สำหรับเจ้าของบ้านยุคใหม่ที่มองหาพื้นสวย ทน และปลอดภัย กระเบื้องยาง SPC คือ คำตอบยอดนิยมที่รวมทุกคุณสมบัติไว้ในหนึ่งเดียว บทความนี้ VK Floor จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับพื้น SPC ตั้งแต่โครงสร้าง การติดตั้ง ไปจนถึงความปลอดภัย เพื่อให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจ
1. กระเบื้องยาง SPC คืออะไร?
SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite หรือ “พื้นไวนิลผสมหินปูน” เป็นวัสดุปูพื้นแบบแข็ง (Rigid Core) ที่ผสม แคลเซียมคาร์บอเนต+ PVC เกรดบริสุทธิ์ (Virgin Vinyl) ผ่านกระบวนการอัดร้อน ทำให้ได้แผ่นพื้นแข็งแรง ทนแรงกด และไม่บวมหรือโก่งตัว
2. กระเบื้องยาง SPC กันน้ำได้จริงไหม?
ได้จริง พื้น SPC ไม่ดูดซึมน้ำ จึงไม่บวม ไม่ยืดตัว เหมาะกับพื้นที่เสี่ยงความชื้น เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ (เฉพาะพื้นที่แห้ง) และบริเวณซักล้าง
3. พื้น SPC ทนทานแค่ไหน?
ทนต่อแรงกระแทก รอยขีดข่วน และการใช้งานหนักได้ดีมาก เพราะมี Wear Layer ป้องกันรอย และ UV Coating เคลือบผิวกันรอยขีดข่วน เหมาะกับบ้านที่มีเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือพื้นที่ที่มีคนเดินบ่อย
4. กระเบื้องยาง SPC มีข้อดีอะไรบ้าง?
กันน้ำ
แข็งแรงและทนรอย
ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง มีให้เลือกหลายลาย
ติดตั้งง่ายด้วยระบบ Click Lock
ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องขัดหรือเคลือบผิว
5.การติดตั้งพื้น SPC ทำอย่างไร?
ติดตั้งได้ง่ายมากด้วยระบบ Click Lock System ที่เพียงวางและคลิกล็อกแผ่นให้แน่นต่อกัน โดยไม่ต้องใช้กาว สามารถปูได้บนพื้นปูน พื้นกระเบื้อง หรือพื้นไม้เดิมที่เรียบและแห้ง
6. พื้น SPC ปลอดภัยต่อเด็กและสัตว์เลี้ยงไหม?
ปลอดภัยแน่นอน เพราะไม่มีสารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde-Free) และผ่านมาตรฐาน E1 / FloorScore / CE ปล่อยสารระเหยต่ำ (Low VOCs) ไม่มีกลิ่นเคมี
7. พื้น SPC ต้องดูแลยังไง?
แค่กวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำ และถูด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หมาด ๆ ใช้น้ำยา pH เป็นกลาง หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีกรดหรือด่างแรง
8.พื้น SPC ใช้งานได้นานแค่ไหน?
โดยทั่วไปอยู่ได้ 15–25 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าและการดูแล รุ่นพรีเมียมของ VK Floor ผ่านการทดสอบรอยขีดข่วนและรังสี UV จึงมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ามาตรฐานทั่วไป
กระเบื้องยาง SPC ไม่ใช่แค่พื้นสวยแต่ยังเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ทั้งในเรื่อง ดีไซน์ ความทนทาน และความปลอดภัยต่อคนในบ้าน หากคุณกำลังมองหาพื้น SPC คุณภาพสูง ปลอดสารพิษ และผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับโลก แนะนำ VK Floor ผู้นำด้านพื้นนำเข้าคุณภาพจากทั่วโลก เพราะ “พื้นดี” คือรากฐานของบ้านที่ยั่งยืน
