วิธีทำสีและเคลือบผิว ไม้ MDF ให้ออกมาสวยเหมือนเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง

Table of Contents

                  ไม้ MDF ถือเป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในงานเฟอร์นิเจอร์และงานบิวท์อิน เพราะมีพื้นผิวเรียบ ทำงานง่าย และราคาย่อมเยากว่าไม้จริงหรือไม้อัด MDF แต่ในขณะเดียวกัน หากต้องการให้ชิ้นงานไม้ MDF มีความสวยงามระดับเดียวกับเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง การเลือกวิธีทำสีและการเคลือบผิวอย่างถูกต้องถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ หลายครั้งที่การทำสีผิดวิธีทำให้ผิวไม่เรียบ สีไม่ติดทน หรือเกิดการบวมเมื่อเจอความชื้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเทคนิคการทำสีและการเคลือบผิวไม้ MDF ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิว ไปจนถึงเคล็ดลับจากช่างไม้มืออาชีพ เพื่อให้คุณได้ชิ้นงานที่สวยงามและทนทานไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง

1.ทำไมการทำสี ไม้ MDF ถึงสำคัญกว่าที่คิด

การทำสี ไม้ MDF ถือว่าสำคัญกว่าที่หลายคนคิด เพราะพื้นผิวของไม้ MDF มีลักษณะเป็นเส้นใยไม้ละเอียดอัดแน่น แม้จะเรียบและเหมาะกับการทำเฟอร์นิเจอร์ แต่ก็มีความเปราะและไวต่อความชื้น หากลงสีหรือเคลือบผิวแบบเร่งรีบโดยไม่ผ่านขั้นตอนการเตรียมที่ถูกต้อง สีอาจไม่ติดทน เกิดการลอก แตก หรือซึมเข้าเนื้อไม้จนทำให้ชิ้นงานเสียหายได้ ต่างจากไม้จริงหรือไม้อัด MDF ที่มีเสี้ยนช่วยยึดเกาะสีได้ดีกว่า การใส่ใจในขั้นตอนการทำสีจึงเป็นทั้งการปกป้องไม้ MDF จากความชื้น และยังช่วยยกระดับความสวยงามของงานให้ดูเหมือนเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังที่มีคุณภาพสูงอีกด้วย

2.เทคนิคเตรียมพื้นผิวไม้ MDF ให้พร้อมก่อนลงสี

2.1 ขัดผิวไม้ MDF ให้เรียบก่อนทำสี

การขัดผิวเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการเตรียมไม้ MDF เพราะถึงแม้พื้นผิวของ MDF จะดูเรียบ แต่จริง ๆ แล้วยังมีเสี้ยนละเอียดและรอยจากการตัดขอบที่อาจทำให้สีไม่ติดแน่น การใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดผิวและขอบไม้ จะช่วยเปิดหน้าวัสดุให้พร้อมรับน้ำยาเคลือบหรือสีพ่น อีกทั้งยังทำให้การลงสีบนไม้ MDF เรียบเนียนและไม่เกิดคราบด่าง เมื่อเปรียบเทียบกับไม้อัด MDF หรือไม้จริงแล้ว ไม้ MDF มีความละเอียดกว่า แต่ก็ต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่าในการขัดเพื่อให้ได้งานที่เนียนสวย

2.2 ใช้สารรองพื้นหรือซีลเลอร์อุดรอยซึม

หลังจากขัดผิวแล้ว ขั้นตอนสำคัญถัดไปคือการทาสารรองพื้นหรือ Sanding Sealer เพื่อปิดรูพรุนเล็ก ๆ และอุดรอยซึมของไม้ MDF โดยเฉพาะบริเวณขอบที่เปราะและดูดซับน้ำได้ง่าย หากไม่ทาซีลเลอร์ สีที่ลงไปจะซึมเข้าตัว MDF ทำให้สีไม่สม่ำเสมอและผิวไม่เรียบเสมอกัน การใช้สารรองพื้นจึงเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยให้สีติดทนยาวนาน และทำให้การเคลือบผิวหรือการพ่นสีขั้นสุดท้ายออกมาสวยงามใกล้เคียงงานเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็นไม้ MDF เกรดธรรมดาหรือไม้อัด MDF ก็ล้วนได้ประโยชน์จากขั้นตอนนี้เหมือนกัน

2.3 ปิดขอบไม้ MDF ด้วยเทปหรือ Edge Banding

ขอบของไม้ MDF ถือเป็นจุดอ่อนที่สุด เพราะเป็นส่วนที่ซึมน้ำได้ง่ายและเปราะบางกว่าพื้นผิวด้านบน หากต้องการทำสีให้สวยและทนทาน การปิดขอบด้วยเทปกาวช่างไม้หรือติด Edge Banding จะช่วยป้องกันไม่ให้สีซึมเข้าไปในเส้นใยไม้ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวงานดูเรียบร้อยมากขึ้น การปิดขอบจึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในงานเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งที่ต้องการความสมบูรณ์แบบเหมือนไม้อัด MDF หรือไม้จริงคุณภาพสูง

