ในงานไม้และงานตกแต่งบ้าน การเลือกใช้ สินค้าไม้อัด ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความแข็งแรง ความสวยงาม และงบประมาณที่ใช้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีทั้ง ไม้อัดยาง ซึ่งผลิตจากไม้ยางพาราภายในประเทศ และ ไม้อัดต่างประเทศ ที่นำเข้าจากยุโรป จีน หรืออเมริกา แต่ละแบบต่างมีข้อดี ข้อจำกัด และงานที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป หลายคนอาจสงสัยว่า “ควรเลือกไม้อัดแบบไหนดี?” บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบจุดเด่น จุดต่าง ทั้งด้านวัสดุ ความแข็งแรง ความทนชื้น ราคา และงานที่เหมาะ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรใช้ไม้อัดชนิดใดให้คุ้มค่ากับงานของคุณมากที่สุด
1.ไม้อัดยาง คืออะไร?
ไม้อัดยาง คือ วัสดุแผ่นไม้ที่ผลิตจาก ไม้ยางพารา (Hevea brasiliensis) โดยนำไม้ยางที่หมดอายุการกรีดยางแล้ว มาปอกเป็นแผ่นบาง ๆ ที่เรียกว่า วีเนียร์ (Veneer) จากนั้นนำหลาย ๆ ชั้นมาเรียงซ้อนกัน โดยจัดวางให้เสี้ยนไม้ในแต่ละชั้นไขว้กันเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ก่อนอัดด้วยกาวภายใต้ความร้อนและแรงดันสูงจนกลายเป็นแผ่นไม้อัดที่มีความแข็งแรงทนทาน
ไม้อัดยางมีจุดเด่นคือ ราคาย่อมเยา หาซื้อง่าย และมีหลายความหนาให้เลือก ตั้งแต่ 3 มม. จนถึง 25 มม. จึงเหมาะกับการใช้งานหลากหลาย เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ บิวท์อิน งานก่อสร้าง ไปจนถึงงาน DIY นอกจากนี้ ไม้อัดยางยังถือว่าเป็นวัสดุที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยเพิ่มมูลค่าไม้ยางพาราที่หมดอายุการผลิตยาง แทนที่จะถูกโค่นทิ้งโดยเปล่าประโยชน์
2.ไม้อัดต่างประเทศ คืออะไร?
ไม้อัดต่างประเทศ คือไม้อัดที่ผลิตจากไม้เนื้ออ่อนหรือไม้เนื้อแข็งซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น ไม้อัดเบิร์ช (Birch Plywood) จากยุโรป, ไม้อัดป็อปลาร์ (Poplar Plywood) จากจีน, ไม้อัดสน (Pine Plywood) จากนิวซีแลนด์ และไม้อัดชนิดพิเศษจากอเมริกาเหนือหรือรัสเซีย ไม้อัดกลุ่มนี้มีการคัดเลือกวัตถุดิบและผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้มีคุณภาพสูง ลวดลายไม้สวยงาม และมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างจากไม้อัดยางในประเทศ
จุดเด่นของไม้อัดต่างประเทศ คือ ผิวหน้าเรียบสวย เหมาะกับงานที่โชว์ผิว, ความทนทานสูงกว่าในบางชนิด โดยเฉพาะด้านการกันชื้นและการรับแรง อีกทั้งยังมีหลายเกรด หลายความหนาให้เลือกตามมาตรฐานยุโรปและอเมริกา แม้ราคาจะสูงกว่าไม้อัดยาง แต่ก็นิยมใช้ใน งานเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม งานตกแต่งภายในที่เน้นความหรูหรา และงานส่งออก ที่ต้องการมาตรฐานสูงและความสวยงามเป็นพิเศษ
