รีโนเวทห้องด้วย กระเบื้องยางSPC ต้องระวัง!! ปูทับวัสดุอะไรได้บ้าง ตรวจสอบพื้นเดิมอย่างไร

ติดตั้ง กระเบื้องยางSPC ต้องระวัง!! รวมสิ่งที่ต้องทำก่อนปูพื้นSPC

รีโนเวทห้องด้วย กระเบื้องยางSPC ต้องระวัง!! ปูทับวัสดุอะไรได้บ้าง ตรวจสอบพื้นเดิมอย่างไร

         การรีโนเวทห้องให้ดูใหม่ สวย สะอาด และทันสมัยมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องทุบ รื้อ หรือใช้งบก่อสร้างจำนวนมากเสมอไป เพราะในปัจจุบันมีวัสดุใหม่ที่ช่วยให้การรีโนเวทง่ายขึ้นหลายเท่า หนึ่งในพระเอกตัวจริงของงานรีโนเวทคือ “กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite)” ที่สามารถติดตั้งทับพื้นเดิมได้โดยไม่ต้องรื้อ ไม่ต้องฉาบใหม่ เหมาะทั้งกับเจ้าของบ้าน คอนโด ไปจนถึงผู้รับเหมาที่ต้องการทางเลือกเร็ว ง่าย และสวย

แต่เดี๋ยวก่อน! แม้ โครงสร้างของกระเบื้องยางSPC จะโดดเด่น และ  ติดตั้งง่าย แต่หากละเลยขั้นตอนสำคัญ โดยเฉพาะการตรวจเช็กพื้นเดิม อาจกลายเป็นปัญหายุ่งยากในภายหลัง เช่น พื้นโก่งตัว แผ่นแตก เสียงดัง หรือใช้ไม่ถึงปีต้องรื้อใหม่

ในบทความนี้ VK Floor จะพาคุณไปรู้จัก 6 สิ่งที่ต้องทำให้ครบ ก่อนปู SPC ทับพื้นเดิม เพื่อให้การรีโนเวทของคุณออกมาสวย ทน และคุ้มค่าทุกตารางเมตร

1.ตรวจสอบสภาพพื้นเดิม

ขั้นตอนการติดตั้งกระเบื้องยาง SPC เริ่มจากการเตรียมพื้นผิวและปูแผ่นโฟมรองพื้น

 

ก่อนจะลงมือปูกระเบื้องยาง SPC สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตรวจสอบพื้นหน้างานให้เรียบและได้ระดับ อย่างแท้จริง กล่าวคือ หากพื้นมีลักษณะเป็นลอน เอียง หรือแตกเป็นแอ่ง จะส่งผลให้แผ่น SPC คลิกล็อกไม่สนิท เกิดเสียงดัง หรือพื้นโก่งในบางจุด วิธีตรวจสอบง่ายๆ คือให้ลองใช้ไม้ระดับน้ำหรือไม้ยาวทาบไปตามพื้น ถ้าพื้นเอียงหรือโก่งขึ้นมา จะเห็นช่องว่างระหว่างไม้อยู่ชัดเจน อีกวิธีหนึ่งคือเดินบนพื้นด้วยรองเท้าแข็ง เพื่อฟังเสียงดังผิดปกติ เช่น “กรอบแกรบ” หรือ “ปั๊บปั๊บ” ตรงจุดใดจุดหนึ่ง

หากตรวจพบว่า:

  • พื้นเป็นคลื่นหรือเอียง

  • กระเบื้องเดิมร่อนหรือยาแนวหลุด

  • พื้นปูนมีรอยแตกหรือหลุมบ่อ

แนวทางแก้ไข คือใช้ปูนปรับระดับ หรือปูนกาวฉาบเพื่อปรับพื้นให้อยู่ในเกณฑ์ “เรียบเสมอ” ภายใน Tolerance ±2 มม. ยิ่งพื้นเดิมเป็นพื้นกระเบื้องเก่า ควรเช็กว่ากระเบื้องแต่ละแผ่นแน่นหรือไม่ ถ้ามีปัญหาให้รื้อกระเบื้องเก่าออกก่อนเสมอ ส่วนพื้นไม้จริงที่ลอยตัวหรือโก่ง ควรซ่อมแซมหรือรื้อเปลี่ยนเป็นพื้นปูนเรียบจะดีที่สุด

