พื้นไม้มีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร? เปรียบเทียบแบบละเอียดก่อนตัดสินใจ

พื้นไม้มีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร? เปรียบเทียบแบบละเอียดก่อนตัดสินใจ

Table of Contents

             การเลือก พื้นไม้ ไม่ใช่แค่การหาวัสดุที่สวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงสไตล์ ความทนทาน และความคุ้มค่าของบ้านหรือโครงการในระยะยาว ปัจจุบันมีพื้นไม้หลากหลายประเภท ทั้งพื้นไม้จริง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ พื้นไม้คอมพาวด์ ลามิเนต ไวนิล และ SPC ซึ่งแต่ละชนิดต่างมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานแตกต่างกันไป หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกแบบไหนดี บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงประเภทพื้นไม้ ข้อดี–ข้อควรระวัง พร้อมคำแนะนำวิธีเลือกให้เหมาะกับบ้านหรือโครงการของคุณ

1.พื้นไม้จริง (Solid Wood)

พื้นไม้จริง (Solid Wood) คือพื้นไม้ที่ทำจากไม้ธรรมชาติทั้งชิ้น โดยเลื่อยจากท่อนซุงออกมาเป็นแผ่น แล้วนำมาผ่านกระบวนการอบแห้งและแปรรูปให้ได้ขนาดมาตรฐาน พื้นไม้ประเภทนี้ถือเป็นวัสดุปูพื้นที่คลาสสิกและได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยความโดดเด่นด้านความสวยงามตามธรรมชาติ ลวดลายและสีสันของไม้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้แต่ละแผ่นมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูง สามารถขัดผิวและทำสีใหม่ได้หลายครั้ง จึงมีอายุการใช้งานยาวนานนับสิบปี เหมาะสำหรับบ้านหรู โครงการระดับพรีเมียม หรือผู้ที่ต้องการบรรยากาศอบอุ่นและความหรูหราภายในบ้านอย่างแท้จริง

ข้อดี

  • ราคาประหยัดและเข้าถึงง่าย

  • ความคงตัวสูง ไม่หดหรือบิดง่าย

  • มีหลากหลายดีไซน์และสีสันให้เลือก

  • ติดตั้งง่าย เหมาะกับงานโครงการที่ต้องการควบคุมงบ

ข้อควรระวัง

แม้พื้นไม้คอมพาวด์จะมีข้อดีเรื่องราคาและความคงตัว แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึง คือความแข็งแรงในระยะยาวอาจไม่เทียบเท่าไม้จริง หากชั้นผิวด้านบนเกิดความเสียหาย เช่น เป็นรอยลึกหรือบวมจากความชื้น มักซ่อมแซมได้ยาก และในหลายกรณีจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่แทนการซ่อมเฉพาะจุด

2.พื้นไม้คอมพาวด์ (Compound Wood)

พื้นไม้คอมพาวด์ (Compound Wood) คือพื้นไม้จริงที่นำมาประกอบซ้อนกันหลายชั้น โดยชั้นบนสุดนิยมใช้วีเนียร์ไม้จริงคุณภาพสูงอย่างไม้โอ๊ค เพื่อโชว์ลวดลายธรรมชาติที่สวยงามและสามารถขัดเคลือบใหม่ได้เมื่อใช้งานไปนาน ชั้นกลางเสริมด้วยไม้จริงทั้งชิ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของโครงสร้าง ส่วนชั้นล่างใช้ไม้เนื้อแข็งเต็มแผ่นเป็นฐานรองรับ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ป้องกันการโก่งงอ และยืดอายุการใช้งานของพื้นไม้โดยรวม ทำให้พื้นไม้คอมพาวด์เป็นทางเลือกที่ผสมผสานความสวยงามแบบไม้แท้เข้ากับความทนทานที่เหนือกว่าไม้จริงทั้งแผ่นเพียงชั้นเดียว

ข้อดี

  • ราคาประหยัดและเข้าถึงง่าย

  • ความคงตัวสูง ไม่หดหรือบิดง่าย

  • มีหลากหลายดีไซน์และสีสันให้เลือก

  • ติดตั้งง่าย เหมาะกับงานโครงการที่ต้องการควบคุมงบ

ข้อควรระวัง
พื้นไม้คอมพาวด์อาจไม่แข็งแรงเท่าไม้จริงในระยะยาว และหากชั้นผิวเกิดความเสียหายมักซ่อมแซมได้ยาก ต้องเปลี่ยนใหม่แทน