3. เปรียบเทียบไม้อัดยาง vs ไม้อัดต่างประเทศ
3.1 ด้านวัสดุ
ไม้อัดยาง: ผลิตจากไม้ยางพาราภายในประเทศ ใช้ไม้ที่หมดอายุการกรีดยางแล้ว
ไม้อัดต่างประเทศ: ผลิตจากไม้หลายชนิด เช่น Birch, Poplar, Pine, Oak โดยมีแหล่งผลิตจากยุโรป จีน รัสเซีย และอเมริกา
3.2 ด้านคุณสมบัติเด่น
ไม้อัดยาง: ราคาย่อมเยา หาซื้อง่าย ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ถึงงานก่อสร้าง
ไม้อัดต่างประเทศ: เน้นคุณภาพผิวหน้าเรียบเนียน ลวดลายสวยงาม เหมาะกับงานโชว์ผิวและงานพรีเมียม
3.3 ด้านความแข็งแรง
ไม้อัดยาง: แข็งแรงปานกลาง เหมาะกับงานทั่วไปและงานที่มีโครงเสริม
ไม้อัดต่างประเทศ: บางชนิดเช่น Birch หรือ Oak มีความแข็งแรงและทนทานสูง เหมาะกับงานที่ต้องรับแรงมาก
3.4 ด้านงานที่เหมาะสม
ไม้อัดยาง: งานเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป งานบิวท์อิน งานก่อสร้าง (แบบหล่อคอนกรีต) และงาน DIY
ไม้อัดต่างประเทศ: งานเฟอร์นิเจอร์ระดับ Luxury งานตกแต่งที่โชว์ลายไม้ และงานส่งออกที่ต้องการมาตรฐานสูง
3.5 ด้านความชื้น
ไม้อัดยาง: ทนความชื้นได้ระดับหนึ่ง หากเลือกเกรดกาว MR/WBP แต่หากสัมผัสน้ำบ่อยอาจบวมและเสียรูป
ไม้อัดต่างประเทศ: หลายชนิดมีการผลิตให้ทนชื้นได้ดีกว่า โดยเฉพาะไม้อัดนำเข้าที่ใช้กาวกันน้ำคุณภาพสูง
3.6 ด้านความหนาแน่น
ไม้อัดยาง: ความหนาแน่นเฉลี่ยประมาณ 500–650 กก./ลบ.ม.
ไม้อัดต่างประเทศ: ขึ้นกับชนิดไม้ เช่น Poplar (เบากว่า ~450 กก./ลบ.ม.) ส่วน Birch และ Oak หนาแน่นกว่า (650–750 กก./ลบ.ม.)
หมายเหตุ : อ่านบทความ คุณสมบัติเด่นของไม้อัดยาง เพิ่มเติมได้ที่นี่
4.ตารางเปรียบเทียบ ไม้อัดยาง vs ไม้อัดต่างประเทศ
ด้านเปรียบเทียบ | ไม้อัดยาง | ไม้อัดต่างประเทศ |
---|---|---|
วัสดุ | ทำจากไม้ยางพาราภายในประเทศ (ไม้หมดอายุการกรีดยาง) | ทำจากไม้หลายชนิด เช่น Birch, Poplar, Pine, Oak |
คุณสมบัติเด่น | ราคาย่อมเยา หาซื้อง่าย ใช้งานได้หลากหลาย | ผิวหน้าเรียบ ลายไม้สวย เหมาะกับงานโชว์ผิวและงานพรีเมียม |
ความแข็งแรง | แข็งแรงปานกลาง เหมาะกับงานทั่วไปและงานที่มีโครงเสริม | แข็งแรงและทนทานสูง โดยเฉพาะ Birch / Oak เหมาะกับงานรับแรง |
งานที่เหมาะสม | เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป, งานบิวท์อิน, งานก่อสร้าง, DIY | เฟอร์นิเจอร์ Luxury, งานตกแต่งโชว์ลายไม้, งานส่งออก |
ความชื้น | ทนได้ระดับหนึ่ง หากใช้กาว MR/WBP แต่ไม่เหมาะกับน้ำบ่อย ๆ | หลายชนิดทนชื้นได้ดีกว่า ใช้กาวกันน้ำคุณภาพสูง |
ความหนาแน่น (Density) | 500–650 กก./ลบ.ม. | แตกต่างตามชนิดไม้: Poplar เบากว่า (~450), Birch/Oak หนาแน่นกว่า (~650–750) |