ข้อควรระวัง:
อย่าปล่อยให้พื้นเป็นลอนหรือเอียงเหลือเกิน แม้กระเบื้อง SPC จะมีความแข็ง แต่ไม่สามารถปรับตัวกับพื้นอันบิดเบี้ยวได้เหมือนวัสดุที่ยืดหยุ่น เช่น พรม หรือพื้นยาง หากปล่อยผ่านไป อาจทำให้เกิดพื้นที่เป็นแอ่ง แผ่นกระเบื้องโก่งแตก และเสียงดังขณะเดินใช้งาน

 

2.ตรวจสอบสภาพพื้นเดิมให้ละเอียด

ในการรีโนเวท พื้นเดิมอาจมีร่องรอยการใช้งานสะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ที่โก่ง พื้นกระเบื้องที่เริ่มร่อน หรือพื้นซีเมนต์ที่ไม่เรียบ หากคุณปู SPC ลงไปโดยไม่เช็กให้ดี มีโอกาสสูงที่แผ่นจะคลิกล็อกไม่สนิท เกิดช่องโหว่ เสียงดัง และพื้นยกในอนาคต ให้เริ่มจากการเดินสำรวจพื้นที่ พร้อมใช้ไม้ระดับ หรือไม้ยาวทาบตามแนวพื้น ถ้าพบว่ามีพื้นที่เป็นลอน พื้นเอียง หรือมีรอยยุบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า “ต้องปรับก่อนปู”

  • พื้นไม้เก่า: อาจมีการยืด-หดตัวจากอุณหภูมิ ควรตรวจสอบแน่นหนา ไม่ลอย

  • พื้นกระเบื้อง: ควรแน่น ไม่ร่อน และไม่มีรอยร้าวลึก

  • พื้นปูน: ต้องไม่มีฝุ่น ไม่แตกร้าว และไม่เป็นโพรงใต้ผิว

หนึ่งในเหตุผลที่เจ้าของบ้านเลือกรีโนเวทด้วย SPC คือสามารถปูทับพื้นเดิมได้เลย ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียงบปูน ไม่ต้องทุบรื้อ แต่ก็ใช่ว่าพื้นทุกประเภทจะปูทับได้แบบไม่มีปัญหา พื้นที่สามารถปูทับได้:

  • กระเบื้องเซรามิกแน่น ไม่หลุดร่อน

  • พื้นไม้ลามิเนตที่ติดแน่น และเรียบสนิท

  • พื้นซีเมนต์ขัดมัน หรือพื้นปูนที่ไม่มีรอยร้าว

พื้นที่ควรรื้อก่อน:

  • พรม หรือพื้นไวนิลบาง ๆ ที่มีความยืดหยุ่นสูง

  • พื้นไม้จริงที่โก่ง ยืดตัว หรือมีเสียงดัง

  • กระเบื้องร่อน ยาแนวหลุด หรือมีโพรงใต้แผ่น

ข้อควรระวัง: อย่าปูทับพื้นเดิมเพียงเพราะ “ดูเผิน ๆ แล้วเรียบ” ควรเคาะฟังเสียง วัดระดับ และขอให้ทีมช่างตรวจสอบอย่างละเอียด หากปูทับผิดพื้น เสี่ยงต่อการเสียค่ารื้อถอนและติดตั้งใหม่ในภายหลัง

 

