ไม้ MDF กลายเป็นหนึ่งในวัสดุยอดนิยมของงานตกแต่งบ้านและงานเฟอร์นิเจอร์ในยุคปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นเรื่องพื้นผิวที่เรียบสวย ทำสีได้ง่าย และมีราคาประหยัดกว่าวัสดุไม้จริงหรือไม้อัด MDF หลายคนจึงเลือกใช้ไม้ MDF ในการทำบิวท์อิน โต๊ะ ตู้ หรือแม้กระทั่งงานตกแต่งผนัง อย่างไรก็ตาม ไม้ MDF เองก็มีข้อจำกัดบางประการ โดยเฉพาะเรื่องความทนทานต่อความชื้น น้ำหนัก และการรับแรง หากไม่ระมัดระวังตั้งแต่การติดตั้งจนถึงการใช้งาน ก็อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นงานเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าที่คิด บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจข้อควรระวัง และเผยเคล็ดลับจากช่างไม้มืออาชีพในการดูแลไม้ MDF เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานและคุ้มค่ามากที่สุด
1.ทำไม ไม้ MDF ถึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ไม้ MDF ถึงแม้จะเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง เพราะมีพื้นผิวเรียบ ทำสีง่าย และราคาประหยัดกว่าไม้จริง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ทำให้ต้องการการดูแลมากกว่า วัสดุประเภทนี้เกิดจากการนำเส้นใยไม้บดละเอียดมาผสมกาวแล้วอัดด้วยแรงดันและความร้อน ทำให้มีความหนาแน่นสม่ำเสมอแต่ไม่ทนความชื้น หากโดนน้ำหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ไม้ MDF จะบวม เสียรูปทรง หรือผิวแตกได้ง่าย อีกทั้งยังมีน้ำหนักมากและไม่สามารถรับแรงได้ดีเท่าไม้จริงหรือไม้อัด MDF เมื่อต้องทำงานโครงสร้างหรือชิ้นที่รับน้ำหนัก การเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้จึงสำคัญ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ไม้ MDF ได้อย่างถูกต้องและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด อีกยังไม้ MDF ยังเป็นไม้ที่จัดกลุ่มอยู่ใน ประเภทไม้อัด อีกด้วย
2.ข้อควรระวังเมื่อติดตั้ง ไม้ MDF ในบ้าน
2.1 ระวังการใช้ ไม้ MDF ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
ไม้ MDF ไม่ทนต่อความชื้น หากติดตั้งในบริเวณที่มีน้ำหรือไอน้ำบ่อย เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่กึ่งเอาต์ดอร์ อาจทำให้แผ่นไม้บวม ขยายตัว และเสียรูปทรงได้ง่าย ต่างจากไม้อัด MDF หรือไม้จริงที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมมากกว่า
2.2 ระวังการใช้ ไม้ MDF ในงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก
ด้วยโครงสร้างของไม้ MDF ที่เกิดจากการอัดเส้นใยไม้ละเอียด แม้จะแน่นแต่ไม่สามารถรับแรงกดหรือแรงกระแทกได้เท่าไม้จริง หากนำไปใช้ทำโครงสร้างหลักหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ชั้นวางของขนาดใหญ่ อาจทำให้ MDF หักหรือแอ่นตัวได้
2.3 ระวังการเจาะหรือขันสกรูบนไม้ MDF
เมื่อทำการเจาะหรือขันสกรูบนไม้ MDF มีโอกาสที่ขอบไม้จะแตกหรือบิ่นได้ง่าย เพราะเส้นใยไม้ที่อัดแน่นมีความเปราะ ไม่เหมือนกับไม้อัด MDF หรือไม้จริงที่มีเสี้ยนไม้ช่วยเพิ่มความเหนียวแน่น หากเจาะผิดตำแหน่งหรือออกแรงมากเกินไป อาจทำให้ไม้เสียหายจนซ่อมแซมได้ยาก
2.4 ระวังการเคลื่อนย้ายไม้ MDF ที่มีขนาดใหญ่
ไม้ MDF มีน้ำหนักมาก เมื่อใช้งานแผ่นใหญ่หรือแผ่นหนา หากเคลื่อนย้ายโดยไม่ระมัดระวังอาจเกิดการแตกหักหรือแผ่นแยกออกจากกันได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณขอบและมุมที่เปราะบางมากกว่าวัสดุอย่างไม้อัด MDF ที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า
2.5 ระวังการสัมผัสสารเคมีหรือความร้อนโดยตรง
เนื่องจากไม้ MDF ผลิตจากเส้นใยไม้ผสมกาวและเรซิน เมื่อสัมผัสกับความร้อนสูงหรือสารเคมีบางชนิด อาจทำให้ผิวไม้เสียหายหรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ การใช้งานในพื้นที่ใกล้เตาอบหรือพื้นที่ที่มีการใช้สารทำความสะอาดแรง ๆ จึงไม่เหมาะสมเมื่อเทียบกับไม้อัด MDF หรือไม้จริง
3.วิธีดูแลไม้ MDF ให้คงสภาพและไม่บวมน้ำ
3.1 เคลือบผิวไม้ MDF ก่อนใช้งาน