3.พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood)

พื้นลามิเนต (Laminate Flooring) คือวัสดุปูพื้นที่ผลิตจากแผ่นไม้บดอัดความหนาแน่นสูงหรือ HDF (High Density Fiberboard) แล้วเคลือบผิวด้านบนด้วยลวดลายพิมพ์ที่เลียนแบบไม้จริง พร้อมชั้นเคลือบกันรอยขีดข่วนและความชื้นในระดับหนึ่ง จุดเด่นของพื้นลามิเนตคือมีราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับพื้นไม้จริงหรือเอ็นจิเนียร์ อีกทั้งยังติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อกโดยไม่ต้องใช้กาว ทำให้สามารถเปลี่ยนหรือซ่อมเฉพาะจุดได้สะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามใกล้เคียงไม้แท้ในงบประมาณที่คุ้มค่า

ข้อดี

  • ราคาถูกกว่าพื้นไม้ประเภทอื่น ๆ

  • ลวดลายสมจริงใกล้เคียงไม้แท้

  • ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก

  • ซ่อมแซมและเปลี่ยนบางส่วนได้สะดวก

ข้อควรระวัง
ไม่ทนต่อน้ำและความชื้น หากโดนน้ำขังอาจบวมและเสียหายได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ในห้องครัวหรือห้องน้ำ

5.พื้นไวนิล (Vinyl Flooring)

พื้นไวนิล (Vinyl Flooring) คือวัสดุปูพื้นที่ทำจากโพลีเมอร์สังเคราะห์ (PVC) ผสมสารเพิ่มความทนทาน ทำให้แผ่นพื้นมีความยืดหยุ่นและกันน้ำได้ 100% จุดเด่นของพื้นไวนิลคือให้สัมผัสนุ่มสบายเวลาเดิน ดูแลรักษาง่าย และมีลวดลายหลากหลาย โดยเฉพาะลายไม้ที่ทำออกมาได้สมจริงจนแทบไม่ต่างจากไม้ธรรมชาติ พื้นไวนิลจึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องครัว ห้องซักล้าง หรือพื้นที่ใช้งานที่ต้องการการดูแลสะดวก อีกทั้งยังมีราคาย่อมเยากว่าไม้จริงและเอ็นจิเนียร์ จึงตอบโจทย์ทั้งบ้านพักอาศัยและคอนโดที่ต้องการความคุ้มค่าและความสวยงามไปพร้อมกัน

ข้อดี

  • กันน้ำและความชื้นได้ดี

  • เดินสบาย ลดเสียงก้อง

  • ราคาย่อมเยาและหลากหลายลวดลาย

  • ดูแลทำความสะอาดง่าย

ข้อควรระวัง
แม้กันน้ำได้ แต่พื้นผิวอาจเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายหากใช้งานหนัก และอายุการใช้งานอาจสั้นกว่าไม้จริงหรือเอ็นจิเนียร์

6.กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite Flooring) 

กระเบื้องยาง SPC หรือ Stone Plastic Composite Flooring คือวัสดุปูพื้นที่พัฒนามาจากพื้นไวนิล โดยเพิ่มส่วนผสมของหินปูน (Calcium Carbonate) เข้ากับโพลีเมอร์ ทำให้แผ่นพื้นมีความแข็งแรง คงตัวสูง และทนทานต่อแรงกดทับหรือการขีดข่วนมากกว่าไวนิลทั่วไป จุดเด่นของกระเบื้องยาง SPC คือ กันน้ำ 100% ไม่บวม ไม่หดตัวเมื่อเจอความชื้นหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อกและมีดีไซน์หลากหลาย โดยเฉพาะลายไม้ที่สมจริงจนใกล้เคียงไม้ธรรมชาติ เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในบ้าน คอนโด ร้านค้า หรือโครงการที่ต้องการพื้นสวยงาม ดูแลรักษาง่าย และใช้งานได้ยาวนาน

ข้อดี

  • กันน้ำ 100% ใช้ได้ทุกพื้นที่

  • แข็งแรงและทนแรงกดทับสูง

  • ไม่หดหรือบวมง่าย แม้เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ

  • ทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่าไวนิลทั่วไป

ข้อควรระวัง
พื้น SPC แข็งและแน่นกว่าไวนิล จึงอาจให้สัมผัสเดินที่ไม่ “นุ่มสบาย” เท่า อีกทั้งหากติดตั้งผิดวิธีอาจเกิดช่องว่างหรือเสียงดังได้

หมายเหตุ :  สามารถอ่านบทความ พื้นที่การใช้งานของพื้นไม้แต่ละประเภท ได้ในที่นี่ คลิกเลย!!!

