เคล็ดลับดูแลพื้นหลังรีโนเวทให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ | ยืดอายุพื้นไม้ให้สวยนานหลายปี

Table of Contents

                  พื้นไม้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไม้จริง เอ็นจิเนียร์ ลามิเนต หรือ SPC ต่างก็มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ “ต้องการการดูแลที่เหมาะสม” เพื่อให้คงความสวยและคงทนไปได้นานหลายปี เจ้าของบ้านหลายคนอาจคิดว่าพื้นไม้ดูแลยาก แต่จริง ๆ แล้ว หากเข้าใจวิธีดูแลที่ถูกต้องตามประเภทของวัสดุ ก็สามารถรักษาความงาม ความเงา และผิวสัมผัสของพื้นให้เหมือนใหม่ได้โดยไม่ยุ่งยากเลย

1.ตรวจเช็กพื้นหลังรีโนเวท  ต้องดูอะไรบ้างก่อนเริ่มใช้งานจริง

หลัง รีโนเวทบ้าน เสร็จเรียบร้อย อย่าเพิ่งรีบย้ายเฟอร์นิเจอร์กลับเข้าบ้าน เพราะขั้นตอนการ “ตรวจเช็กพื้น” คือสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหาพื้นเสียในอนาคต เจ้าของบ้านควรใช้เวลาเช็กสภาพพื้นอย่างละเอียดก่อนเริ่มใช้งานจริง ดังนี้

1.1  ตรวจสอบเสียงพื้นและความแน่นของแผ่น:

เดินทดสอบทั่วห้อง หากได้ยินเสียง “เอี๊ยด” หรือ “กลวง” แสดงว่ามีจุดที่พื้นไม่แน่นหรือมีช่องว่างใต้พื้น ควรแจ้งช่างให้แก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการโก่งตัวหรือแตกร้าวในอนาคต

1.2  เช็กการยืดหดของไม้:

สำหรับพื้นไม้จริงและพื้นเอ็นจิเนียร์ ควรเว้นระยะขอบผนังราว 8–10 มม. เพื่อรองรับการขยายตัวตามอุณหภูมิ หากพื้นแนบขอบเกินไปอาจทำให้พื้นโก่งหรือยกตัวเมื่ออากาศร้อน

1.3 ตรวจรอยต่อและแนวพื้น:

ตรวจดูรอยต่อระหว่างแผ่นพื้นว่าชิดสนิทหรือไม่ มีช่องว่างหรือขอบลอยหรือเปล่า โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ประตูหรือมุมห้องซึ่งมักเป็นจุดอ่อนของการติดตั้ง

1.4 ตรวจการเก็บงานขอบบัวและซิลิโคน:

ขอบบัวพื้นควรติดแน่น ไม่หลวม ไม่มีช่องว่างระหว่างพื้นกับผนัง และซิลิโคนที่เก็บขอบต้องเรียบเสมอ เพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้นซึมเข้าสู่พื้น

1.5 รอเซ็ตตัวก่อนใช้งานจริง:

หลังติดตั้งใหม่ควรรออย่างน้อย 24–48 ชั่วโมงก่อนใช้งานหนัก เพื่อให้กาวหรือระบบคลิกล็อกเซ็ตตัวเต็มที่ โดยเฉพาะในกรณีพื้นไม้จริงหรือลามิเนตที่มีการใช้กาวหรือโฟมรองพื้น

2.ข้อควรระวังในการใช้งานประจำวัน 

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป:
    ไม่ควรถูพื้นด้วยผ้าเปียกชุ่ม โดยเฉพาะพื้นไม้จริงและพื้นลามิเนต เพราะความชื้นจะซึมเข้าสู่รอยต่อ ทำให้ไม้บวม โก่ง หรือเปลี่ยนสี ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ แทน

  • อย่าปล่อยให้น้ำขังบนพื้น:
    น้ำจากกระถางต้นไม้หรือการรั่วซึมจากห้องน้ำสามารถสร้างความเสียหายได้ แม้กับพื้นกันน้ำอย่าง SPC หรือไวนิล ควรรีบเช็ดให้แห้งทันทีเมื่อมีของเหลวหกลงพื้น

  • หลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์:
    ควรยกเฟอร์นิเจอร์แทนการลาก เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน และควรติด แผ่นรองขาโต๊ะ/เก้าอี้ (Furniture Pads) โดยเฉพาะบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น โต๊ะกินข้าว หรือโต๊ะทำงาน

  • ป้องกันแสงแดดโดยตรง:
    แสง UV จากดวงอาทิตย์สามารถทำให้สีพื้นซีดจางหรือเปลี่ยนเฉดได้ ควรใช้ม่านกันแสง หรือฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง เพื่อรักษาความสวยของสีพื้นในระยะยาว

  • รักษาความสะอาดเป็นประจำ:
    ฝุ่นทรายเล็กๆ ทำหน้าที่เหมือนกระดาษทรายที่คอยขูดผิวพื้น ควรดูดฝุ่นหรือกวาดพื้นเป็นประจำ โดยเฉพาะในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือเด็ก เพื่อป้องกันการเกิดรอย

3.วิธีดูแลพื้นไม้แต่ละประเภทให้คงความสวยยาวนาน

3.1 พื้นไม้จริง (Solid Wood Floor)

  • หลีกเลี่ยงน้ำขังหรือการถูด้วยผ้าเปียก ควรใช้ผ้าแห้งหมาดเท่านั้น

  • ใช้น้ำยาเคลือบผิว (Wax / Oil Finish) เป็นระยะ เพื่อคงความเงาและป้องกันรอยขีดข่วน

  • ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้องให้อยู่ระหว่าง 45–55% เพื่อป้องกันไม้หดหรือบวม

3.2 พื้นไม้คอมพาวด์ (Compound Wood Floor)

  • ทำความสะอาดด้วยไม้กวาดขนอ่อนหรือผ้าไมโครไฟเบอร์

  • หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีกรดหรือด่างแรง

  • หากมีคราบฝังแน่น ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นไม้คอมพาวด์โดยเฉพาะ

3.3  พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Floor)

  • หลีกเลี่ยงความชื้นสูงและน้ำหกทิ้งไว้นาน

  • ใช้น้ำยาเคลือบไม้ชนิด Oil-based หรือ Hardwax Oil เพื่อรักษาผิวหน้าไม้

  • หมั่นเช็ดฝุ่นและใช้แผ่นรองใต้เฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันรอย

3.4 พื้นลามิเนต (Laminate Floor)

  • ห้ามถูพื้นด้วยน้ำมากเกินไป ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หมาดแทน
  • ใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับพื้นลามิเนต ห้ามใช้น้ำยาถูพื้นทั่วไป

  • หากมีแผ่นที่โก่งหรือบวม ควรรีบแจ้งช่างเพื่อตรวจสอบความชื้นใต้พื้น

3.5 พื้นไวนิล / SPC (Vinyl / SPC Floor)

  • กวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำ เพื่อป้องกันรอยขีดจากเม็ดทราย

  • ใช้น้ำสบู่อ่อนหรือน้ำยาทำความสะอาดพื้นไวนิลโดยเฉพาะ

  • หลีกเลี่ยงการใช้แปรงแข็งหรือผงซักฟอกที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจทำลายชั้นเคลือบ UV

  • หากต้องเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ควรใช้แผ่นรองหรือผ้ารองทุกครั้ง

                    พื้นไม้คือการลงทุนระยะยาวที่เพิ่มทั้งมูลค่าและความอบอุ่นให้บ้าน หากดูแลอย่างถูกวิธี พื้นไม้คุณภาพดีจะอยู่กับเราได้หลายสิบปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ เพียงแค่ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงความชื้น และใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ ทุกวัน พื้นไม้ของคุณก็จะยังคงงดงามและแข็งแรงเหมือนวันติดตั้ง และหากกำลังมองหาวัสดุปูพื้นคุณภาพที่ทั้งสวยและดูแลง่าย VK Floor พร้อมให้คำแนะนำและมีสินค้าพื้นไม้ทุกประเภทที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์บ้านของคุณ  เพื่อให้ “พื้นสวยอยู่คู่บ้านได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ”

Google Map
Line
Line
Google Map