ไม้ MDF มีโครงสร้างจากเส้นใยไม้ที่อัดแน่น ทำให้ดูเรียบสวยแต่เปราะบางต่อความชื้น การเคลือบผิวด้วยยูรีเทน แลคเกอร์ หรือเมลามีนฟิล์มบาง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยสร้างชั้นป้องกันน้ำไม่ให้ซึมเข้าสู่เนื้อไม้โดยตรง วิธีนี้เป็นมาตรฐานที่ช่างไม้มืออาชีพนิยมใช้ โดยเฉพาะกับงานเฟอร์นิเจอร์และบิวท์อิน
3.2 ปิดขอบไม้ MDF ทุกด้านด้วย Edge Banding
ขอบของไม้ MDF เป็นจุดที่น้ำซึมได้ง่ายที่สุด หากไม่ปิดขอบไว้ เมื่อมีความชื้นสะสมก็จะทำให้เกิดการบวมและแตก ดังนั้นควรใช้แถบปิดขอบ (Edge Banding) ที่ทำจาก PVC หรือเมลามีนเพื่อเพิ่มความทนทาน วิธีนี้ยังช่วยทำให้ไม้อัด MDF หรือแผ่น MDF ดูเรียบร้อยและสวยงามเหมือนงานเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป
3.3 เลือกใช้งานไม้ MDF ในพื้นที่ที่ไม่โดนน้ำโดยตรง
ถึงแม้ไม้ MDF จะเคลือบป้องกันแล้ว แต่ก็ไม่ควรใช้ในห้องน้ำ พื้นที่ซักล้าง หรือบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสน้ำโดยตรง เพราะโครงสร้างของ MDF ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับสภาพเปียกชื้น หากจำเป็นควรเลือกใช้ไม้อัด MDF แบบกันชื้น (MDF HMR) ซึ่งเหมาะสมกว่า
3.4 ยกเฟอร์นิเจอร์ไม้ MDF ให้พ้นจากพื้นเปียก
หากต้องติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ MDF ในบ้าน เช่น ตู้ โต๊ะ หรือชั้นวางของ ควรทำให้เฟอร์นิเจอร์มีขาหรือฐานยกพ้นพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นจากพื้นซึมเข้าสู่เนื้อไม้โดยตรง โดยเฉพาะในบ้านที่ปูพื้นกระเบื้องซึ่งมักมีการทำความสะอาดด้วยน้ำ
3.5 ทำความสะอาดไม้ MDF ด้วยผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด
การดูแลประจำวันเป็นสิ่งที่ช่วยยืดอายุการใช้งานไม้ MDF ได้ หากต้องการเช็ดทำความสะอาด ควรใช้ผ้าแห้งหรือผ้าเพียงชุบน้ำหมาด ๆ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากหรือสารเคมีที่รุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวเคลือบเสียหายและน้ำซึมเข้าสู่แผ่น MDF ได้ง่ายขึ้น
4.เคล็ดลับช่างไม้ในการยืดอายุการใช้งานไม้อัด MDF
เคล็ดลับช่างไม้ในการยืดอายุการใช้งานไม้อัด MDF คือการใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกวัสดุไปจนถึงการใช้งานจริง ช่างไม้ส่วนใหญ่จะแนะนำให้เลือกไม้ MDF ที่มีความหนาแน่นสม่ำเสมอ ไม่มีรอยแตกหรือบิ่นตามขอบ และหากเป็นงานที่มีโอกาสเจอความชื้นก็ควรเลือกไม้อัด MDF ชนิดกันชื้น (MDF HMR) เพื่อความทนทานมากกว่าแบบปกติ นอกจากนี้การปิดขอบไม้ทุกด้านด้วย Edge Banding และการเคลือบผิวด้วยยูรีเทนหรือลามิเนต จะช่วยลดโอกาสที่น้ำหรือความชื้นจะซึมเข้าสู่เนื้อไม้ได้ อีกหนึ่งเคล็ดลับคือการเลือกใช้สกรูหรืออุปกรณ์ยึดที่เหมาะสมกับ MDF เพราะหากใช้สกรูที่ใหญ่หรือขันแรงเกินไป ขอบไม้ MDF อาจแตกได้ง่าย การติดตั้งที่ถูกวิธีและการหลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่ไม่เหมาะสม เช่น ห้องน้ำหรือพื้นที่เปียกชื้น จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของไม้อัด MDF ให้ยาวนานและคุ้มค่ามากที่สุด
*หมายเหตุ : อ่านบทความ ประเภทการใช้งานของไม้MDF เพิ่มเติมได้ที่นี่
เมื่อเข้าใจทั้งข้อควรระวังและวิธีดูแลแล้ว จะเห็นได้ว่า ไม้ MDF เป็นวัสดุที่ใช้งานได้คุ้มค่าและตอบโจทย์การทำเฟอร์นิเจอร์หรือบิวท์อินในบ้านได้อย่างดี หากเลือกเกรดที่เหมาะสมและใช้งานในพื้นที่ที่ถูกต้อง คุณก็จะได้ชิ้นงานที่สวยงาม แข็งแรง และมีอายุการใช้งานยาวนานไม่แพ้ไม้อัด MDF หรือวัสดุไม้ประเภทอื่น ๆ และถ้าคุณกำลังมองหา ไม้ MDF คุณภาพดี ได้มาตรฐาน เหมาะกับทั้งงานเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง interior – วิวัฒน์ชัยค้าไม้ พร้อมคัดสรรไม้ MDF หลากหลายเกรด รวมถึงไม้อัด MDF กันชื้นและวัสดุไม้อื่น ๆ ให้เลือกครบจบในที่เดียว มั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพ ราคาโรงงาน และการบริการจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำทุกโปรเจกต์ของคุณ