ไม้HMR รับน้ำหนักได้แค่ไหน แข็งแรงจริงไหม? ทดลองจริง 50โล!!!

ไม้ HMR รับน้ำหนักได้แค่ไหน ทดลองจริง 50โล!!!
ไม้ HMR รับน้ำหนักได้แค่ไหน ทดลองจริง 50โล!!!

ถ้าคุณกำลังมองหาวัสดุที่รับมือกับความชื้นได้ดี แค่ “กันน้ำ” อาจไม่พอ… เพราะในชีวิตจริง เฟอร์นิเจอร์ต้องเผชิญทั้งแรงกด น้ำหนักของใช้งาน และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ วัสดุบางประเภทอาจบวมหรือโก่งตัวเมื่อใช้งานไปไม่นาน แต่ ไม้ HMR โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่แน่นและเสถียร ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่เสียรูป ไม่บิดงอ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับจุดเด่นของไม้ HMR ว่าทำไมจึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน ทั้งในพื้นที่ชื้น พื้นที่ใช้งานหนัก และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความมั่นคงในระยะยาว

1.ไม้ HMR คืออะไร?

ไม้ HMR (High Moisture Resistance Board) คือวัสดุไม้สังเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นจาก MDF (Medium Density Fiberboard) โดยถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการทนความชื้นได้สูงกว่า MDF ทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่ต้องเผชิญกับความชื้นบ่อย เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว พื้นที่ใต้อ่างล้างจาน หรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทน้อย

ไม้ HMR ผลิตจากเส้นใยไม้บดละเอียด ผสมกับกาวชนิดพิเศษที่สามารถทนต่อความชื้น เช่น Melamine-Urea-Formaldehyde (MUF) จากนั้นจึงนำไปอัดขึ้นรูปด้วยแรงดันและความร้อนสูง ทำให้ได้แผ่นไม้ที่มีความหนาแน่นสูง แข็งแรง ทนทาน และไม่บวมน้ำง่าย

2.คุณสมบัติเด่นของไม้ HMR

ไม้ HMR ได้รับความนิยมในงานตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์งานใช้งานจริงหลายประการ ได้แก่:

1.ทนความชื้นได้ดีเยี่ยม

  • โครงสร้างของไม้ HMR ถูกออกแบบให้ลดการดูดซึมน้ำ จึงไม่บวม ไม่เสียรูป แม้ต้องสัมผัสกับไอน้ำหรือละอองน้ำเป็นประจำ

2.โครงสร้างแข็งแรงกว่าบอร์ดทั่วไป

  • ด้วยค่าความหนาแน่นที่สูง ทำให้ไม้ HMR รับน้ำหนักได้ดี ไม่เปราะหักง่าย ใช้ติดตั้งอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ได้มั่นคง

3.ปลอดภัยสำหรับใช้งานในบ้าน

  • ไม้ HMR ที่ผลิตด้วยมาตรฐานคุณภาพจะควบคุมระดับฟอร์มัลดีไฮด์ให้ต่ำ จึงปลอดภัยต่อระบบหายใจ เหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร

4.รองรับงานตกแต่งหลากหลาย

  • สามารถใช้ทำตู้บิวท์อิน เคาน์เตอร์ครัว หน้าบานผนังตกแต่ง หรือแม้แต่ฝ้าเพดานในจุดที่อับชื้น

3.การทดลองความทนทานของไม้ HMR

เพื่อประเมินความแข็งแรงในมิติของ “แรงดัดงอ” หรือการรับน้ำหนักที่กระทำบนแผ่นไม้โดยตรง จึงมีการทดสอบที่เรียกว่า Modulus of Rupture (MOR) ซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญในการตรวจสอบว่าไม้ HMR จะรับแรงดัดได้มากเพียงใดก่อนที่จะแตกหรือหัก

3.1 MOR (Modulus of Rupture) คืออะไร?

       MOR หรือชื่อเต็มว่า Modulus of Rupture หมายถึง “ค่าความต้านทานต่อการแตกหักของวัสดุเมื่อได้รับแรงดัด”

ในเชิงวิศวกรรมวัสดุ MOR เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ประเมินว่า วัสดุจะรับแรงดัดได้มากแค่ไหนก่อนที่จะหัก โดยมักใช้กับวัสดุประเภทแผ่น

        ค่าของ MOR จะบ่งบอก ความแข็งแรงของวัสดุในเชิงโครงสร้าง ว่าเหมาะกับงานที่ต้องรับแรงดัด งอ หรือมีการกดทับหรือไม่ หากค่าดังกล่าวต่ำเกินไป วัสดุนั้นอาจหักหรือแอ่นตัวได้ง่ายเมื่อถูกใช้งานจริง

3.2 การทดสอบ MOR ตามมาตรฐาน EN 310

มาตรฐาน EN 310 เป็นข้อกำหนดจากสหภาพยุโรปที่ใช้สำหรับทดสอบวัสดุไม้แปรรูปและแผ่นไม้ประกอบ เพื่อหาค่า MOR และ โมดูลัสของการยืดหยุ่น (MOE: Modulus of Elasticity)

โดยในที่นี้เราจะโฟกัสเฉพาะค่า MOR ซึ่งมุ่งวัด “ความสามารถของวัสดุในการรับแรงดัดก่อนจะแตกหัก”

วิธีการทดสอบ: Three-Point Bending Test (การกดดัดแบบ 3 จุด)