3.เลือกกระเบื้อง SPC ให้เหมาะกับการใช้งาน

ติดตั้งกระเบื้องยาง SPC ขั้นตอนที่ 3-4

3.1 กวาดและดูดฝุ่น

แรกสุดให้ใช้ไม้กวาดขนนุ่มกวาดพื้นไล่เศษปูน เศษไม้ หรือเศษขยะที่อาจหลงเหลืออยู่ใต้พื้น จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดซอกมุมให้หมดจด

3.2 เช็ดคราบต่างๆ

ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดพื้นอีกครั้ง เพื่อขจัดคราบน้ำมัน คราบกาว หรือคราบฝุ่นที่กวาดออกไม่หมด เพราะคราบเหล่านี้จะทำให้ผิวกระเบื้อง SPC ไม่แนบกับพื้น ก่อให้เกิดเสียงลั่น หรือค่าแรงคลิกล็อกลดลง

ข้อควรระวัง:
หลังจากการติดตั้งควร ศึกษาวิธีการดูแลทำความสะอาดกระเบื้องยางSPC ด้วยยกตัวอย่างเช่น อย่าใช้น้ำยาเช็ดพื้นที่มีสารกัดกร่อนหรือปริมาณน้ำมากเกินไปเด็ดขาด เพราะจะทำให้ชั้นเคลือบผิวของ กระเบื้องยางSPC เสื่อมสภาพเร็ว และอาจเกิดเลอะจากการแห้งช้า โดยสรุป การทำความสะอาดพื้นก่อนติดตั้ง SPC ต้องละเอียด ตั้งแต่การกวาด การดูดฝุ่น ยันการเช็ดด้วยผ้าหมาด เพื่อให้พื้นพร้อมรับน้ำหนักและล็อกแผ่นได้สนิทที่สุด

 

4.วัดขนาดพื้นที่อย่างแม่นยำ

การวัดขนาดพื้นที่ดูเหมือนเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่กลับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ “งานติดตั้งกระเบื้องยาง SPC” สำเร็จลุล่วงหรือพังทลายได้ หากวัดผิดแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจตามมาด้วยปัญหาใหญ่ ดังนี้

เหตุผลที่ต้องวัดหลายจุด:
ห้อง 1 ห้องไม่ได้มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสมบูรณ์แบบเสมอไป บางครั้งผนังอาจเบี้ยวเล็กน้อย หรือจุดที่พื้นเอียงดูไม่สะดุดตา ทำให้คำนวณพื้นที่ผิดพลาดได้ จึงควรวัด “ความกว้างและความยาว” หลายจุด พร้อมจดลงกระดาษหรือใช้แอปมือถือช่วยคำนวณ

การคำนวณจำนวนแผ่น:

  1. นำ “ค่าพื้นที่ทั้งหมด” (กว้าง × ยาว) มาคำนวณหาราค้าในหน่วย ตร.ม.

  2. เผื่อเศษเผื่อเหลือ

    • ถ้าปูลายตรง (Parallel Lay) ให้เผื่อ +5–10%

    • ถ้าปูลายเฉียง (Diagonal) หรือแบบลายน้ำตก (Herringbone) ให้เผื่อ +10–15%

ตัวอย่างเช่น ห้องกว้าง 4.5 ม. ยาว 5.2 ม. พื้นที่ทั้งหมด = 23.4 ตร.ม.

  • ปูลายตรง → ต้องสั่ง 23.4 × 1.05 ≈ 24.57 ตร.ม. → ปัดเป็น 25 ตร.ม.

  • ปูลายเฉียง → ต้องสั่ง 23.4 × 1.15 ≈ 26.91 ตร.ม. → ปัดเป็น 27 ตร.ม.