2.4 เลือกอุปกรณ์และสีที่เหมาะกับไม้ MDF

แม้จะเตรียมพื้นผิวไม้ MDF มาดีเพียงใด แต่หากเลือกอุปกรณ์หรือสีไม่เหมาะสม งานที่ออกมาก็อาจไม่สวยเท่าที่ควร การใช้ลูกกลิ้งหรือปืนพ่นสีที่มีหัวพ่นละเอียดจะช่วยให้การลงสีเรียบเนียนกว่าการใช้แปรงทาสีทั่วไป ส่วนวัสดุเคลือบก็ควรเลือกประเภทที่เหมาะกับ MDF เช่น สีพ่น PU หรือแลคเกอร์ที่สามารถซึมซับและเกาะกับพื้นผิวได้ดีมากกว่า การเลือกอุปกรณ์และวัสดุที่เหมาะสมถือเป็นการลงทุนเล็กน้อยที่ช่วยยกระดับคุณภาพงานได้มหาศาล

2.5 ตรวจสอบและเก็บรายละเอียดก่อนพ่นสีจริง

ขั้นตอนสุดท้ายก่อนการทำสีไม้ MDF คือการตรวจสอบพื้นผิวอย่างละเอียดอีกครั้ง หากมีรอยขรุขระ รอยขีดข่วน หรือร่องเล็ก ๆ ควรใช้โป๊วไม้หรือซีลเลอร์เก็บงานให้เรียบเสมอทั้งหมด เพราะเมื่อพ่นสีจริง ร่องหรือรอยเหล่านี้จะชัดเจนมากกว่าที่คิด หลังจากเก็บงานเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มพ่นสีหรือลงเคลือบผิวในขั้นตอนถัดไป เทคนิคเล็ก ๆ นี้ทำให้ไม้ MDF ออกมาดูพรีเมียมเหมือนเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง และช่วยเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานได้อีกหลายปี

3.วิธีเลือกสีและวัสดุเคลือบ ไม้ MDF ให้ได้ลุคเหมือนเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง

  • เลือกใช้ สีพ่น PU สำหรับไม้ MDF  ให้ผิวเรียบ แข็งแรง และทนทาน

  • ใช้ แลคเกอร์ใส เพื่อโชว์ลายหรือผิวเรียบของ สินค้าไม้อัด MDF

  • เลือก เมลามีนฟิล์ม หรือ ลามิเนต สำหรับงานที่ต้องการความหรูหราและกันรอย

  • ใช้ สีสเปรย์อะคริลิก สำหรับงาน DIY ไม้ MDF ชิ้นเล็ก ๆ  ทำง่าย แห้งเร็ว

  • พิจารณา โทนสีด้าน/เงา ให้เข้ากับสไตล์บ้าน  เช่น ขาวด้าน ดำเงา หรือลายไม้ธรรมชาติ

4.เคล็ดลับจากช่างไม้มืออาชีพในการทำสีไม้อัด MDF

เคล็ดลับจากช่างไม้มืออาชีพในการทำสีไม้อัด MDF คือการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนมักมองข้าม โดยช่างจะนิยมพ่นสีหลายชั้นแทนการทาเพียงครั้งเดียว เพราะไม้ MDF มีคุณสมบัติในการดูดซึมสีได้ง่าย หากพ่นบางชั้นแรกให้แห้งแล้วค่อยเพิ่มชั้นต่อไป จะทำให้สีติดทนและผิวงานดูเรียบเนียนมากกว่า อีกทั้งยังต้องเว้นระยะห่างของหัวพ่นที่เหมาะสม ประมาณ 20–30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้สีจับเป็นดวงหรือไหลย้อยลงบนแผ่น MDF นอกจากนี้การเลือกใช้อุปกรณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยปืนพ่นสีที่มีหัวพ่นละเอียดจะช่วยให้การทำสีไม้อัด MDF ออกมาสวยเหมือนงานเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง และเพิ่มความทนทานของผิวงานได้อย่างชัดเจน

*หมายเหตุ : อ่านบทความ ข้อควรระวังการใช้งานไม้ MDF เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

                การทำสีและเคลือบผิวไม้ MDF ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังเป็นวิธีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่และทนทานมากขึ้น หากเลือกขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวที่ถูกต้อง ใช้วัสดุทำสีที่เหมาะสม และใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ คุณก็สามารถเปลี่ยนไม้ MDF ธรรมดาให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูหราระดับแบรนด์ดังได้อย่างไม่ยาก และถ้าคุณกำลังมองหาวัสดุคุณภาพสำหรับโปรเจกต์ ไม่ว่าจะเป็นไม้ MDF, ไม้อัด MDF หรือ สินค้าประเภทไม้อัดอื่น ๆ เช่น ไม้อัดยาง ไม้อัดฟิล์มดำ ไม้อัดเคลือบขาว เรามีให้เลือกครบทุกเกรด มั่นใจได้ทั้งคุณภาพ ราคาโรงงาน และบริการจากผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำทุกขั้นตอน เลือกใช้วัสดุจาก วิวัฒน์ชัยค้าไม้ เพื่อให้งานของคุณออกมาสวยสมบูรณ์และคุ้มค่าที่สุด

Google Map
Line
Line
Google Map