ไม้โครง ไม้จ๊อย

1. ไม้โครง ไม้จ๊อยคืออะไร?

ไม้โครง คือ วัสดุโครงสร้างที่ใช้รองรับหรือเป็นแกนกลางของเฟอร์นิเจอร์ เช่น โครงตู้ โต๊ะ เตียง ชุดครัว รวมถึงงานบิวต์อินภายในบ้าน โดยทำหน้าที่เป็น “กระดูก” หรือโครงสร้างหลักที่ต้องแข็งแรงก่อนปิดผิวด้วยวัสดุอื่น เช่น ไม้อัด เมลามีน ลามิเนต หรือวีเนียร์ไม้จริง

2. ขนาดของ  ไม้โครง ไม้จ๊อย

ขนาดมาตรฐานของ ไม้โครง ที่นิยมใช้ในประเทศไทยจะอยู่ที่
กว้าง 1.7 – 2.0 ซม. x สูง 4.5 ซม. x ยาว 2.40 เมตร
ซึ่งเป็นขนาดที่ช่างเฟอร์นิเจอร์และงานบิวต์อินเลือกใช้มากที่สุด เพราะแข็งแรงพอดีและคุ้มค่าในการใช้งาน โดยไม้โครงของวิวัฒน์ชัยค้าไม้จะเป็นไม้แท้ผ่านการอบแห้ง ลดการโก่งตัว บิดงอ และยังตัดขอบเรียบพร้อมใช้งานทุกเส้น

3. ไม้โครง ไม้จ๊อยมีกี่ประเภท?

ไม้โครง แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักตามโครงสร้างของไม้:

3.1 ไม้โครง ไม้เต็ม (ไม่ต่อไม้)

ทำจากไม้ท่อนเดียวแบบทั้งชิ้น ไม่มีรอยต่อ มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับงานโครงเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องรับน้ำหนัก หรือส่วนที่ต้องโชว์ไม้ ไม่แตกร้าวง่ายในระยะยาว

3.2 ไม้โครง ไม้ต่อ หรือ ไม้โครง ไม้จ๊อย (Finger Joint Wood Core)

ผลิตจาก ไม้ท่อน สั้นที่นำมาต่อกันด้วยระบบฟันปลา (Finger Joint) จึงมีความเสถียรดี ไม่โก่งง่าย ราคาย่อมเยากว่าไม้เต็ม เหมาะกับงานบิวต์อินทั่วไปภายในบ้าน ที่ต้องการควบคุมต้นทุน ทั้ง 2 แบบมีคุณสมบัติที่ดีต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและงบประมาณของผู้ใช้งาน

4. ไม้โครง ไม้จ๊อย ทำมาจากไม้อะไรบ้าง?

ไม้โครง (Frame Wood) คือวัสดุสำคัญที่ใช้ทำโครงสร้างภายในเฟอร์นิเจอร์ งานบิวต์อิน และงานไม้ทั่วไป ซึ่งสามารถผลิตได้จากไม้หลากหลายชนิด สามารถดูไม้โครงยอดนิยมปี2025ได้ที่นี้ โดยแต่ละชนิดมีลักษณะเด่น จุดแข็ง และความเหมาะสมกับงานแตกต่างกันไป ดังนี้:

4.1 ไม้โครงสักสวนป่า

ไม้สัก ถือเป็นหนึ่งในไม้คุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการตกแต่งภายใน

• คุณสมบัติเด่น: แข็งแรง ทนปลวกได้ดีเยี่ยมโดยธรรมชาติ ผิวไม้สวย สีเหลืองทอง ลายไม้ชัดเจน

• จุดเด่นเพิ่มเติม: ผิวไม้เรียบ สัมผัสดี ใช้ทำงานโชว์ผิวได้โดยไม่ต้องปิดผิวเพิ่ม

• เหมาะกับงาน: งานบิวต์อินหรู เฟอร์นิเจอร์พรีเมียม โครงการระดับ Luxury ที่ต้องการทั้งความสวยและความทนทาน

4.2 ไม้โครงสะเดา

ไม้สะเดา ถือเป็น ไม้เนื้อแข็ง พื้นถิ่นที่มีความคงตัวสูง

• คุณสมบัติเด่น: เนื้อไม้แน่น ไม่โก่งงอง่าย ทนต่อแรงบิดและความชื้นได้ดี

• จุดเด่นเพิ่มเติม: สีไม้เข้ม ออกน้ำตาลอมแดง ลายไม้สวยแบบธรรมชาติ

• เหมาะกับงาน: โครงเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ บานตู้บิวต์อิน

