ทำไมพื้นไวนิลถึงแพงกว่ากระเบื้องยาง เปรียบเทียบราคาตามเกรดให้เห็นชัด ๆ
หลายคนที่กำลังมองหาวัสดุปูพื้นอาจสงสัยว่า “ทำไม พื้นไวนิล ถึงมีราคาสูงกว่ากระเบื้องยาง?” ทั้งที่ดูผิวเผินแล้ววัสดุทั้งสองประเภทนี้อาจคล้ายกัน ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และการติดตั้ง แต่จริง ๆ แล้วพื้นไวนิลและกระเบื้องยางมีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องของวัสดุภายใน อายุการใช้งาน ความทนทาน และความพรีเมียมของพื้นผิว ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกถึงราคาที่แตกต่าง พร้อมเปรียบเทียบตามเกรดของวัสดุอย่างละเอียด เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างมั่นใจว่าจะลงทุนกับพื้นแบบไหนให้คุ้มค่ากับงบประมาณและการใช้งานของคุณมากที่สุด
1.พื้นไวนิล คืออะไร
พื้นไวนิล เป็นวัสดุปูพื้นสังเคราะห์ที่ผลิตจาก โพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) ผสมกับสารประกอบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ความทนทาน และความหลากหลายด้านดีไซน์ โดยพื้นไวนิลมีจุดเด่นเรื่อง กันน้ำ ดูแลรักษาง่าย และสามารถเลียนแบบพื้นผิวของวัสดุราคาแพงอย่าง ไม้จริง หินธรรมชาติ หรือ กระเบื้องเซรามิก ได้อย่างสมจริง
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พื้นไวนิลคืออะไร เจาะลึก โครงสร้าง คุณสมบัติ ข้อควรระวัง พื้นที่ใช้งาน
1.1 มีกี่เกรด
- เกรด Virgin Vinyl 100%: ทำจากไวนิลบริสุทธิ์ 100% ไม่มีวัสดุรีไซเคิล ปลอด VOC (สารอินทรีย์ระเหยง่าย) เป็นที่นิยมในหมู่เจ้าของบ้าน และยังมีราคาคุ้มค่าต่อการปรับปรุงบ้านหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์
- เกรด Virgin Vinyl + Recycled Vinyl: เป็นส่วนผสมของไวนิลเก่ากับวัสดุอื่นจากขยะอุตสาหกรรม เช่น ยางรถยนต์เก่า สายไฟ หรือสายทองแดง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพ ความคงตัวของพื้น และความปลอดภัยในระยะยาว
- เกรด Recycled Vinyl 100%: พื้นไวนิลเกรด รีไซเคิล 100% (Recycled Vinyl 100%) ผลิตจาก PVC ที่ผ่านการนำกลับมาใช้ใหม่ทั้งหมด มักประกอบด้วยเศษไวนิลหลากหลายชนิดที่ปนมาจากแหล่งขยะ เช่น ยางรถยนต์เก่า สายไฟ หรือโลหะอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพด้านความทนทาน การกันน้ำ และความเสถียรลดลงอย่างมาก อีกทั้งในกระบวนการรีไซเคิลยังอาจปนเปื้อนสารอันตรายหลายประเภท
1.2 ราคา
- เกรด Virgin Vinyl 100%: ~7000-1,700 บาท/ตร.ม.
- Virgin + Recycled Vinyl ~400–700 บาท/ตร.ม.
- Recycled Vinyl 100% ~80 – 400 บาท/ตร.ม.
