เช็กลิสต์พื้นไม้สำหรับผู้สูงอายุ คุณสมบัติที่ต้องมีเพื่อความปลอดภัยในบ้าน

2.1 กันลื่นดี (Slip-Resistant) ลดโอกาสล้มแม้ขณะสวมถุงเท้า

พื้นสำหรับผู้สูงอายุต้องมีผิวที่ช่วยยึดเกาะเท้าได้ดี เช่น ผิว Matte, Emboss, หรือพื้นรุ่นที่มีค่า R Rating ระดับ R9–R10 ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ความกันลื่นที่เหมาะสำหรับพื้นที่พักอาศัย ค่าเหล่านี้สำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ เพราะแม้เพียง “จังหวะก้าวผิดนิดเดียว” ก็อาจเกิดอุบัติเหตุล้มได้ โดยเฉพาะช่วงเช้า–ก่อนนอนที่มักสวมถุงเท้า หรือเวลาพื้นมีละอองน้ำเล็กน้อยจากการทำความสะอาด   *อ่านบทความ ค่ากันลื่น พื้นไม้สำหรับผู้สูงอายุ เลือกอย่างไร? ค่า R9–R12 สำคัญแค่ไหน ได้ที่นี่

2.2 นุ่มและซับแรงกระแทก ลดการบาดเจ็บเมื่อสะดุดหรือทรงตัวผิด

พื้นกลุ่ม Soft Floor เช่น ไวนิล (LVT) หรือพื้นไม้ที่ใช้ร่วมกับ Underlay ประเภท IXPE / EVA ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้มากกว่ากระเบื้องหรือหินธรรมชาติหลายเท่า หากเกิดการลื่นล้มจริง ความแรงของการกระแทกจะถูกลดทอนลงอย่างชัดเจน ลดความเสี่ยงกระดูกหักหรือบาดเจ็บรุนแรง ซึ่งเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ

2.3 ไม่เย็นเท้า  เดินได้มั่นใจขึ้น ไม่ชะงักเพราะพื้นเย็น

พื้นไม้ มีคุณสมบัติ “รักษาอุณหภูมิ” ได้ดีกว่ากระเบื้องหรือแกรนิต ช่วยให้เท้าไม่สัมผัสความเย็นโดยตรง ผู้สูงอายุจำนวนมากมีปัญหาเรื่องข้อเสื่อมและเส้นเลือดฝอยที่แข็งตัวง่าย ทำให้พื้นเย็นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ็บข้อ หรือเดินไม่มั่นใจ การเลือกพื้นอุ่นจึงช่วยให้เดินได้ต่อเนื่องและมั่นคงขึ้น

2.4 เดินแล้วเงียบ

 พื้นที่มีระบบ Acoustic หรือใช้ Underlay ดูดซับเสียง จึงช่วยปรับสภาพบ้านให้เงียบ เดินสบาย ไม่รบกวนข้อต่อ และช่วยให้ผู้สูงอายุเดินได้อย่างมั่นใจ

2.5 มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขภาพ (Low VOC)  ลดการระคายเคืองระบบหายใจ

ผู้สูงอายุมีภูมิคุ้มกันอ่อนลง ควรเลือกพื้นไม้ที่มีค่า VOC ต่ำเพื่อลดสารเคมีระเหยที่อาจก่อให้เกิดอาการวิงเวียนหรือแพ้

มาตรฐานที่ควรมี

• E1 / E0: มาตรฐานการปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ต่ำ

• Floorscore®: รับรองคุณภาพอากาศในอาคารระดับสากล

• Greenguard / Greenguard Gold®: ปลอดสารระเหยเหมาะกับผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วย