การเลือกพื้นที่ดีคือจุดเริ่มต้น แต่การดูแลรักษาที่ถูกต้องคือสิ่งที่กำหนด “อายุการใช้งานจริง” ของพื้นในพื้นที่เชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร โรงแรม หรือร้านค้าแฟชั่น พื้นต้องรับมือกับการใช้งานหนักตลอดทั้งวัน ทั้งการเดินเข้า–ออกไม่หยุด ของหก ความชื้น การลากเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงความคาดหวังด้านภาพลักษณ์ที่สูงกว่าอาคารพักอาศัยทั่วไป บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีดูแลพื้นอย่างเป็นระบบ เพื่อยืดอายุการใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายซ่อม และรักษาความสวยของธุรกิจให้นานที่สุด
1.ทำไมพื้นเชิงพาณิชย์ต้องดูแลต่างจากพื้นบ้านทั่วไป
พื้นในพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม คาเฟ่ หรือร้านค้าแฟชั่น ต้องเผชิญกับการใช้งานหนักกว่าพื้นบ้านทั่วไปหลายเท่า ทั้งจำนวนคนเดินเข้า–ออกตลอดวัน (High Traffic) ความชื้นจากการล้างทำความสะอาด ของหกบ่อยในโซนเครื่องดื่ม–ซิงก์ รวมถึงการขยับโต๊ะ เก้าอี้ และการลากสัมภาระที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้พื้นเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหากไม่มีการดูแลที่เหมาะสม นอกจากนี้ พื้นถือเป็นส่วนหนึ่งของ “ภาพลักษณ์ร้านและแบรนด์” ลูกค้ามักสังเกตความสะอาด ความเรียบร้อย และความเนี๊ยบของพื้นที่ทันทีเมื่อก้าวเข้ามา จึงต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอมากกว่าพื้นบ้านทั่วไป เพื่อให้พื้นคงความสวยงาม น่าเชื่อถือ และสะท้อนความเป็นมืออาชีพของธุรกิจได้ตลอดเวลา
2.วิธีป้องกันรอยขีดข่วนจากโต๊ะ เก้าอี้ และสัมภาระ
ติด Felt Pad ใต้ขาโต๊ะ–เก้าอี้
ช่วยลดแรงเสียดสีและเสียงขณะเลื่อนเฟอร์นิเจอร์ใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Protector Pads)
เหมาะสำหรับร้านที่จัดเลย์เอาต์บ่อย ลดรอยขนแมวบนพื้นหลีกเลี่ยงการลากกระเป๋าล้อเลื่อนบนพื้นโดยตรง
แนะนำติดป้ายแจ้งลูกค้า หรือจัดเส้นทางที่มีพรมรองรับจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เคลื่อนย้ายง่าย
ลดโอกาสลากเฟอร์นิเจอร์ข้ามระยะไกลแบบไม่จำเป็นเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฐานรองนุ่มหรือฐานยาง
ลดแรงกดเฉพาะจุดและป้องกันรอยลึกบนพื้น
3.การควบคุมความชื้นและอุณหภูมิภายในอาคาร
ความชื้นและอุณหภูมิเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของพื้นไม้เชิงพาณิชย์และพื้นไวนิล โดยเฉพาะอาคารปิดที่เปิดแอร์ทั้งวัน หากความชื้นสะสมมากเกินไป พื้นอาจบวม ยกตัว หรือเกิดเชื้อราใต้แผ่นได้ง่าย ขณะที่อากาศแห้งเกินไปอาจทำให้พื้นบางประเภทหดตัวหรือเกิดรอยแยก การควบคุมสภาพแวดล้อมให้ “สมดุล” จึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น เปิดระบบระบายอากาศเป็นช่วง ๆ ใช้เครื่องลดความชื้นในโซนที่เปียกบ่อย หรือหลีกเลี่ยงการปล่อยให้น้ำขังบนผิวพื้น วิธีนี้ช่วยยืดอายุพื้นและลดปัญหาโครงสร้างในระยะยาว
4.อุปกรณ์และน้ำยาที่ควรใช้ (และควรหลีกเลี่ยง)
ใช้ไม้ถูแบบไมโครไฟเบอร์
อ่อนโยนต่อผิวพื้น ไม่ทิ้งรอยขัดและซับฝุ่นได้ดีใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน (pH เป็นกลาง)
ทำความสะอาดได้โดยไม่ทำลายผิวหน้าของพื้นไม้เชิงพาณิชย์ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นไวนิลโดยเฉพาะ
ปลอดภัยกว่า ลดโอกาสผิวหมองหรือลื่นหลีกเลี่ยงแปรงขัดหรือสก๊อตไบรท์แบบหยาบ
ทำให้เกิดรอยเสริมหรือ “ผิวด้าน” บนพื้นได้ง่ายหลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีกรด–ด่างรุนแรง หรือแอลกอฮอล์เข้มข้น
อาจกัดผิวหน้า ทำให้เคลือบปกป้องเสื่อมเร็วไม่ควรใช้เครื่องขัดพื้นความเร็วสูง (High-Speed Buffer)
พื้นไม่เหมาะกับแรงเสียดสีสูง อาจทำให้เกิดรอยไหม้หรือผิวด้านถาวร
5.ควรตรวจเช็กสภาพพื้นถี่แค่ไหนในพื้นที่ที่มีคนใช้งานหนัก
ตรวจเช็กประจำสัปดาห์
มองหารอยขีดข่วน รอยบุ๋ม ขอบแผ่นโก่ง เสียงดังผิดปกติขณะเดินตรวจเช็กประจำเดือน
ตรวจจุดเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น หน้าเคาน์เตอร์ โซนเครื่องดื่ม พื้นที่ลากเก้าอี้บ่อยตรวจความชื้นใต้พื้นเป็นรายไตรมาส
เพื่อป้องกันปัญหาบวม เชื้อรา หรือความเสียหายที่มักเกิดในอาคารปิดรีวิวความเสียหายเชิงโครงสร้างปีละครั้ง
ใช้สำหรับวางแผนซ่อมบำรุงระยะยาว ลดค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในอนาคตอัปเดต Maintenance Log เสมอ
ช่วยให้รู้จุดที่พังบ่อยและปรับแผนการดูแลได้ตรงจุดกว่าเดิม *อ่านบทความ ข้อควรระวังในการเลือกพื้น ที่มักถูกมองข้ามสำหรับ พื้นไม้เชิงพาณิชย์ ได้ที่นี่
พื้นในพื้นที่เชิงพาณิชย์จะคงคุณภาพได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับทั้งการเลือกวัสดุที่เหมาะสม และการดูแลรักษาต่อเนื่องที่ถูกวิธี หากคุณต้องการพื้นที่ทนรอย ทนน้ำ เดินเงียบ และดูแลง่ายตั้งแต่วันแรก พื้นไวนิล Allure จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ออกแบบมาครบสำหรับงานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงเทคโนโลยี Isocore และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ช่วยให้ธุรกิจของคุณสวย น่าเชื่อถือ และพร้อมรองรับการใช้งานหนักในทุกวันได้อย่างมั่นใจ