5.งานที่เหมาะสมกับไม้อัดยางและไม้อัดต่างประเทศ
5.1 งานที่เหมาะสมกับไม้อัดยาง
ไม้อัดยางเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์งานที่ต้องการความคุ้มค่าและใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับงานที่ไม่จำเป็นต้องโชว์ลายไม้ธรรมชาติ เช่น
งานเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป: โต๊ะ ตู้ เตียง ชั้นวางของ ที่มักปิดผิวเมลามีน ลามิเนต หรือวีเนียร์ทับอีกชั้นเพื่อความสวยงาม
งานบิวท์อิน: ตู้ครัว ตู้เสื้อผ้า ผนังตกแต่ง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งถาวร โดยเฉพาะเมื่อใช้ไม้อัดยางเกรดดีและมีการปิดผิวกันชื้น
งานก่อสร้าง: แบบหล่อคอนกรีต (ใช้ไม้อัดยางดำ) และโครงสร้างชั่วคราว เช่น พื้นยกระดับ ทางเดิน
งาน DIY และงานศิลป์: เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก กรอบรูป ของตกแต่ง หรือโมเดล ด้วยความที่ตัดง่ายและดัดโค้งได้
5.2 งานที่เหมาะสมกับไม้อัดต่างประเทศ
ไม้อัดต่างประเทศมักถูกเลือกใช้ในงานที่ต้องการคุณภาพสูง ความแข็งแรง และความสวยงามของผิวไม้ เหมาะกับงานที่โชว์ลายไม้และงานที่เน้นมาตรฐานการผลิต เช่น
งานเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม: โต๊ะอาหาร ตู้โชว์ เก้าอี้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ผิวจริง ใช้ไม้อัด Birch, Oak หรือ Beech ที่มีลายไม้หรูหรา
งานตกแต่งภายใน: ผนังไม้ พาร์ทิชัน ฝ้า หรือเพดานที่ต้องการผิวเรียบและคงทน ใช้ไม้อัด Poplar หรือ Birch ที่มีผิวเรียบเหมาะสำหรับการทำสี
งานส่งออก: เฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ผลิตเพื่อขายต่างประเทศ มักใช้ไม้อัดที่ผ่านมาตรฐาน E1, CARB, FSC เพื่อความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
งานที่ต้องการความแข็งแรงสูง: เช่น พื้นไม้โครงสร้าง หรือโครงเฟอร์นิเจอร์ที่รับน้ำหนัก ใช้ไม้อัด Oak หรือ Birch ที่มีความหนาแน่นสูง
เมื่อเปรียบเทียบแล้วจะเห็นว่า ไม้อัดยาง ตอบโจทย์งานที่ต้องการความคุ้มค่า ใช้งานได้หลากหลาย ส่วน ไม้อัดต่างประเทศ เหมาะกับงานที่ต้องการความหรูหรา คุณภาพสูง และโชว์ลายไม้ที่สวยงาม ดังนั้น การเลือกไม้อัดที่ใช่ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับงบประมาณ แต่ยังต้องดูที่ลักษณะงานและความต้องการของคุณด้วย
หากคุณกำลังมองหา ไม้อัดคุณภาพ ทั้งไม้อัดยางและไม้อัดนำเข้า เราขอแนะนำ วิวัฒน์ชัยค้าไม้ (VK Wood) ผู้เชี่ยวชาญด้านงานไม้และวัสดุก่อสร้างกว่า 50 ปี เราคัดสรรไม้อัดทุกชนิด ครบทุกเกรด พร้อมคำแนะนำจากทีมงานมืออาชีพ และบริการจัดส่งทั่วประเทศ