*หากท่านสนใจ สินค้าพื้นไวนิล เกรด Virgin Vinyl 100% คลิกที่นี่
*หมายเหตุ ราคาที่ระบุในบทความนี้เป็นการประมาณการ อาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ร้านค้า หรือโปรโมชั่นในแต่ละพื้นที่ จุดประสงค์เพื่อใช้เปรียบเทียบเชิงข้อมูลเท่านั้น มิได้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์หรือเปรียบเทียบในเชิงลบกับสินค้าใดโดยเฉพาะ
1.3 พื้นที่เหมาะสมในการใช้งาน
1.3.1 เกรด Virgin Vinyl 100%
- บ้านพักอาศัย และคอนโดมิเนียม
- ห้องนอน ห้องนั่งเล่น พื้นที่ใช้งานทั่วไป
- คลินิก สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียน หรือพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดปลอดภัยสูง
- ร้านค้า โชว์รูม หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียม
- แนะนำให้ติดตั้งโดยช่างมืออาชีพเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุด
1.3.2 เกรด Virgin Vinyl + Recycled Vinyl:
- อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า หรือพื้นที่อยู่อาศัยทั่วไป
- ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็ก
- พื้นที่สำนักงานที่ไม่ได้มีการใช้งานหนัก
- อายุการใช้งานสั้นกว่า Virgin 100%
- อาจมี VOCs เล็กน้อยในบางรุ่น
- ควรตรวจสอบมาตรฐานหรือใบรับรองคุณภาพก่อนซื้อ
1.3.3 Recycled Vinyl 100%
- พื้นที่ชั่วคราว งานจัดบูธ หรืองานตกแต่งระยะสั้น
- ห้องเก็บของหรือพื้นที่ที่ไม่เน้นความสวยงาม
- โครงการประหยัดงบ เช่น พื้นโรงงาน หรือหอพักต้นทุนต่ำ
- อาจมีสารปนเปื้อนจากการรีไซเคิล
- ไม่ทนต่อรอยขีดข่วนหรือแรงกระแทก
- อายุการใช้งานสั้น และอาจส่งกลิ่นพลาสติกเมื่อติดตั้งใหม่
อ่านบทความนี้ พื้นที่ใช้งานของพื้นไวนิล ได้ที่นี่
2.กระเบื้องยาง คืออะไร
พื้นยางผลิตได้จากทั้ง ยางธรรมชาติ และ ยางสังเคราะห์ โดยยางธรรมชาตินั้นได้จากน้ำยางของต้นยางพารา ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของความยืดหยุ่นและความแข็งแรง ส่วนยางสังเคราะห์ผลิตจากวัสดุที่ได้จากปิโตรเลียม แม้จะมีต้นกำเนิดต่างกัน แต่ก็ให้คุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน โดยทั่วไปจะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า
2.1 มีกี่ประเภท
- กระเบื้องยางแบบม้วน เป็นวัสดุปูพื้นที่ผลิตในรูปแบบแผ่นยางขนาดใหญ่ ม้วนยาวต่อเนื่องโดยไม่มีรอยต่อ เหมาะสำหรับพื้นที่กว้างหรือพื้นที่ที่ต้องการความเรียบเนียน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องใต้ดิน จุดเด่นของพื้นแบบม้วนคือสามารถปูพื้นได้โดยไม่มีร่องรอยต่อระหว่างแผ่น ช่วยลดความเสี่ยงในการซึมของน้ำและเชื้อรา
- กระเบื้องยางแบบแผ่น ผลิตออกมาเป็นชิ้นแผ่นขนาดมาตรฐาน ให้เลือก ข้อดีของแบบแผ่นคือมีลวดลายที่คมชัด สวยงาม และเลียนแบบวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน หรือกระเบื้องได้อย่างสมจริง
2.2 ราคา
- แบบม้วน 220–300 บาท /ตร.ม.
- แบบกาว 200–250 บาท /ตร.ม.
