SPC ยังไม่ใช่วัสดุที่เป็น “Green 100%” เพราะยังคงมีส่วนผสมของ PVC (Polyvinyl Chloride) ซึ่งเป็นพลาสติกสังเคราะห์ที่ต้องอาศัยพลังงานและสารเคมีในกระบวนการผลิต
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ผลิตชั้นนำหลายรายได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ Virgin PVC ที่ปลอดสารฟอร์มัลดีไฮด์, การนำของเสียกลับมารีไซเคิล และการควบคุมการปล่อยสารระเหย (VOC) ให้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล เช่น FloorScore®, CE, และ ISO 14001
ดังนั้น หากต้องการเลือกพื้น SPC ที่ “รักษ์โลกจริง” ควรเลือก แบรนด์ที่มีใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อมชัดเจน และมีระบบจัดการของเสียที่ยั่งยืน เช่นเดียวกับ VK Floor ที่คัดสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานระดับโลก เพื่อให้ทั้งบ้านของคุณและโลกของเราปลอดภัยไปพร้อมกัน