  1. เตรียมตัวอย่างทดสอบ แผ่นวัสดุจะถูกตัดเป็นชิ้นตามขนาดมาตรฐานที่กำหนด โดยความหนา ความยาว และความกว้างต้องแม่นยำ
  2. วางแผ่นบนจุดรองรับ 2 จุด (Span Support) ตำแหน่งรองรับอยู่บริเวณปลายทั้งสองด้านของแผ่น โดยต้องให้ระยะห่างระหว่างจุดรับแรงเท่ากับ 20 เท่าของความหนาแผ่น เช่น หากแผ่นหนา 10 มม. ระยะระหว่างจุดรองรับต้องเป็น 200 มม.
  3. ออกแรงกดที่จุดกึ่งกลางของแผ่น ใช้เครื่องมือทดสอบกดแรงลงตรงกลางของแผ่นอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง จนกระทั่งแผ่นวัสดุเกิดการแตกหัก หรือแสดงค่าความต้านทานสูงสุด
  4. บันทึกค่าความต้านทานสูงสุดก่อนหัก นำค่าความแรงที่กดจนวัสดุแตกมาคำนวณเพื่อหาค่า MOR ซึ่งมีหน่วยเป็น N/mm² (นิวตันต่อตารางมิลลิเมตร)

4.ทดสอบการรับน้ำหนัก ไม้ HMR ของร้านวิวัฒน์ชัยค้าไม้

เราได้ทำการทดลองใช้งานจริงกับ ไม้ HMR ความหนา 9 มม. เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก โดยวางน้ำหนักแบบเน้นจุดเพื่อทดสอบการโก่งหรือแตกร้าว ผลลัพธ์เป็นดังนี้:

4.1 น้ำหนัก 15 กิโลกรัม 

ไม้ HMR ทดสอบรับน้ำหนัก 15 กิโลกรัม แข็งแรงแค่ไหน?

4.2 น้ำหนัก 25 กิโลกรัม 

ทดสอบไม้ HMR รับน้ำหนัก 25 กิโลกรัม แผ่นไม้ไม่โก่งงอ

4.3 น้ำหนัก 50 กิโลกรัม 

ทดสอบไม้ HMR รับน้ำหนัก 50 กิโลกรัม

ผลทดสอบแสดงให้เห็นว่า ไม้ HMR 9 มม. ของร้านวิวัฒน์ชัยค้าไม้ สามารถรับแรงกดเฉพาะจุดได้ดี เหมาะกับงานโครงสร้างภายใน เช่น โครงตู้ ชั้นวางของ หรือชั้นในเฟอร์นิเจอร์ที่รับน้ำหนักโดยตรง

5.การใช้งานของไม้ HMR (High Moisture Resistance Board)

ไม้ HMR เป็นแผ่นไม้ที่ผ่านกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันชื้น ทนแรงกด และไม่บวมน้ำง่าย จึงเหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในที่ต้องการความแข็งแรงและใช้งานในระยะยาว ดังนี้:

1.เฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่เปียกชื้น

เหมาะกับตู้ครัว เคาน์เตอร์ หรือบานตู้ใต้อ่างล้างจาน เพราะต้องรับมือกับไอน้ำ น้ำกระเด็น และความชื้นสะสม หากใช้วัสดุทั่วไปอาจบวมหรือผุกร่อนได้ แต่ HMR ช่วยยืดอายุการใช้งานและคงรูปได้ดี

2.เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินทั่วไป

เหมาะกับชั้นวาง ตู้เก็บของ โต๊ะทำงาน หรือบานตู้ในห้องที่มีการใช้งานประจำ เช่น คอนโดที่มีพื้นที่จำกัดและระบายอากาศน้อย HMR ให้ความแข็งแรงและมั่นคง เหมาะกับการใช้งานในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมสภาพ

3.ผนังตกแต่งและฝ้าเพดานภายใน

ด้วยพื้นผิวเรียบ สม่ำเสมอ และรับสีหรือแผ่นปิดผิวได้ดี ทำให้ HMR เหมาะสำหรับตกแต่งผนังหรือฝ้าภายในที่ต้องการความเรียบร้อยและความทนทาน ไม่โก่งตัวหรือยืดหดจากความชื้น

4.งานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน

เหมาะสำหรับโครงตู้ เฟรมเฟอร์นิเจอร์ หรืองานที่ต้องรับน้ำหนัก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ หรือของใช้หนักในชีวิตประจำวัน HMR ช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านโครงสร้าง และลดปัญหาการบิดงอหรือแตกร้าวในระยะยาว

เมื่อพูดถึงงานเฟอร์นิเจอร์หรืองานตกแต่งที่ต้องการความทนทานและดูดีในระยะยาว “ไม้ HMR” คือคำตอบที่ลงตัว ทั้งในแง่ของความสามารถในการกันชื้น โครงสร้างที่แน่น ไม่บวมน้ำ และไม่เสียรูปง่าย แม้ใช้งานในพื้นที่เปียกหรืออากาศชื้นก็ตาม และถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งวัสดุก่อสร้างและไม้ HMR ที่มั่นใจได้ทั้งคุณภาพ ราคา และบริการหลังการขาย — “วิวัฒน์ชัย” คือพันธมิตรที่คุณไว้ใจได้ ด้วยประสบการณ์ยาวนานในวงการวัสดุก่อสร้าง คัดสรรไม้ HMR คุณภาพจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน พร้อมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ และบริการจัดส่งที่รวดเร็วถึงหน้างาน

ติดต่อ วิวัฒน์ชัย ค้าไม้ :
Line OA : @viwatchai
Social Media Link : https://linktr.ee/viwatchai.kamai
Google Map : https://maps.app.goo.gl/9SUJ3URFxuuzTVc19
Call : 02-585-7575, 02-585-6950