*หมายเหตุ ราคาที่ระบุในบทความนี้เป็นการประมาณการ อาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ร้านค้า หรือโปรโมชั่นในแต่ละพื้นที่ จุดประสงค์เพื่อใช้เปรียบเทียบเชิงข้อมูลเท่านั้น มิได้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์หรือเปรียบเทียบในเชิงลบกับสินค้าใดโดยเฉพาะ
2.3 พื้นที่ที่เหมาะสมกับการใช้งาน
2.3.1 กระเบื้องยางแบบม้วน
- ห้องนอน ห้องทำงาน หรือพื้นที่ใช้สอยเบา
- คอนโด หรือสำนักงานที่ต้องการลดต้นทุน
- ร้านค้าขนาดเล็ก หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์เบา ๆ
- อายุการใช้งานสั้นกว่า Virgin Vinyl 100%
- เสี่ยงบิดงอเมื่อเจอความชื้นหรืออุณหภูมิสูง
- ความคงรูปและลายพิมพ์อาจเสื่อมได้เร็วหากไม่มีชั้นเคลือบคุณภาพ
2.3.2 กระเบื้องยางแบบแผ่น
- พื้นที่ชั่วคราว งานจัดบูธ หรืองานตกแต่งระยะสั้น
- ห้องเก็บของหรือพื้นที่ที่ไม่เน้นความสวยงาม
- โครงการประหยัดงบ เช่น พื้นโรงงาน หรือหอพักต้นทุนต่ำ
- อาจมีสารปนเปื้อนจากการรีไซเคิล
- ไม่ทนต่อรอยขีดข่วนหรือแรงกระแทก
- อายุการใช้งานสั้น และอาจส่งกลิ่นพลาสติกเมื่อติดตั้งใหม่
3.ตารางเปรียบเทียบราคา
ประเภทวัสดุ | เกรด / รูปแบบ | ราคาโดยประมาณ (บาท/ตร.ม.) | คุณสมบัติ |
พื้นไวนิล (Vinyl Flooring) | Virgin Vinyl 100% | 350 – 1,650 | กันน้ำ 100%, ไม่มี VOC, คงรูปดีเยี่ยม, อายุใช้งานนาน, ปลอดภัยต่อสุขภาพ |
Virgin + Recycled Vinyl | 240 – 700 | ราคากลาง, คุณภาพพอใช้, บางรุ่นมี VOC เล็กน้อย, คงรูปพอสมควร | |
Recycled Vinyl 100% | 84 – 450 | ราคาประหยัด, มีโอกาสปล่อย VOC, ไม่ทนต่อการบิดงอหรือหดตัว | |
กระเบื้องยาง (Rubber/Vinyl Tile) | แบบม้วน (Sheet Vinyl) | 199 – 245 | ปูแบบไร้รอยต่อ, เหมาะกับพื้นที่เปียก, กันน้ำได้ดี, ราคาคุ้มค่า |
แบบแผ่นมีกาวในตัว (Self-adhesive) | 198 – 210 | ติดตั้งง่ายมาก, เหมาะกับ DIY, ต้องใช้บนพื้นที่เรียบเท่านั้น |
4.ทำไมพื้นไวนิลถึงแพงกว่ากระเบื้องยาง
ราคาของพื้นไวนิลกับกระเบื้องยางไม่ได้ต่างกันมากนักเมื่อมองเผิน ๆ แต่สาเหตุที่พื้นไวนิลมีราคาสูงกว่ามาจากวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยพื้นไวนิลมักทำจาก PVC บริสุทธิ์ (Virgin Vinyl) ผสมสารเสริมคุณภาพสูง เช่น ชั้นเคลือบ UV, และชั้น Wear Layer ที่หนาเป็นพิเศษ ส่งผลให้มีคุณสมบัติทนน้ำ คงรูป ไม่บิดงอ ทนรอยขีดข่วนได้สูง และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากระเบื้องยางทั่วไป ขณะที่กระเบื้องยางแบบม้วนหรือแบบแผ่นซึ่งผลิตจากยางสังเคราะห์ จะมีคุณภาพที่ดีขึ้นเมื่อเลือกใช้วัตถุดิบที่เกรดสูงขึ้น แต่ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามคุณภาพวัตถุดิบ ส่วนกระเบื้องยางที่ทำจากยางธรรมชาติหรือยางรีไซเคิล มักใช้เศษวัสดุเหลือใช้จากยางรถยนต์หรือขยะพลาสติกแข็งต่าง ๆ มาแปรรูปใหม่ ทำให้มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่ก็แลกมากับความคงทน รูปทรงที่เสถียรน้อยลง และความปลอดภัยในระยะยาวที่อาจด้อยกว่าวัสดุเกรดพรีเมียมอย่างไวนิลบริสุทธิ์
5.ข้อดีของพื้นเกรด Virgin Vinyl 100% เมื่อเทียบกับเกรดอื่นๆ
- ปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่า ผลิตจาก PVC บริสุทธิ์ 100% ไม่ปนสารรีไซเคิลที่อาจปล่อยสาร VOC (สารอินทรีย์ระเหยง่าย) ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในระยะยาว โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง
- ติดตั้งแบบคลิกล็อก ไม่ต้องใช้กาว Virgin Vinyl ส่วนใหญ่ใช้ระบบติดตั้งแบบ Click Lock ซึ่งไม่ต้องทากาวบนพื้น ลดการใช้สารเคมีระหว่างการติดตั้ง และทำให้สะดวกในการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมในอนาคต
- รองรับน้ำหนักได้ดี ไม่ยวบ ไม่บุ๋มง่าย เนื้อวัสดุมีความหนาแน่นและเสริมชั้นโครงสร้าง เช่น Fiberglass Core หรือ Rigid Core ทำให้แผ่นพื้นคงรูปได้ดี ไม่บิดงอหรือยวบตัวเหมือนพื้นบางเกรดเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์หนัก
- ทนน้ำ และทนต่อรอยขีดข่วน ชั้น Wear Layer ที่หนาและมี UV Coating ช่วยให้พื้นทนรอยจากการลากเก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ หรือเล็บสัตว์เลี้ยงได้ดี พร้อมคุณสมบัติกันน้ำตลอดอายุการใช้งาน
- ดูแลรักษาง่าย อายุการใช้งานยาวนาน ไม่เก็บฝุ่น ไม่เกิดคราบรอยเปื้อนง่าย และสามารถถูพื้นด้วยน้ำได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องบวมหรือผิวลอก ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระยะยาว
6.พื้นไวนิล allure isocore ของ Vk floor ดียังไง?
Allure ISOCore จาก VK Floor คือ นวัตกรรมพื้นไวนิลระดับพรีเมียม ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับมาตรฐานของวัสดุปูพื้นในบ้านและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ด้วยโครงสร้างหลายชั้นที่ผสานเทคโนโลยี ISOCore เข้าไว้อย่างชาญฉลาด ทำให้พื้นไม้ชนิดนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยัง ทนทาน สบาย และตอบโจทย์การใช้งานจริงในทุกมิติ
คุณสมบัติเด่นของเทคโนโลยี ISOCore
- ซัพพอร์ตข้อเข่าและเท้า
- ชั้นกลาง ISOCore มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยดูดซับแรงกด ลดแรงกระแทกขณะเดินหรือยืนนาน ๆ
- เหมาะกับผู้สูงอายุ เด็ก หรือคนที่มีปัญหาข้อเข่า
- ลดเสียงส่งผ่านได้ถึง 18 เดซิเบล
- เพิ่มความเงียบในบ้านหรือคอนโด ลดเสียงฝีเท้าและเสียงกระทบจากของตกแต่ง
- ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย
- เคลือบสารป้องกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังของพื้นไม้ ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค
- ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง
- ดีไซน์หลากหลาย ปูได้หลายแบบ
- รองรับการติดตั้งทั้งแบบลายก้างปลา (Herringbone), ลายเชฟร่อน (Chevron), และปูตรง
- ยืดหยุ่นกับทุกสไตล์การตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิก
- ติดตั้งง่ายด้วยระบบ DropLock
- ไม่ต้องใช้กาว ปูเร็ว จบงานไว ลดฝุ่น ลดเสียงรบกวนในหน้างาน
- ทนชื้น และไม่บิดงอ
- พื้นไม้มีความคงตัวสูง ไม่หดหรือขยายตัวเมื่อเจอความชื้น เหมาะกับอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย
- พื้นผิวแข็งแรง ทนรอยขีดข่วน
- เคลือบ UV และ Wear Layer หนา ป้องกันรอยจากเฟอร์นิเจอร์ หรือกรงเล็บสัตว์เลี้ยง
หลังจากที่เราได้เปรียบเทียบราคาพื้นไวนิลและกระเบื้องยางในแต่ละเกรด จะเห็นได้ชัดว่า พื้นไวนิลอาจมีราคาสูงกว่าในบางรุ่น แต่ก็ให้ความรู้สึกพรีเมียม ติดตั้งง่าย และดูแลรักษาสะดวก ในขณะที่กระเบื้องยางก็มีข้อดีเรื่องราคาและความคุ้มค่าในงานที่ต้องการลดต้นทุน
การเลือกพื้นจึงควรพิจารณาให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการในระยะยาว บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่า “ราคาที่ต่าง” สะท้อนอะไรบ้าง และช่วยตัดสินใจเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสมกับบ้านหรือโครงการของคุณได้อย่างมั่นใจ