4.3 ไม้โครงสยา

ไม้สยา (หรือไม้กะบากในบางพื้นที่) เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรง

• คุณสมบัติเด่น: สีเข้ม ลายไม้โดดเด่น น้ำหนักเบา

• จุดเด่นเพิ่มเติม: ทำงานง่าย ตัด เจาะ ประกอบเร็ว ราคาย่อมเยากว่าไม้สัก

• เหมาะกับงาน: เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป งานบิวต์อินระดับกลาง งานภายในที่ต้องการไม้สีเข้ม

4.4 ไม้โครงสนยุโรป

ไม้โครงสน จากยุโรปหรือสแกนดิเนเวีย ได้รับความนิยมในกลุ่มงานตกแต่งแนวโมเดิร์นและสแกนดิฯ

• คุณสมบัติเด่น: สีอ่อน ลายไม้ชัดเจน น้ำหนักเบา

• จุดเด่นเพิ่มเติม: ขึ้นรูปง่าย ขัดเรียบและย้อมสีได้สวย เหมาะกับงานโชว์ผิว

• เหมาะกับงาน: เฟอร์นิเจอร์โชว์ผิว งานตกแต่งสไตล์มินิมอล งานเด็กเล็ก

4.5 ไม้โครงทุเรียน

ไม้โครงทุเรียน เป็น ไม้เนื้อแข็ง ที่พบได้ในประเทศไทย และถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมมากขึ้น

• คุณสมบัติเด่น: เนื้อไม้แน่น เสี้ยนตรง ขึ้นรูปง่าย

• จุดเด่นเพิ่มเติม: มีความแข็งปานกลางถึงสูง ราคาประหยัดกว่าหลายชนิด

• เหมาะกับงาน: โครงเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป เช่น ตู้ เตียง โต๊ะ หรือชั้นวาง

4.6 ไม้โครงยางพารา

ไม้โครงยางพารา ถือเป็นไม้เศรษฐกิจหลักในประเทศไทย มีการนำมาใช้ทำไม้โครงจำนวนมาก

• คุณสมบัติเด่น: แข็งแรงระดับกลาง มีความยืดหยุ่นเล็กน้อย

• จุดเด่นเพิ่มเติม: ราคาย่อมเยา หาได้ง่าย มีทั้งแบบไม้ยางท่อนและไม้ยางประสาน

• เหมาะกับงาน: เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป งาน DIY งานบิวต์อินที่เน้นประหยัด

4.7 ไม้โครงเบญจพรรณ

ไม้โครงเบญจพรรณ  คือการรวมไม้เนื้อแข็งหลายชนิดเข้าด้วยกัน เช่น สะเดา ตะแบก เต็ง ฯลฯ

• คุณสมบัติเด่น: แข็งแรงมาก ทนแรงกดและแรงบิดได้ดี

• จุดเด่นเพิ่มเติม: ราคาประหยัด ใช้ประโยชน์ได้อเนกประสงค์

• เหมาะกับงาน: โครงสร้างภายในเฟอร์นิเจอร์ งานโครงสร้างไม้ที่ไม่ต้องโชว์ผิว

หมายเหตุ : จิงๆแล้ว ไม้โครงมีหลายชนิดมีหลายประเภท สามารถศึกษาชนิดไม้โครงต่อได้ที่นี้

5. ไม้โครง ไม้จ๊อยเอาไปทำอะไรได้บ้าง?

ไม้โครง ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการผลิตงานไม้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะ:

• โครงเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เสื้อผ้า เตียง ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง

• งานบิวต์อิน เช่น ตู้ครัว ตู้โชว์ ตู้บานเปิด บานเลื่อน เคาน์เตอร์

• โครงคร่าวปิดผิว เช่น รองไม้อัด หรือเมลามีนในงานผนัง

• งานฝ้าเพดาน ฝังไฟ หรือระบบซ่อนในงานดีไซน์

ไม้โครงจึ งถือเป็นวัสดุหลักที่จำเป็นในงานเฟอร์นิเจอร์และอินทีเรียทุกระดับ ตั้งแต่งาน DIY จนถึงงานโครงการบ้านและคอนโดหรู ศึกษาวิธีการนำไม้โครงไปใช้ได้ที่นี้

6. ทำไมต้องเลือก ไม้โครง ไม้จ๊อยจากวิวัฒน์ชัยค้าไม้ (บางโพ)?