7.ตารางสรุปประเภทพื้นไม้

ประเภทพื้นไม้คืออะไรข้อดีข้อควรระวัง
พื้นไม้จริง (Solid Wood)พื้นไม้แท้ทั้งแผ่นจากท่อนซุง ผ่านการอบและแปรรูป– สวยงามเป็นธรรมชาติ- อายุการใช้งานยาวนาน- ขัดทำสีใหม่ได้หลายครั้ง- เพิ่มมูลค่าให้บ้านราคาสูง ดูแลยาก ไม่ทนชื้น หากติดตั้งในที่ไม่เหมาะสมอาจบิดงอหรือผิวเสียหาย
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood)ไม้จริงบาง ๆ ด้านบน + โครงสร้างไม้ประกอบหลายชั้น– หรูหราใกล้เคียงไม้จริง- คงตัวสูง ไม่หดบวมง่าย- ทนต่อความชื้นดีกว่าไม้จริง- ราคาถูกกว่าไม้แท้เต็มแผ่นไม่ทนต่อน้ำท่วมขังนาน ๆ และขัดทำสีซ้ำได้จำกัด
พื้นไม้คอมพาวด์ (Compound Wood)ผลิตจากเศษไม้/ผงไม้ผสมกาวและวัสดุสังเคราะห์ อัดขึ้นรูป– ราคาประหยัด- ความคงตัวสูง- ติดตั้งง่าย- ลวดลายหลากหลายความแข็งแรงสู้ไม้จริงไม่ได้ หากผิวเสียหายซ่อมยาก ต้องเปลี่ยนใหม่
พื้นลามิเนต (Laminate Flooring)HDF เป็นแกนกลาง เคลือบลายไม้พิมพ์และชั้นกันรอย– ราคาย่อมเยา- ลายไม้สมจริง- ติดตั้งคลิกล็อกง่าย- เปลี่ยนบางส่วนได้ไม่ทนน้ำ หากโดนน้ำขังจะบวมง่าย ไม่เหมาะกับห้องเปียก
พื้นไวนิล (Vinyl Flooring)ทำจากโพลีเมอร์ (PVC) มีความยืดหยุ่น กันน้ำ 100%– กันน้ำได้ดี- เดินสบาย- ลวดลายหลากหลาย- ดูแลทำความสะอาดง่ายผิวเป็นรอยขีดข่วนง่ายกว่าไม้จริง อายุการใช้งานสั้นกว่า
พื้น SPC (Stone Plastic Composite)ไวนิลผสมหินปูน แข็งแรง คงตัวสูง กันน้ำ 100%– ทนทาน แข็งแรง- กันน้ำ 100%- ไม่หดบวมตามอุณหภูมิ- กันรอยขีดข่วนดีกว่าไวนิลพื้นค่อนข้างแข็ง เดินไม่ “นุ่ม” เท่าไวนิล หากติดตั้งไม่ดีอาจเกิดช่องว่างหรือเสียงดัง

                     ไม่ว่าคุณจะเลือกพื้นไม้ประเภทใด สิ่งสำคัญคือคุณภาพของวัสดุและความเชื่อมั่นในแบรนด์ หากคุณกำลังมองหาพื้นไม้ที่ทั้งสวยงาม ทนทาน และได้มาตรฐานสากล VK Floor พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ เราคัดสรรพื้นไม้คุณภาพสูง ทั้ง พื้นไม้จริง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ พื้นไม้คอมพาวด์ ลามิเนต ไวนิล และ SPC ที่ผ่านการออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้บ้านและโครงการของคุณโดดเด่น คงทน และคุ้มค่าในทุกการลงทุน

Google Map
Line
Line
Google Map