ข้อควรระวัง กระเบื้องยางSPC? รวมปัญหาที่มีโอกาสเจอ พร้อมวิธีป้องกัน

ข้อควรระวัง กระเบื้องยางSPC? รวมปัญหาที่มีโอกาสเจอ พร้อมวิธีป้องกัน     

กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite) กำลังเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มเจ้าของบ้าน สถาปนิก และอินทีเรียที่มองหาพื้นทางเลือกที่ให้ทั้ง “ความสวยงามแบบไม้” และ “ความทนทานแบบกระเบื้อง” แต่ถึงแม้พื้น SPC จะดูแข็งแรงและติดตั้งง่าย แต่ก็ยังมี ข้อควรระวังสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อนติดตั้งและใช้งานจริง เพื่อยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหาในอนาคต และคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด

ในบทความนี้ VK Floor จะพาคุณมาเจาะลึกถึง : ปัญหาที่พบได้บ่อยในการใช้งานกระเบื้องยาง SPC, สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านั้น และ วิธีป้องกันและแนวทางแก้ไขอย่างมืออาชีพ

1.กระเบื้องยาง SPC คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยม?

SPC หรือ Stone Plastic Composite คือกระเบื้องไวนิลรุ่นที่มีชั้นแกนกลาง (Core) ทำจาก แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) ผสมกับ PVC บริสุทธิ์ (Virgin PVC) ทำให้แผ่นมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกดทับ และไม่บวมน้ำ จุดเด่นของ SPC

• กันน้ำ 100%

• กันปลวกโดยธรรมชาติ

• ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง

• เดินสบายเท้ากว่ากระเบื้องเซรามิก

• ติดตั้งแบบคลิกล็อค ไม่ต้องใช้กาว

แต่ในความแข็งแรงนี้เอง กลับมีบางข้อที่ “ต้องระวัง” เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

2.ควรปรับพื้นหน้างานให้เรียบและได้ระดับก่อนการติดตั้ง กระเบื้องยาง SPC

           ในการติดตั้ง กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite) ความเรียบ และความได้ระดับของ พื้นผิวหน้างาน นับเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพของการติดตั้ง และอายุการใช้งานของวัสดุปูพื้นชนิดนี้

          กระเบื้องยาง SPC มีโครงสร้างที่แข็งและบาง โดยผลิตจาก Calcium Carbonate และ Virgin PVC ซึ่งให้คุณสมบัติด้านความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกดทับ และสามารถใช้งานได้ในพื้นที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังการใช้กระเบื้องยางSPC ด้วยลักษณะที่ค่อนข้างแข็ง และไม่ยืดหยุ่นนี้เอง ทำให้ กระเบื้องยาง SPC ไม่สามารถ “ปรับตัว” ให้เข้ากับสภาพพื้นผิวเดิมที่ไม่เรียบหรือมีความต่างระดับได้เหมือนวัสดุปูพื้นชนิดอื่นที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า เช่น พื้นยาง หรือพรม

           หากติดตั้ง กระเบื้องยาง SPC ลงบนพื้นผิวที่มีความไม่สม่ำเสมอ เช่น พื้นเอียง พื้นลอน พื้นที่มีรอยบิ่น หรือหลุมบ่อ อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น:

• การยุบตัวเฉพาะจุด ทำให้ พื้น มีลักษณะเป็นแอ่ง
• แผ่น กระเบื้องยาง SPC เกิดการงอ โก่ง หรือแตกในบางจุด
• เสียงดังขณะเดินใช้งานจากช่องว่างใต้แผ่น พื้น
• การแยกตัวของแผ่น พื้น บริเวณที่ไม่ได้ระดับ
• การเสื่อมสภาพเร็วของวัสดุ และลดอายุการใช้งานโดยรวม

          ดังนั้น ก่อนดำเนินการติดตั้งจึง จำเป็นต้องปรับสภาพ พื้น หน้างานให้เรียบและได้ระดับมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น พื้น ปูนเดิม พื้นกระเบื้อง หรือ พื้นไม้ เพื่อให้สามารถติดตั้ง กระเบื้องยาง SPC ได้อย่างแนบสนิทและเรียบเนียนตลอดทั้ง พื้น ที่ โดยอาจมีการปรับระดับด้วยปูนปรับระดับ หรือใช้วัสดุปรับ พื้น ชนิดอื่นตามความเหมาะสมกับสภาพหน้างาน

การเตรียม พื้น ผิวให้ได้มาตรฐานก่อนติดตั้งจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ทั้งสวยงาม แข็งแรง และคงทนในระยะยาว

2.กระเบื้องยาง SPC มีโอกาสแตกร้าวหรือเสียหายได้ในบางกรณี

            แม้ว่า กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite) จะขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทก แต่ในบางกรณีก็ยังมีโอกาสเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการกระทำที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสมต่อ พื้น ผิวของวัสดุนี้

           กระเบื้องยาง SPC มีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Carbonate ผสมกับ Virgin PVC ซึ่งให้ความแข็งแรงและลักษณะเนื้อวัสดุที่ค่อนข้างแน่นคล้ายคลึงกับกระเบื้องเซรามิกในบางด้าน กล่าวคือ แม้จะมีความยืดหยุ่นและทนต่อแรงกดทับระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถรับแรงกระแทกอย่างรุนแรงได้ทั้งหมด โดยเฉพาะแรงกระแทกจากของแข็งที่มีน้ำหนักมากและตกกระทบอย่างเฉียบพลัน

         ยกตัวอย่างเช่น หากมีการปล่อยวัตถุที่มีน้ำหนักมาก เช่น หม้อเหล็ก เครื่องมือก่อสร้าง หรือของตกแต่งโลหะขนาดใหญ่ จากที่สูงลงมากระทบ พื้น โดยตรง อาจทำให้เกิดรอยร้าว การสแตก (แตกเป็นเสี้ยว) หรือความเสียหายที่ผิวหน้าได้ เพราะ กระเบื้องยาง SPC มีความ “บาง” และ “แข็ง” จึงมีโอกาสเกิดรอยร้าวหรือแตกร้าวเฉพาะจุดได้คล้ายกับกระเบื้องปูพื้นทั่วไป หากไม่ระมัดระวัง

ด้วยเหตุนี้ จึงแนะนำให้ผู้ใช้งาน:

• หลีกเลี่ยงการโยนหรือทำของหล่นอย่างรุนแรงลงบน พื้น
• ใช้แผ่นรองใต้ เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักมาก
• ระมัดระวังเมื่อต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของภายในบ้าน เพื่อไม่ให้ของหนักตกลงมาอย่างไม่ตั้งใจ
• ในกรณีที่ใช้ใน พื้น ที่ที่มีโอกาสเกิดแรงกระแทกสูง เช่น ห้องครัวหรือบริเวณทางเดินที่มีการใช้งานมาก ควรพิจารณาวางพรมหรือแผ่นรองเพื่อช่วยลดแรงกระแทก