• คุณภาพคัดเกรด A ทุกชิ้น: แข็งแรง ใช้งานจริงได้ทุกเส้น ไม่มีไม้บิด ไม้บวม หรือไส้ผุ

• ผ่านการอบแห้ง: ลดความชื้นในเนื้อไม้ ป้องกันการโก่งตัวและปัญหาในระยะยาว

• มีให้เลือกหลากหลาย: ทั้ง ไม้โครงสัก , ไม้โครงสยา , ไม้โครงสะเดา , ไม้โครงทุเรียน , ไม้โครงยางพารา และไม้โครงสนยุโรป  ครอบคลุมทุกระดับงบประมาณ

• ขนาดมาตรฐาน 2.40 ม. ใช้งานง่าย: ช่วยลดเศษไม้ ประหยัดเวลาในการตัด

• บริการจริงใจ จากโชว์รูมบางโพ: พร้อมให้คำแนะนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ไม้โครง โดยเฉพาะ ให้คุณมั่นใจตั้งแต่เลือกซื้อจนถึงใช้งาน

หมายเหตุ : ดูรีวิว สินค้า ไม้โครง วิวัฒน์ชัย ค้าไม้ได้ที่นี้

7. ข้อดีของไม้โครง ไม้จ๊อย

ไม้โครงถือเป็นวัสดุสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความแข็งแรงของเฟอร์นิเจอร์และงานบิวต์อินทุกชิ้น จุดเด่นของไม้โครงคือให้สมดุลระหว่าง “ความแข็งแรง ความคุ้มค่า และความยืดหยุ่นในการใช้งาน” ทำให้เป็นที่นิยมทั้งในงานของช่างมืออาชีพและงานตกแต่งระดับโครงการ โดยไม้โครงมีคุณสมบัติเด่นคือมีน้ำหนักเบากว่าไม้เนื้อแข็งทั้งแผ่น แต่ยังสามารถรับน้ำหนักได้ดี จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความมั่นคง เช่น โครงโต๊ะ เตียง หรือตู้เสื้อผ้า อีกทั้งยังสามารถเลือกชนิดของไม้ให้เหมาะกับงบประมาณและลักษณะการใช้งานได้ เช่น ไม้สักสำหรับงานพรีเมียม หรือไม้ยางพาราสำหรับงานทั่วไปที่เน้นความประหยัด

นอกจากนี้ ไม้โครงยังเป็นวัสดุที่สามารถตัด เจาะ ขันสกรู หรือยิงแม็กซ์ได้โดยไม่แตกหักง่าย จึงช่วยให้งานเฟอร์นิเจอร์ประกอบได้รวดเร็วและประณีตขึ้น ช่วยลดเวลาในการติดตั้งและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่ช่วยลดการใช้ไม้ท่อนใหญ่จากธรรมชาติ เพราะไม้โครงหลายประเภทผลิตจากไม้เศรษฐกิจ เช่น ยางพารา หรือไม้ต่อจ๊อย ซึ่งใช้เศษไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพและความยั่งยืน เหมาะสำหรับยุคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

8. ข้อเสียของ ไม้โครง ไม้จ๊อย

แม้ไม้โครงจะมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับงานตกแต่งภายใน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาก่อนเลือกใช้งาน เพื่อให้เหมาะกับหน้างานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ข้อควรระวังหรือข้อเสียของไม้โครง:

• ไม่เหมาะกับงานภายนอกหรือพื้นที่ชื้นจัด: เช่น ห้องน้ำ ระเบียง หรือพื้นที่กลางแจ้ง เพราะไม้โครงส่วนใหญ่ไม่กันน้ำ 100%

• อาจมีการบิดงอได้ หากไม่ผ่านการอบแห้งมาตรฐาน: โดยเฉพาะไม้โครงราคาถูกที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการควบคุมความชื้น

• คุณภาพแตกต่างกันตามแหล่งผลิต: หากเลือกจากแหล่งที่ไม่ได้คัดเกรด อาจเจอปัญหาไส้ไม้ไม่แน่น หรือมีรอยต่อที่ไม่เรียบ

• ต้องปิดผิวเพิ่ม: ไม้โครงส่วนใหญ่ไม่ได้โชว์ผิว จึงต้องใช้วัสดุปิดผิว เช่น เมลามีน หรือลามิเนต เพื่อความสวยงาม

• อาจมีปลวกได้ในระยะยาวหากไม่เคลือบป้องกัน: โดยเฉพาะในไม้ที่ไม่มีน้ำมันธรรมชาติ เช่น ไม้โครงยางพารา หรือไม้เบญจพรรณราคาย่อมเยา

9. เปรียบเทียบไม้โครงแต่ละชนิด