พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีกี่เกรด? เจาะลึก 3 ระดับคุณภาพ Good / Better / Best พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่นและความคุ้มค่า

Table of Contents

              พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ อาจดูเหมือนคล้ายกันทุกแผ่น แต่แท้จริงแล้ว “คุณภาพ” แตกต่างกันมากระหว่างแต่ละเกรด ทั้งจำนวนชั้นไม้ ความหนาของชั้นไม้จริง (Wear Layer) การเคลือบผิว และอายุการใช้งาน ซึ่ง ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อความทนทาน ความสวยงาม และความคุ้มค่าของการลงทุนในระยะยาว วันนี้ VK Floor จะพาคุณมารู้จัก 3 ระดับคุณภาพของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ได้แก่ Good / Better / Best เพื่อให้เลือกพื้นได้เหมาะกับงบประมาณและการใช้งานของคุณที่สุด

1.พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เกรด Good เริ่มต้นคุ้มค่าในงบจำกัด

พื้นเกรดเริ่มต้นเหมาะกับบ้านพักอาศัยทั่วไปหรือพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานหนัก ใช้โครงสร้างพื้นไม้แบบ 3 ชั้น (3-ply) ชั้นไม้จริงด้านบนหนา 1–2 มม. และเคลือบผิวป้องกันรอยประมาณ 5 ชั้น

คุณสมบัติ:

  • โครงสร้าง 3 ชั้น (3-ply)

  • ชั้นไม้จริง (Wear Layer): 1–2 มม.

  • การเคลือบผิว (Finish Coats): 5 ชั้น

  • อายุการใช้งาน: 10–15 ปี

  • ชนิดไม้: โอ๊ค / แอช

จุดเด่น:

  • ราคาย่อมเยา เหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นไม้จริงในงบจำกัด

  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

ข้อจำกัด:

  • ชั้นไม้จริงบาง ขัดผิวได้จำกัด

  • อายุการใช้งานน้อยกว่าเกรดสูง

2.พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เกรด Better  สมดุลระหว่างราคาและคุณภาพ

เป็นเกรดกลางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด เพราะให้คุณภาพที่ดีกว่าอย่างชัดเจน ทั้งความหนา ความแข็งแรง และสีลายไม้ที่หลากหลาย

คุณสมบัติ:

  • โครงสร้าง 5 ชั้น (5-ply)

  • ชั้นไม้จริง (Wear Layer): 2–3 มม.

  • การเคลือบผิว (Finish Coats): 7 ชั้น

  • อายุการใช้งาน: 15–25 ปี

  • ชนิดไม้: Oak / Beech / Cherry

จุดเด่น:

  • ความหนาแน่นและความทนทานสูง

  • ลายไม้และเฉดสีให้เลือกหลากหลาย

  • สามารถขัดเคลือบผิวใหม่ได้ในบางรุ่น

ข้อจำกัด:

  • ราคาสูงกว่าเกรดเริ่มต้น

  • ต้องติดตั้งโดยช่างมืออาชีพเพื่อให้แน่นสนิท

3.พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เกรด Best  พรีเมียมที่สุดในตลาด

สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นไม้ที่ทั้งสวยงาม ทนทาน และเพิ่มมูลค่าบ้าน พื้นเกรดนี้มักใช้ในโครงการระดับ Luxury และบ้านพักอาศัยที่ต้องการคุณภาพสูงสุด

คุณสมบัติ:

  • โครงสร้าง 7–9 ชั้น (7–9 ply)

  • ชั้นไม้จริง (Wear Layer): 3 มม. ขึ้นไป

  • การเคลือบผิว (Finish Coats): 9 ชั้น

  • อายุการใช้งาน: 25 ปีขึ้นไป

  • ชนิดไม้: European Oak / Walnut / Reclaimed Wood

จุดเด่น:

  • พื้นผิวขัดซ้ำได้หลายครั้ง

  • มีเทคนิคตกแต่งพิเศษ เช่น Hand-Scraped, Wire-Brushed

  • ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อม FSC / E1 / FloorScore

  • ให้ลุคหรูและเป็นธรรมชาติที่สุดในบรรดาวัสดุปูพื้นทั้งหมด

ข้อจำกัด:

              การเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ให้ “เหมาะกับงบและการใช้งาน” สำคัญไม่แพ้การเลือกดีไซน์ หากคุณต้องการพื้นไม้สวยทนในระยะยาว ควรพิจารณาเกรด Better หรือ Best ที่มีชั้นไม้จริงหนาและเคลือบผิวหลายชั้น เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มมูลค่าบ้านได้จริง VK Floor มีพื้นไม้เอ็นจิเนียร์นำเข้าหลายเกรด ตั้งแต่รุ่นราคาคุ้มค่าจนถึงรุ่นพรีเมียม พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยคุณเลือกและติดตั้งให้เหมาะกับทุกสไตล์บ้าน

Google Map
Line
Line
Google Map