เวลาเลือก พื้นสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง หลายคนมักโฟกัสแค่เรื่อง “กันน้ำ” หรือ “กันลื่น” แต่จริง ๆ แล้วอีกปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ ค่า AC (Abrasion Class) ซึ่งเป็นตัวบอกระดับ “ความทนต่อการขีดข่วนและการสึกหรอของพื้น” โดยเฉพาะในบ้านที่มีน้องหมาน้องแมววิ่งเล่นตลอดวัน ค่า AC ยิ่งสูง พื้นก็ยิ่งทนรอยเล็บและแรงเสียดสีได้ดีกว่า บทความนี้จะพาไปเข้าใจว่าค่า AC แต่ละระดับหมายถึงอะไร และแบบไหนถึงเหมาะกับบ้าน Pet-Friendly อย่างแท้จริง
1.ค่า AC คืออะไร? ทำไมสำคัญต่อบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
ค่า AC หรือ Abrasion Class คือค่ามาตรฐานระดับสากลที่ใช้วัด “ความทนทานต่อการสึกหรอของพื้นผิว” โดยเฉพาะการขีดข่วนจากเล็บสัตว์เลี้ยง หรือแรงเสียดสีจากการลากเฟอร์นิเจอร์และการเดินเหยียบซ้ำ ๆ ทุกวัน ยิ่งค่า AC สูง พื้นก็ยิ่งทนต่อรอยได้มาก เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงที่ชอบวิ่งเล่นหรือมีน้ำหนักตัวมาก เช่น สุนัขพันธุ์ใหญ่ เพราะช่วยลดโอกาสเกิดรอยและยืดอายุการใช้งานของพื้นให้สวยเหมือนใหม่ได้นานกว่า โดยทั่วไปพื้นไม้ลามิเนตและพื้นไวนิลที่มีค่า AC ระดับ 4 ขึ้นไป มักเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์บ้าน Pet-Friendly ได้ดีที่สุด
2.ตารางค่า AC แต่ละระดับ หมายถึงอะไรบ้าง (AC1–AC6)
| ระดับ AC | ความทนทานต่อรอยขีดข่วน / การใช้งาน | พื้นที่ที่เหมาะสม | ความเหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง |
|---|---|---|---|
| AC1 | ทนน้อย ใช้ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีการเดิน | ห้องนอน / ห้องเก็บของ | ไม่เหมาะ เกิดรอยง่ายจากเล็บสัตว์ |
| AC2 | ทนระดับเบา ใช้งานทั่วไปในบ้าน | ห้องทำงาน / ห้องพักผ่อน | พอใช้ได้ หากสัตว์เลี้ยงตัวเล็กและไม่วิ่งบ่อย |
| AC3 | ทนปานกลาง เริ่มกันรอยจากเล็บได้ | ห้องนั่งเล่น / ห้องครัว | เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก |
| AC4 | ทนสูง รองรับการใช้งานบ่อย | โถงทางเดิน / ห้องนั่งเล่นใหญ่ | เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์หลายตัว วิ่งเล่นบ่อย |
| AC5 | ทนมาก ใช้งานเชิงพาณิชย์เบา ๆ | คาเฟ่ / รีสอร์ต Pet-Friendly | ทนรอยและแรงกระแทกได้ดีมาก |
| AC6 | ทนสูงสุด สำหรับงานหนัก Commercial Grade | โครงการ / คลินิกสัตว์ / พื้นที่สาธารณะ | ดีที่สุด ทนทุกสภาพการใช้งานและไม่เป็นรอยง่าย |
3.ถ้าไม่ได้เลือก พื้นสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) ที่มี ค่า AC สูง พื้นบ้านของคุณ
3.1 พื้นเป็นรอยขีดข่วนง่าย
เล็บของสุนัขหรือแมว โดยเฉพาะสายพันธุ์ขนาดกลาง-ใหญ่ สามารถสร้างรอยขีดบนพื้นไม้หรือพื้นไวนิลเกรดต่ำได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ผลคือ พื้นดูเก่าเร็ว และต้องขัดหรือลอกเคลือบใหม่บ่อย ซึ่งสิ้นเปลืองทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