ข้อควรระวัง:
หากวัดผิดแล้วสั่งไม่พอ อาจต้องรอสินค้าเพิ่ม เสียเวลาหน้างาน และเสี่ยงแตกต่างสีเนื่องจากอาจสั่งคนละล็อต (Batch) กัน แต่ถ้าสั่งเกิน จะเสียทั้งวัสดุและงบประมาณโดยไม่จำเป็น สรุปคือ “วัดพื้นที่อย่างละเอียดและเผื่อเศษเผื่อเหลือพอเหมาะ” จะช่วยให้การติดตั้ง SPC คล่องตัว ไม่ต้องติดขัดระหว่างงาน

 

5.เลือกกระเบื้อง SPC ให้เหมาะกับการใช้งาน

ขั้นตอนการติดตั้งกระเบื้องยาง SPC ขั้นที่ 5-6

ปัจจัยสำคัญในการเลือก SPC

  • ความหนาของแผ่น (Thickness):
    หากใช้งานในห้องที่เดินไม่หนัก อาจเลือกความหนา 4 มม. ก็พอ แต่หากเป็นห้องนั่งเล่นหรือโถงทางเดินที่มีคนเดินเยอะ ควรเลือก 5–6 มม. เพื่อความคงทนและล็อกที่แข็งแรงยิ่งขึ้น

  • ชั้นเคลือบผิว (Wear Layer):
    ชั้นเคลือบผิว (Wear Layer) คือชั้นที่รับการขีดข่วนโดยตรง ควรเลือกที่มีหน้ากว้างอย่างน้อย 0.3 มม. สำหรับใช้งานทั่วไป

    • พื้นบ้านทั่วไป → Wear Layer ≥ 0.3 มม.

    • พื้นที่ใช้งานหนักหรือเชิงพาณิชย์ → Wear Layer ≥ 0.5 มม.

  • ระบบ Click Lock:
    ระบบล็อกแผ่นแต่ละชิ้นให้เข้ากันต้องแข็งแรงและแม่นยำ เลือก SPC ยี่ห้อที่เชื่อถือได้ มีการรับประกันระยะยาว เพื่อให้ติดตั้งง่ายและแน่น ไม่หลวมเพิ่มปัญหาในระยะยาว

  • การกันน้ำ กันปลวก กันรอยขีดข่วน:
    บางรุ่นจะระบุว่าสามารถกันรอยขีดข่วนระดับ A+ หรือมีการเคลือบ UV เพิ่ม ถึงแม้ SPC จะกันน้ำโดยธรรมชาติ แต่บางพื้นที่อาจมีความชื้นสูง เช่น ห้องครัว ควรเลือกรุ่นที่ผ่านมาตรฐาน FloorScore, E1 หรือ CE เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

  • ลวดลายและสี:
    ลวดลายไม้ธรรมชาติจะเพิ่มความอบอุ่นให้บ้าน ส่วนลายหินอ่อนจะให้ความหรูหรามีสไตล์

    • พื้นสีอ่อน ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับห้องขนาดเล็ก

    • พื้นสีเข้มสร้างความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องพักผ่อน

ข้อควรระวัง:
อย่าให้ “ราคา” เป็นปัจจัยเดียวในการเลือก SPC เพราะบางรุ่นราคาถูกเกินไปอาจไม่มีคุณภาพในด้านเคลือบผิว หรือโครงสร้าง Click Lock ทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง เช่น ขอบแผ่นบวมน้ำ หรือแผ่นคลิกล็อกหลุดง่าย สนใจติดตั้งกระเบื้องยางSPC ดูสินค้าได้ที่นี่เลย

 

6.ขั้นตอนการติดตั้งเบื้องต้น

หลังจากผ่านกระบวนการตรวจเช็กและเตรียมพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ก็ถึงเวลาพูดถึง “ปู SPC ให้สวย เรียบ และทนทาน” ซึ่งต่อไปนี้คือขั้นตอนเบื้องต้นพร้อมคำแนะนำที่ควรทำและข้อห้ามต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด

6.1 ปูแผ่นโฟม PE (ถ้าจำเป็น)
บางครั้งต้องใช้โฟม PE รองพื้น โดยเฉพาะพื้นที่ชั้นล่างหรือห้องที่ต้องการลดเสียงดังเวลาเดิน การปูโฟมจะช่วยให้:

  • ลดเสียงสะท้อนจากแผ่น SPC

  • ป้องกันความชื้นจากพื้นปูน

  • เพิ่มความนุ่มในกรณีที่เดินแล้วต้องการลดแรงกระแทก

ข้อควรระวัง: อย่าปูโฟมทับกันหลายชั้น หรือมีรอยยับ เพราะจะทำให้ SPC บิดเบี้ยวในระหว่างติดตั้งได้

 

6.2 เริ่มวางแผ่น SPC จากมุมห้อง

การเริ่มติดตั้งให้ง่ายที่สุด คือเลือกมุมห้องด้านใดด้านหนึ่งที่เป็นเส้นตรง แล้ววางแผ่นตามแนวให้ขอบแผ่นด้านหนึ่งติดผนังโดยเว้นช่องขอบรอบห้องไว้ประมาณ 5–8 มม. (เพื่อเผื่อการขยายตัวของวัสดุ) ขั้นตอนนี้ให้:

  • วางแนวแผ่นให้ตรงกับสถานที่ เช่น ถ้าลายไม้ ต้องให้ลายไม้ในแต่ละแผ่นต่อกันสวยงาม

  • เช็กแนวทุก 2–3 แถว ว่าไม่เบี้ยวหรือเอียง

ข้อควรระวัง: อย่าวางแผ่นชิดผนังเกินไป เพราะเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน วัสดุอาจขยายตัวจนโก่งเด้ง

 

6.3 ล็อกแผ่น SPC ด้วยระบบ Click Lock

หลังจากวางแผ่นแรกให้ตรงแล้ว ให้ใช้แรงกดเบาๆ เพื่อเชื่อมต่อกับแผ่นถัดไป แต่จริงๆ แล้วให้ใช้ “ค้อนยาง” เคาะอย่างเบามือที่ขอบแผ่น เพื่อให้แผ่นล็อกกันสนิท ไม่ควรใช้ค้อนเหล็กหรือเคาะแรงเกินไป เพราะจะก่อให้ระบบล็อกเสียหาย เช่น ขอบแผ่นแตก ระบบ Click Lock หัก

6.4. ติดตั้งบัวพื้นและตัวจบ

เมื่อปูพื้นเสร็จ ให้ติดตั้งบัวพื้น (บัวไม้หรือบัว PVC) เพื่อปิดรอยต่อระหว่างพื้นและผนัง ช่วยเพิ่มความเรียบร้อยและป้องกันฝุ่นเข้าไปใต้รอยต่อ หากไม่ติดบัว จะเห็นช่องว่างหรืออาจมีฝุ่นเข้าไปก่อตัว

ข้อควรระวัง: เลือกบัวที่มีความสูงพอดีกับความหนาของพื้น SPC หากต่ำกว่ามากเกินไป อาจเห็นขอบแผ่น หากสูงเกินไป อาจทำให้บัวติดขอบห้องไม่ติดสนิท

 

6.5 ทำความสะอาดครั้งสุดท้าย

หลังติดตั้งเสร็จ อย่าเพิ่งเดินเหยียบทันที ให้ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดฝุ่นและคราบต่างๆ ออกอย่างเบามือ พยายามอย่าใช้น้ำมากหรือใช้น้ำยาเคมีแรงๆ เพราะจะทำให้ชั้นเคลือบผิวของ SPC เสื่อมเร็ว เกิดรอยขีดข่วนง่ายขึ้น

ข้อควรระวัง: รอให้พื้นแห้งสนิทก่อนใช้งานจริง และควรใช้ฟิล์มกันรอยหรือผ้ารองเท้าขณะเดินครั้งแรก เพื่อไม่ให้ฝุ่นทรายขูดผิวหน้าของแผ่นกระเบื้อง

Reference : PREPARATION for SPC Flooring Installation


Contact :

Social Media Link : https://linktr.ee/VkFloor
Google Map : https://maps.app.goo.gl/9SUJ3URFxuuzTVc19
Call : 081-808-8283, 081-831-9291