รู้ยัง? Vinyl Allure ผ่านมาตรฐานสากลที่ทำให้พื้นของคุณปลอดภัยทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมมาตรฐานสากลไว้ในที่นี่

Table of Contents

                   ในการเลือกวัสดุปูพื้น หลายคนอาจให้ความสำคัญกับความสวยงาม ความทนทาน หรือราคาเป็นหลัก แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ ผลกระทบต่อสุขภาพของคนในบ้านและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันพื้นไวนิลถูกพัฒนาไปไกลกว่าที่เคย ไม่ใช่แค่พื้นสังเคราะห์ทั่วไป แต่ถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติ Low VOC, Phthalate Free และสามารถรีไซเคิลได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ทั้งปลอดภัยต่อครอบครัว และยังช่วยลดภาระต่อโลก บทความนี้จะพาคุณมาดูกันว่า ทำไม พื้นไวนิล Allure จึงกลายเป็นวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพ ความยั่งยืน และคุณภาพชีวิตในระยะยาว

1.FloorScore Certification

FloorScore® คือมาตรฐานรับรองคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ทดสอบการปล่อยสารระเหยอินทรีย์ (VOC) จากวัสดุปูพื้นตามเกณฑ์ CA 01350 ของแคลิฟอร์เนีย หากได้ใบรับรองนี้หมายถึงผลิตภัณฑ์มีค่าการปล่อยสารเคมีต่ำ ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอากาศในบ้าน โรงเรียน หรือสำนักงานสะอาดปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นคะแนนบวกในการขอรับรองอาคารเขียว LEED และ WELL ด้วย

2.CE (Conformité Européenne)

เครื่องหมาย CE เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าสินค้าผ่านข้อกำหนดด้านความปลอดภัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป สำหรับพื้นไวนิลหรือพื้นยืดหยุ่น มักถูกทดสอบตามมาตรฐาน EN 14041 และ EN 13501-1 ครอบคลุมเรื่องความทนไฟ ความปลอดภัยต่อการลื่นไถล และการปล่อยสารอันตราย ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ถูกกฎหมายในยุโรปและมีความปลอดภัยสูง

3.Phthalate Free

Phthalate Free คือ การรับรองว่าสินค้าไม่มีการใช้สารพทาเลตในกระบวนการผลิต ซึ่งสารนี้เป็นพลาสติไซเซอร์ที่อาจมีผลกระทบต่อฮอร์โมนและสุขภาพในระยะยาว การที่ผลิตภัณฑ์เป็น Phthalate Free จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่แพ้ง่าย ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสินค้าปลอดภัยต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม

4.100% Recyclable

พื้นไวนิลที่ได้รับการระบุว่า 100% Recyclable หมายความว่าสามารถนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ไม่ทิ้งเป็นของเสียที่สิ้นเปลืองทรัพยากร นอกจากจะช่วยลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสอดคล้องกับแนวคิด Circular Economy ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ยั่งยืนขึ้น

5.VOC+ (A+)

VOC+ (A+) เป็นการรับรองของฝรั่งเศสที่จัดระดับการปล่อยสารระเหย (VOC) ออกเป็น 4 ระดับ โดย A+ เป็นระดับที่ต่ำที่สุดและปลอดภัยที่สุด การมีสัญลักษณ์นี้แปลว่าพื้นมีการปล่อยกลิ่นและสารเคมีน้อยมาก เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพหรือคนที่แพ้ง่าย และยังช่วยให้พื้นที่อยู่อาศัยมีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น

6.Health Product Declaration (HPD)

HPD หรือ Health Product Declaration คือเอกสารที่ผู้ผลิตเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและสารเคมีที่ใช้ในสินค้าแบบโปร่งใส ผู้บริโภคจะเห็นได้ชัดว่าสินค้ามีสารที่เสี่ยงหรือไม่ ช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างรู้เท่าทัน และยังเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานที่สอดคล้องกับการก่อสร้างอาคารเขียว

7.Declare Label

Declare Label จาก International Living Future Institute เป็นฉลากที่เปิดเผยองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดถึงระดับ 0.1% และตรวจสอบว่ามีสารใน Red List หรือไม่ หากได้ฉลากนี้ ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าวัสดุปลอดจากสารเคมีต้องห้าม เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์หรือโลหะหนักบางชนิด จึงเป็นมิตรต่อทั้งผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม

8.Just Label

Just Label เป็นมาตรฐานที่ไม่ใช่แค่เรื่องสินค้า แต่เป็นการเปิดเผยความยุติธรรมและความโปร่งใสขององค์กรผู้ผลิต ครอบคลุมตั้งแต่สวัสดิการแรงงาน ความเท่าเทียม ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสังคม การที่บริษัทได้ Just Label จึงสะท้อนว่าผู้ผลิตใส่ใจทั้งคุณภาพสินค้าและคุณภาพชีวิตของผู้คน

9.REACH Compliance

REACH เป็นข้อบังคับด้านสารเคมีของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดมาก ผลิตภัณฑ์ที่ได้ REACH Compliance หมายถึงไม่มีการใช้หรือมีการควบคุมอย่างเข้มงวดกับสารเคมีที่อยู่ในรายการอันตราย (SVHC) เช่น สารก่อมะเร็ง โลหะหนัก หรือพทาเลตบางชนิด ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าพื้นปลอดภัยตามมาตรฐานสูงสุดของยุโรป

10.BES 6001

BES 6001 เป็นมาตรฐานจาก BRE ที่เน้นการจัดหาวัสดุอย่างรับผิดชอบ (Responsible Sourcing) ตรวจสอบตั้งแต่แหล่งที่มาของวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานนี้จึงสะท้อนถึงความใส่ใจในความยั่งยืนและความโปร่งใสของซัพพลายเชนทั้งหมด

11.ISO 9001

ISO 9001 เป็นระบบบริหารคุณภาพที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก การที่พื้นได้มาตรฐานนี้ หมายความว่ากระบวนการผลิตถูกควบคุมให้สม่ำเสมอ มีการตรวจสอบคุณภาพและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ออกสู่ตลาดมีมาตรฐานสูงและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า

12.Cadmium Free

Cadmium Free คือการยืนยันว่าในวัสดุไม่มีการใช้โลหะหนักอย่างแคดเมียม ซึ่งเป็นสารพิษที่อันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม หากผลิตภัณฑ์มีการรับรองนี้ ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยทั้งต่อร่างกายและไม่ทิ้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

13.พื้นไวนิล Allure ดีต่อสุขภาพ ครอบครัว และโลกที่ยั่งยืน

พื้นไวนิลถือเป็นวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพและความยั่งยืน เนื่องจากผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ลดการปล่อยสารระเหยอันตราย (Low VOC) และปราศจากสารกลุ่ม Phthalate ที่เป็นอันตรายต่อระบบการเจริญเติบโตของร่างกาย จึงปลอดภัยต่อเด็ก ผู้สูงอายุ และสัตว์เลี้ยงในบ้าน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติรีไซเคิลได้ 100% ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวัสดุปูพื้นหลายชนิด การเลือกใช้พื้นไวนิลจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านสวยงามและใช้งานได้ทนทาน แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพคนในครอบครัวและช่วยลดผลกระทบต่อโลกในระยะยาวได้อย่างแท้จริง 

 

 

 

            เมื่อมองย้อนกลับมาที่การเลือกวัสดุปูพื้น จะเห็นได้ว่าพื้นไวนิลไม่ได้ตอบโจทย์แค่ความสวยงามและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ยังมอบคุณสมบัติที่ปลอดภัยต่อสุขภาพคนในบ้าน ผ่านมาตรฐานที่การันตีว่า ปลอดสารอันตราย (Phthalate Free), ปล่อยสารระเหยในระดับต่ำ (Low VOC) และรีไซเคิลได้ 100% ทำให้เป็นมิตรต่อทั้งครอบครัวและโลกใบนี้ หากคุณกำลังมองหาพื้นที่ให้มากกว่าความทนทาน แต่ยังใส่ใจเรื่องคุณภาพชีวิตระยะยาว พื้นไวนิลจาก VK Floor คือคำตอบที่ครบที่สุด ทั้งความสวยงาม ปลอดภัย และยั่งยืน

Google Map
Line
Line
Google Map