3.2 ผิวเคลือบสึกเร็ว
พื้นค่า AC ต่ำ (AC1-AC3) มักมีชั้น wear layer บาง เมื่อโดนแรงเสียดสีจากการวิ่ง กระโดด หรือของเล่นที่ลากไปมาบ่อย ๆ ผิวเคลือบจะเริ่มด้าน หลุด หรือซีดเร็วกว่าปกติ
3.3 เกิดรอยต่อหลวมและพื้นบวมจากความชื้น
สัตว์เลี้ยงมักทำให้พื้นเปียกจากน้ำหก น้ำลาย หรือปัสสาวะ หากพื้นไม่มีระบบกันชื้นที่ดี ความชื้นจะซึมเข้ารอยต่อ ทำให้พื้นบวม โก่ง หรือหลุดจากรางล็อกได้
3.4 พื้นลื่นและอันตรายต่อสัตว์
พื้นเงาเรียบ หรือ AC ต่ำมักไม่ผ่านมาตรฐาน R-Rating ด้านกันลื่น ทำให้สัตว์เลี้ยงลื่นล้ม เกิดการบาดเจ็บที่ข้อขา โดยเฉพาะสัตว์อายุมากหรือพันธุ์ใหญ่
3.5 อายุการใช้งานสั้นกว่าที่ควร
โดยเฉลี่ยพื้นทั่วไปอาจอยู่ได้ 5–7 ปี แต่พื้น Pet-Friendly ที่มีค่า AC4 ขึ้นไปสามารถอยู่ได้กว่า 15 ปี แม้มีสัตว์เลี้ยงหลายตัวในบ้าน
4.เคล็ดลับดูแลพื้นไม้ให้คงความทน แม้มีสัตว์เลี้ยง
การดูแลพื้นไม้ให้สวยและแข็งแรงยาวนานในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงไม่ยากอย่างที่คิด เพียงใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ ในทุกวันก็ช่วยยืดอายุพื้นได้หลายปี
เช็ดพื้นอย่างถูกวิธี: ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แทนการใช้น้ำมากเกินไป เพราะความชื้นอาจซึมเข้ารอยต่อของพื้นและทำให้บวมได้ ควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนหรือสูตรเฉพาะสำหรับพื้นไม้โดยเฉพาะ
ใช้พรมกันรอยในจุดที่เดินบ่อย: วางพรมกันลื่นในบริเวณที่สัตว์เลี้ยงชอบวิ่งเล่น เช่น ทางเดินหรือหน้าประตู จะช่วยลดแรงเสียดสีจากเล็บและการกระแทกได้ดี
ตัดเล็บสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ: เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วนบนพื้น โดยเฉพาะในบ้านที่ใช้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์หรือพื้นลามิเนต
หลีกเลี่ยงน้ำขังหรือน้ำหกบนพื้น: หากสัตว์เลี้ยงเผลอทำของเหลวหก ให้รีบเช็ดให้แห้งทันที เพื่อป้องกันการซึมของน้ำและการเกิดกลิ่นอับ
การดูแลพื้นไม้ในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แค่เข้าใจลักษณะของพื้นและดูแลอย่างสม่ำเสมอ พื้นไม้ของคุณก็จะยังคงความสวย แข็งแรง และปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงไปอีกยาวนาน
การเลือกพื้นบ้านสำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยง ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือ “การลงทุนเพื่อความสบายและความปลอดภัยของทั้งบ้าน” พื้นที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับแรงขีดข่วนหรือความชื้น อาจทำให้ต้องซ่อมบ่อยจนเสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น การเลือก พื้น Pet-Friendly ที่มีค่า AC สูง (AC4–AC6) จึงตอบโจทย์ทั้งความทน ทรงคุณค่า และช่วยให้เจ้าของบ้านไม่ต้องกังวลกับรอยหรือการลื่นล้มของสัตว์เลี้ยง สุดท้ายแล้ว…พื้นบ้านที่ดี ไม่ใช่แค่พื้นสวย แต่ต้อง “อยู่ร่วมกันได้อย่างสบาย” ทั้งคนในบ้านและเพื่อนสี่ขาที่คุณรัก